ในการแข่งขันของตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เรื่องของ สมรรถนะ หรือ ดีไซน์ อีกต่อไป แต่ยังมีเรื่องของเทคโนโลยี การขับขี่อัจฉริยะ ที่หลายค่ายกำลังเร่งพัฒนา แน่นอนว่าค่ายยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง บีวายดี (BYD) ก็ต้องพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว โดยล่าสุด ได้ผนึกกำลังกับ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากจีน ส่งผลให้หุ้นของบริษัทพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ค่ายรถหลายค่ายกำลังพัฒนา ระบบขับขี่อัจฉริยะ เพื่อเป็นจุดขายของรถ โดย BYD เองก็มีระบบขับขี่อัจฉริยะชื่อว่า God’s Eye เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ โดยจะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบข้างและตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ บนท้องถนนอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
Wang Chuanfu ผู้ก่อตั้งและประธานของ BYD เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดตัวระบบช่วยเหลือการขับขี่ God’s Eye ในรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของบริษัทอย่างน้อย 21 รุ่น รวมถึงรถราคาประหยัดเริ่มต้น 69,800 หยวน (ราว 452,000 บาท) โดย Wang Chuanfu เชื่อว่า ระบบการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงจะกลายเป็น มาตรฐาน เช่นเดียวกับการมีเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัย
ที่น่าสนใจคือ BYD ได้นำ AI จาก DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ชื่อดังของจีน มาร่วมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่ล้ำหน้าที่สุดอย่างน้อยหนึ่งระบบ ส่งผลให้หุ้นของ BYD พุ่งขึ้นมากกว่า 4% สู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 345 ดอลลาร์ฮ่องกง (44.24 ดอลลาร์สหรัฐ)
ด้าน Tu Le ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Sino Auto Insights มองว่า การผสานรวม DeepSeek มีความสำคัญมาก เพราะตอนนี้มีเทคโนโลยี AI แบบสแตนด์อะโลนที่พัฒนาเองภายในบริษัทแล้ว ซึ่ง BYD สามารถใช้ทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอคุณสมบัติอัจฉริยะที่เทียบเท่ากับที่คู่แข่งเสนอมา
“สิ่งนี้ทำให้ BYD กลับมาอยู่ในตำแหน่งผู้นำอีกครั้งเพื่อกำหนดจังหวะของฟีเจอร์ทางเทคโนโลยี จากเดิมที่ BYD ตามหลังคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติอยู่มาก”
ปัจจุบัน Xpeng ถือเป็น ผู้นำในด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ในประเทศจีน โดย He Xiaopeng ซีอีโอของ Xpeng มั่นใจว่า ภายในช่วงครึ่งหลังปี 2025 นี้บริษัทจะเป็นค่ายแรกที่บรรลุมาตรฐาน L3 หรือการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยผู้ใช้สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัย หรือละสายตาจากถนนได้ ขณะเปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ
ส่วนรถยนต์คู่แข่งจาก Li Auto, พันธมิตรของ Huawei, Nio และ Xiaomi ต่างก็อ้างว่ามีฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบจอดรถอัตโนมัติ ส่วน Tesla ที่มีระบบ Full-Self Driving ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีน
ด้านนักวิเคราะห์ของ Nomura มองว่า BYD มีแนวโน้มที่จะเป็น ผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในจีน ที่นำเสนอระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงสำหรับรถยนต์ราคาต่ำกว่า 70,000 หยวน และ BYD กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์การแข่งขันจากการ ตัดราคา มาเป็นการ อัปเกรดฟังก์ชัน แทน
อย่างไรก็ตาม Brian Tycangco นักวิเคราะห์จาก Stansberry Research มองว่า การที่ BYD ได้ DeepSeek มาเป็นพันธมิตรจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แต่ก็ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ยานยนต์ของ BYD จะ เข้าสู่ตลาดตะวันตกได้ยากขึ้น โดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกา เนื่องจาก เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ