ดนตรี ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อมคนเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้พรมแดน โดยช่วงที่ผ่านมา “EDM” เริ่มแพร่หลายในไทย และเป็นคีย์ไดเวอร์ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกระเป๋าหนักใช้จ่ายในไทยได้
เราจะเห็นได้จากเทศกาลดนตรีอีดีเอ็ม มักจะทำนิวไฮราคาบัตรได้ตลอด เช่น โซน VIP อีดีเอ็มที่มีราคาขายถึง “หลักล้านบาท” ทีเดียว
โดยช่วง “เทศกาลสงกรานต์” เป็นอีเวนต์ใหญ่ของไทย เป็นแม่เหล็กสำคัญให้เทศกาลดนตรีอีดีเอ็มไทยกระหึ่มโลกในปี 2568 นี้!
รชต ธันยาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด ผู้จัดงานเทศกาลดนตรีระดับใหญ่ กล่าวว่า ปี 2568 เตรียมลงทุน 500 ล้านบาท จัด 4 งานเทศกาลดนตรีใหญ่ใน กทม. เน้นแนว EDM
ประเดิมงานแรก คือ SIAM Songkran Music Festival ตรง RCA ใช้เงินลงทุน 250 ล้านบาท ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงาน 100,000 คน (ปีก่อน 70,000 คน) แบ่งเป็นคนไทย 50% และต่างชาติ อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น 50%
“SIAM Songkran Music Festival แต่ทุกรายละเอียดเราจะผสมความเป็นไทยเข้าไป ตั้งแต่งานอาร์ต ของที่ระลึก รวมถึงเทศกาลของไทย ซึ่งประเทศอื่นทำไม่ได้ นำมาเป็นจุดเด่น”
โดย ราคาบัตร ของ SIAM Songkran Music Festival เริ่มต้น 2,000-12,000 บาท ส่วนโซน VIP ราคา 5 ล้านบาท/โต๊ะ เข้าได้ 30 คน ตลอด 4 วันที่จัดงาน
ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเตรียมเข้าไทยช่วงวันสงกรานต์ ปี 2568 มีประมาณ 12 ล้านคน จะช่วยเป็นส่วนสนับสนุนให้การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับดี
“งานเทศกาลดนตรีมีการใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มางานเทศกาลดนตรี ใช้จ่ายเริ่มต้น 20,000-30,000 บาท/คน/ทริป และบางกลุ่มใช้เงินสูงถึง 100,000 บาท/คน/ทริป ผลกระทบทางอ้อมจากมิวสิคเฟสติวัล คือ ดันราคาโรงแรมใกล้ที่จัดงานเพิ่มขึ้น 3 เท่า”
ส่วนในภาพรวมเศรษฐกิจจากเทศกาลดนตรีมีมูลค่าราว ๆ 1,000 ล้านบาท และสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ อาหาร โรงแรม อีกประมาณ 7,000-7,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ วันเอเชีย เวนเจอร์ส คาดหวังรายได้จาก SIAM Songkran Music Festival ปี 2568 อยู่ที่ 250 ล้านบาท และรายได้ทั้งปี 600 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 300-350 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ตนมองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางเทศกาลดนตรีระดับสากล ด้วยความพร้อมของโรงแรม ภาคการท่องเที่ยว อาหาร และระบบคมนาคม สามารถแข่งขันได้กับทั้งสิงคโปร์ หรือกระทั่งเกาหลีใต้
โดยเฉพาะในระยะหลังที่ภาครัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์มากขึ้น และสนับสนุนผู้ประกอบการ อาทิ ด้านการลดภาษีนำเข้าสินค้าที่จำเป็นในอุตฯ ดนตรี เป็นต้น
ทว่าปัจจัยเสี่ยงธุรกิจก็ยังคงมี จากปีที่ผ่านมามีการจัดอีเวนต์-คอนเสิร์ตใหญ่มากขึ้น ทำให้การแข่งขันดุเดือด ทำให้มีงานสเกลใหญ่บางส่วนล้มหายไปบ้าง…