เปิดมุมมอง “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์” เจ้าพ่อตลาดทาวน์เฮ้าส์ ต่อมุมมองตลาดอสังหาริมทรัพย์ และภารกิจฟื้นคืนรายได้-กำไรของ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง
โดยคุณทองมา ฉายภาพ “ตลาดที่อยู่อาศัย” ต่อจากนี้ไปมีแนวโน้มเล็กลง หดตัวลงทุกปี จากเคยสูงสุดกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี เหลือเพียง 3.5 แสนล้านบาท และในอีก 5-6 ปีข้างหน้าอาจจะเหลือเพียง 2 แสนล้านบาท
ขณะที่โฟกัสภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2567 ที่ผ่านมา ก็ไม่สดใสนัก
ยอดเปิดตัวใหม่ 421,000 ล้านบาท ลดลง 27% แบ่งเป็น
- ทาวน์เฮ้าส์ 47,000 ล้านบาท ลดลง 29%
- บ้านเดี่ยว 251,000 ล้านบาท ลดลง 25%
- คอนโด 122,000 ล้านบาท ลดลง 30%
ยอดขาย (พรีเซล) 313,000 ล้านบาท ลดลง 20% แบ่งเป็น
- ทาวน์เฮ้าส์ 43,000 ล้านบาท ลดลง 30%
- บ้านเดี่ยว 140,000 ล้านบาท ลดลง 13%
- คอนโด 127,000 ล้านบาท ลดลง 23%
ขณะที่พอร์ตฯ พฤกษาที่ผ่านมา เป็นกลุ่มทาวน์เฮ้าส์เป็นหลักซึ่งได้รับผลกระทบจากตลาดเต็ม ๆ
ทำให้ผลประกอบการปี 2567 ของพฤกษา ทำรายได้ประมาณ 21,000 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิเหลือ 456 ล้านบาท จากเคยแตะระดับพันล้าน
จากปัจจัยความท้าทายในข้างต้น ทำให้ คีย์แมนพฤกษา ไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ธุรกิจที่อยู่อาศัยอีกต่อไป แต่ยังเฟ้นหาโอกาสเติบโตใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- ธุรกิจเฮลท์แคร์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ คุณทองมา ปลุกปั้นเมื่อครั้งเป็นซีอีโอ ช่วง 5-6 ปีก่อน และทำรายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยปีนี้วางแผนขยาย รพ. เพิ่มอีก 3 แห่ง ใจกลางเมือง คือ วิมุต ทองหล่อ สุขุมวิท 54 และปิ่นเกล้า โดยคาดว่าปีนี้จะทำรายได้แตะ 2,600 ล้านบาท รวมถึงตั้งเป้าพอร์ตฯ ธุรกิจ รพ. ขึ้นมาเป็น 50% เท่า ๆ กับพอร์ตฯ อสังหา!
- ธุรกิจแวร์เฮ้าส์ (คลังสินค้า) เป็นอีกหนึ่งแนวทางการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่พฤกษาหมายตา โดยได้ลงทุนโครงการโอเมก้า บางนา โลจิสติกส์ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จปี 2569 น่าจะสร้างน่านน้ำใหม่ที่น่าสนใจให้กับบริษัทฯ
- ธุรกิจรับก่อสร้างและพรีคาสต์ ซึ่งพฤกษาได้ทำมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ความพิเศษ คือ จากเดิมจะรับทำเฉพาะในโครงการตัวเอง แต่ขณะนี้ขยายรับงานนอกเพิ่มเป็น 30% โดยตั้งเป้ารายได้ส่วนนี้ถึง 5,400 ล้านบาท แต่พฤกษาจะรับรู้รายได้ส่วนนี้ จากส่วนแบ่งกำไร
“ผมคงเข้ามาทำหน้าที่ดูแลพฤกษาอีก 2-3 ปี ส่วนการทำให้กำไรกลับมา 1,000 ล้านบาทไม่น่าเป็นเรื่องยาก เพราะเคยทำได้ ไม่น่ามีปัญหา ปีนี้ก็ต้องพยายามมากขึ้นด้วยการบริหารเรื่องการขายและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จะมีส่วนทำให้อัตรากำไรสูงขึ้นได้”