ประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย หรือ CBRE กล่าวว่า อสังหาภูเก็ตร้อนแรงต่อเนื่อง โดยประเมินว่า ยอดขายปี 2567 ที่ผ่านมา คอนโดหรู มีจำนวน 5,500 ยูนิต และวิลล่าหรูมีจำนวน 600 หลัง
สำหรับ ซีบีอาร์อี มีการดำเนินธุรกรรมการขายที่พักตากอากาศในภูเก็ต “สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567” ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมในปี 2566
- คอนโด เติบโต 201% โดยกลุ่มระดับราคาเริ่มต้น ราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาท ขายดีที่สุด
- วิลล่า เติบโต 148% โดยกลุ่มราคาระดับกลาง 15-35 ล้านบาท ขายดีที่สุด
หากจำแนกตามวัตถุประสงค์การซื้อ พบว่า 75% ซื้อเพื่อการลงทุน และอีก 25% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยกำลังซื้อหลักอสังหาภูเก็ตของ CBRE ส่วนใหญ่ยังเป็นชาวไทย 70% และชาวต่างชาติ 30%
สำหรับกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติมี 5 อันดับแรก ดังนี้
- รัสเซีย
- ออสเตรเลีย
- อังกฤษ
- จีน
- เยอรมัน
จากดีมานด์ที่อยู่อาศัยในภูเก็ตขยายตัว ทำให้ผู้ประกอบการต้องการที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เชิงทะเล บางเทา สุรินทร์ และลายัน
อย่างไรก็ดี ที่ดินติดชายหาดแทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว ผู้พัฒนาจึงพิจารณาทำเลที่ดินอินแลนด์ (พื้นที่ห่างชายฝั่งหรือใกล้ตัวเมือง) ห่างจากชายหาด 10-15 นาทีโดยรถยนต์ แต่ต้องอยู่ในทำเลที่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร โรงเรียน ฯลฯ
ทำเลที่ตั้งราคาเสนอขายที่ดินอินแลนด์และที่ดินบนเนินเขาที่มีวิวทะเลอยู่ที่ 15-60 ล้านบาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดิน
”ราคาเสนอขายที่ดินอินแลนด์ปรับขึ้น 10-35% ตั้งแต่ปี 2566 ขึ้นอยู่กับระยะทางจากชายหาด ขนาดของที่ดิน“