สงครามการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา และ จีน ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปสู่ประเทศอื่น ๆ เพราะล่าสุด จีน ออกคำเตือนว่าจะตอบโต้ประเทศที่ให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในลักษณะที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ
หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ ระงับการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ ในหลาย ๆ ประเทศไปเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้น จีน ที่เพิ่มภาษีเป็น 145% ซึ่งก็มีรายงานว่า ทรัมป์กำลังวางแผนใช้การเจรจาเรื่องภาษีเพื่อกดดันให้พันธมิตรของสหรัฐฯ จำกัดการทำธุรกิจกับจีน
โดย กระทรวงพาณิชย์จีน ได้ออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์ดังกล่าว โดยวิจารณ์การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ เป็นการ ใช้ภาษีในทางที่ผิด และ รังแกฝ่ายเดียว ในขณะที่จีนเต็มใจจะร่วมมือกับทุกฝ่าย และปกป้องความเป็นธรรมและความยุติธรรมระหว่างประเทศ
“จีนคัดค้านอย่างหนัก ต่อการที่ฝ่ายใดก็ตาม ทำข้อตกลงโดยแลกกับผลประโยชน์ของจีน หากเกิดกรณีเช่นนี้ จีนจะไม่ยอมรับและจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด” กระทรวงพาณิชย์จีน กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จีน ยังได้เตือนถึง ความเสี่ยง ที่การค้าระหว่างประเทซจะกลับไปสู่ กฎแห่งป่า (Law of jungle) หรือ ผู้ที่แข็งแรงกว่าเท่านั้นที่เป็นผู้อยู่รอด และในท้ายที่สุดทุกประเทศจะกลายเป็นเหยื่อ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้เยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา โดยสี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้มีความพยายามร่วมกันในการ ต่อต้านภาษี และการรังแกฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มการค้ากับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในระดับภูมิภาค ส่วนสหรัฐฯ ยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในระดับประเทศ
ที่ผ่านมา จีนได้ตอบโต้การขึ้นภาษีสหรัฐฯ ด้วยการเก็บภาษี 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากอเมริกา อีกทั้งยังได้ จำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญ และขึ้นบัญชีดำบริษัทสหรัฐฯ หลายราย แต่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็ก เพื่อจำกัดความสามารถในการทำงานร่วมกับบริษัทจีน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ไม่คาดว่าสหรัฐฯ และจีนจะบรรลุข้อตกลงในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า



