โรเบิร์ต วอลเทอร์ส บริษัทด้านการจัดหางานระดับโลก รายงานผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับ เทรนด์บุคลากรปี 2025 (Talent Trends 2025) พบ 7 อินไซด์ ดังนี้
1.ใช้ AI ช่วยคัดสรร “การจ้างงานพนักงานใหม่” โดย 9 ใน 10 องค์กรใช้วิธีนี้ แม้แต่โรเบิร์ต วอลเทอร์ส เองก็ใช้ สามารถลดระยะเวลาการทำงานลงกว่า 6,700 ชั่วโมงจากการใช้ AI Trailblazers
2.ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (empathy) กลายเป็น soft skill ที่องค์กรไทยมองหา โดย 70% ของพนักงานมอง 3 ทักษะสำคัญที่สุดสำหรับผู้นำองค์กรยุคใหม่ คือ
- ความเข้าอกเข้าใจ
- ทักษะด้านการสื่อสาร
- ความยืดหยุ่นในการบริหาร
การพัฒนา “ภาวะผู้นำแบบเน้นคนเป็นศูนย์กลาง” (human-centric leadership) จะช่วยผลักดันผลลัพธ์ทางธุรกิจ และเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ของพนักงานและการพัฒนาบุคลากรโดยรวม ซึ่งส่งผลต่อการสร้างความผูกพันของพนักงานและผลการดำเนินงานขององค์กร
3.เสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์นายจ้าง ด้วยการให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้สมัครงาน ซึ่ง “การให้เกียรติ” และ “สร้างสัมพันธ์ที่ดี” มักจะดึงดูดคนเก่งในตำแหน่งที่หาผู้สมัครยากได้มากกว่า
แนวทางนี้ยังส่งผลดีต่อการสร้างการบอกต่อในเชิงบวก และความสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่มผู้สมัครอีกด้วย
4.มุมมองการทำงานรูปแบบไฮบริด พบว่า 95% พนักงานไทยต้องการให้องค์กรทดลองรูปแบบการทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ แต่ยังมีความกังวลสูงในหลายเรื่อง ได้แก่
- 36% เครียดจากการที่ต้องทำงานเท่าเดิมภายในเวลาที่น้อยลง
- 27% กังวลเรื่องการลดค่าตอบแทน
- 18% กังวลว่าการมีเวลาว่างมากขึ้นอาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ชีวิตนอกเวลางาน
“ในระดับโลก แนวคิด ‘Window Working’ หรือการเปิดโอกาสให้พนักงานเลือกช่วงเวลาทำงานที่เหมาะกับตนเองในแต่ละวัน กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความยืดหยุ่น เพื่อสร้างความผูกพันพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน”
5.แนวคิดการเติบโตแบบ “ไต่บันไดสายอาชีพ” แบบดั้งเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป พนักงานยุคใหม่ (ระดับโลก) หันมาให้ความสำคัญกับ
- การเปลี่ยนสายงานในระดับขนาน (lateral moves)
- การเติบโตข้ามสายงาน (cross-functional growth)
- การพัฒนาบนพื้นฐานของทักษะ (skills-based progression)
สวนทางกับเทรนด์ในประเทศไทย ที่พนักงานส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับ
- การพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ (38%) เป็นหลักในการต่อยอดอาชีพ
- โอกาสในการพัฒนาทักษะและเข้าร่วมโครงการเฉพาะทาง (34%) ซึ่งช่วยเสริมประสบการณ์เชิงลึกในสายงาน
- การเติบโตผ่านโครงสร้างองค์กรแบบลำดับขั้น (17%) ที่ยังคงเป็นเส้นทางที่ตอบโจทย์คนบางกลุ่มที่ต้องการความชัดเจนในการพัฒนาอาชีพ
6.เทรนด์การจ้างผู้เกษียณอายุกลับมา (‘Un-retiring’) กำลังเกิดขึ้นในองค์กรไทย ตามข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน มีแผนที่จะขยายอายุเกษียณของทั้งภาครัฐและเอกชนจาก 60 ปี เป็น 65 ปีในอนาคตอันใกล้
ขณะเดียวกันโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหางานที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยมากว่า 16 ปี พบว่า องค์กรมีความสนใจที่จะจ้างผู้เกษียณกลับมาทำงานมากขึ้น โดยไม่ใช่ในรูปแบบพนักงานประจำ แต่ในลักษณะ “งานชั่วคราว” หรือ “โปรเจกต์ระยะสั้น” ที่มีระยะเวลาเฉลี่ยตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี
ปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา ผู้จัดการประจำประเทศไทยของโรเบิร์ต วอลเทอร์ส กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นเพื่อลดต้นทุนหรือในช่วงที่ยังคงหาคนมาประจำตำแหน่งไม่ได้ องค์กรจำนวนมากเริ่มเปิดรับการจ้างงานชั่วคราวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เกษียณซึ่งมีทั้งประสบการณ์การทำงานและทักษะชีวิตที่มีคุณค่า
การกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานของพวกเขาไม่เพียงเติมเต็มตำแหน่งว่างขององค์กร แต่ยังช่วยเสริมสร้างทีมข้ามรุ่น (multi-generational teams) ที่ประกอบด้วยพนักงานหลากหลายช่วงวัย นำมาซึ่งมุมมองที่หลากหลาย ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแก้ปัญหา การคิดเชิงนวัตกรรม และประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมได้อย่างชัดเจน

7.ทักษะแห่งอนาคตคือกุญแจสำคัญ จากรายงาน อาชีพในอนาคตปี 2025 (Future of Jobs Report 2025) โดย World Economic Forum (WEF) ระบุว่า ทักษะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันกว่า 39% จะกลายเป็นสิ่งล้าสมัยภายในปี 2030
ซึ่งหมายความว่า พนักงานจำเป็นต้อง เพิ่มพูนทักษะใหม่ (upskill) ทั้งในด้านเทคโนโลยีและทักษะเชิงมนุษย์ (soft skills) เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในโลกการทำงาน
สำหรับประเทศไทย แนวโน้มนี้มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับ
- ความรู้ด้านดิจิทัล (digital literacy)
- การวิเคราะห์ข้อมูล (data analysis)
- ความสามารถในการปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่มากขึ้น
นอกจากนี้ ทักษะที่ไม่ใช่ด้านเทคนิคก็ถูกให้ความสำคัญมากขึ้นในองค์กรไทย ดังนี้
- การสื่อสาร (communication)
- ความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรม (cultural awareness)
- ความฉลาดทางอารมณ์ (emotional intelligence)
- ความยืดหยุ่นทางจิตใจ (resilience)
“ทักษะเหล่านี้มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้พนักงานสามารถรับมือกับความท้าทาย และเติบโตท่ามกลางโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมั่นคง”





