กรุงเทพฯ, เพชร…อัญมณีธรรมชาติสุดล้ำค่า เป็นความปรารถนาของหญิงสาวทั่วโลก ว่ากันว่าเพชรใส (Colorless Diamond) ขาวใส บริสุทธิ์ หาได้ยากยิ่งแล้ว เพชรสีแฟนซี (Fancy Shape Colour Diamond) ความลี้ลับแห่งกลไกธรรมชาติที่สร้างสีสันและประกายระยิบยับสู่ก้อนแร่ กลับหายากยิ่งกว่าเป็นร้อยเท่า เพชรสีแฟนซีที่ขุดพบในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีทั้งสีฟ้า, สีเหลือง, สีแดง โดยเฉพาะ “เพชรสีชมพู” นั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเพชรสีแฟนซีหายากที่สุดในโลก เป็นตัวแทนของความโรแมนติกและความปรารถนา และเป็นสมบัติล้ำค่าที่นักสะสมเพชรทุกคนใฝ่หา
“เพชรสีชมพู” มีการค้นพบครั้งแรกในโลกที่ประเทศอินเดียและบราซิลเมื่อหลายศตวรรษก่อน แต่ถ้าพูดถึงที่สุดแห่งเพชรแห่งศตวรรษปัจจุบัน มีเพียงหนึ่งเดียวของโลก ‘Steinmetz Pink’ เพชรสีชมพูรูปไข่ ขนาด 59.60 กะรัต ของ Steinmetz Group ผู้ค้าเพชรดิบและเจียระไนเพชรชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นผู้เจียระไนเพชรหายากชื่อดังระดับโลกมากมายในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดย Steinmetz Pink ได้รับการขนานนามจากสถาบันวิเคราะห์และ รับรองคุณภาพอัญมณีระดับโลกแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ GIA (Gemological Institute of America) ว่าเป็นเพชรแฟนซีสีชมพูที่สวยและใหญ่ที่สุดในโลก
‘Steinmetz Pink’ ถูกค้นพบในเหมืองเพชร ประเทศแอฟริกาใต้ ด้วยการค้นพบเพชรดิบสีชมพูขนาด 132.5 กะรัต ตัวเนื้อเพชรเป็นสีชมพูสด ‘vivid pink’ ดูผิวเผินจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับก้อนแร่ธรรมดาๆ หากแต่ผลงานทางศิลปะที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นชิ้นนี้ ถูกสุดยอดช่างฝีมืออันดับหนึ่งจาก Steinmetz มิสเตอร์แมททิส วิททิออล (Mates Witriol) ไขความลับแห่งความงามอันวิจิตรบรรจงที่ซ่อนอยู่ภายในออกมา
โดยมิสเตอร์แมททิสได้ออกแบบรูปแบบ วิธีการเจียระไนถึง 60 แบบ เนื่องจากเพชรสีชมพู เป็นเพชรที่เจียระไนยากที่สุด เพียงใช้แรงกดมากเกินไป เพชรอาจแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ในทันที มิสเตอร์แมททิส ใช้ระยะเวลาในการรังสรรค์ เจียระไนนานถึง 20 เดือน หรือเกือบ 2 ปีเต็ม และได้เป็นเพชรแฟนซีสีชมพูสด รูปทรงไข่ ไร้ตำหนิ (internal flawless) 59.60 กะรัต ที่ส่องประกายความงดงามอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่ง Steinmetz ภาคภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้เป็นอย่างมาก และการที่เพชรสีชมพูเม็ดนี้ไร้ตำหนิอย่างสิ้นเชิง
ถือว่าได้เป็นปรากฏการณ์ความพิเศษสุดทางธรรมชาติของเพชรแฟนซีสีด้วย ปัจจุบันยังไม่มีเพชรสีชมพูใด ที่จะเทียบเคียงความงามแห่ง Steinmetz Pink ได้ และที่สำคัญเราไม่ทราบเลยว่าจะค้นพบเพชรสีชมพูที่สวยสมบูรณ์แบบเช่นนี้อีกครั้ง ในอีกกี่ศตวรรษข้างหน้า
ความพิเศษหนึ่งเดียวที่ได้รับการกล่าวขานของ ‘Steinmetz pink’ อยู่ที่สีและขนาด ซึ่ง “สี” เป็นสีชมพูสดระดับสุดยอด เรียกว่า ‘Vivid Pink’ โดยปรกติระดับของสีชมพู จะเริ่มตั้งแต่ Light Fancy Pink, Fancy Pink (เป็นสีชมพูที่พบบ่อยที่สุด), intense pink, fancy deep pink และ fancy vivid pink ซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุด ส่วน “ขนาด” ส่วนใหญ่ เพชรสีชมพูที่ค้นพบ จะมีขนาดไม่เกิน 1 กะรัต และถ้าใหญ่กว่า 1 กะรัต ก็จะไม่มีสีระดับ Vivid Pink ยิ่งไปกว่านั้น คือ เพชรที่ค้นพบเม็ดนี้ไร้รอยตำหนิภายในอย่างสิ้นเชิง (Internal Flawless) ปัจจุบันมูลค่าของ ‘Steinmetz pink’ ไม่สามารถประเมินค่าได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการเพชรกล่าวว่ามูลค่าของ ‘Steinmetz pink’ ไม่น่าต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญ หรือ 4,500 ล้านบาท
ด้วยความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ผสมผสานกับอัจฉริยภาพการเจียระไนแห่งมนุษย์ Steinmetz Pink เผยโฉมสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกในงาน ‘Flawless Engineering’ ณ เมืองมอนติคาร์โล ประเทศโมนาโค ในช่วงสุดสัปดาห์ของการแข่งขันกรังปรีซ์ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2546 ที่ผ่านมา เมืองสำคัญแห่งทวีปยุโรป ที่จัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวันต่อเนื่องทุกปี มานานกว่า 50 ปี โดยมีซูปเปอร์โมเดลชื่อดังอย่าง เฮเลน่า คริสเต็นเซ่น (Helena Christensen) เป็นผู้สวมใส่
หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายน 2546 Steinmetz Pink ได้ถูกจัดแสดงโชว์เป็นครั้งที่ 2 ของโลก ร่วมกับสุดยอดเพชรสีอีก 6 เม็ด ที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุดในโลกเช่นกัน ในงาน ‘The Splendor of Diamonds’ ณ พิพิธภัณฑ์สมิธโซเนี่ยน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ประจำชาติของสหรัฐอเมริกา ในเมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ต่อคิวเพื่อเข้าชมมากเป็นประวัติการณ์ถึง 3 ล้านคน
และในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ Steinmetz Pink จะมาปรากฏสู่สายตาชาวเอเชีย ผู้หลงใหลเพชรสีชมพู ให้ได้ชื่นชมกันเป็นครั้งแรกเพียงวันเดียวในประเทศไทย ประเทศแห่งอารยธรรมและวัฒนธรรมแห่งสายน้ำของเอเซีย ในงานนิทรรศการเพชร ‘Steinmetz … at the River of the Kings’ ที่ทาง Steinmetz Group Diamond และ The Diamond Trading Company ร่วมกันจัดขึ้นเป็นพิเศษ โชว์สุดยอดความงามของเพชรสีชมพู ‘Steinmetz Pink’ ที่หาสิ่งใดมาเทียบไม่ได้ในโลกนี้ ซึ่งถือเป็นการแสดงโชว์ครั้งที่ 3 ของโลก ใน 3 ทวีป
โดยภายในงานทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะเสด็จทรงเป็นประธานเปิดงาน พร้อมชมแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรแฟนซีสีชมพูจาก 3 ร้านเพชรชื่อดังของเมืองไทย – Blue River, Frank’s Jewelry Creation และ Jaa ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล
ข้อมูลทั่วไปของเพชรสีชมพู
มนต์เสน่ห์แห่งความงามของเพชรสีชมพู เกิดจากการบิดตัวของคริสตัลเพชรเนื่องจากการผสมของก๊าซไนโตรเจน ซึ่งคุณค่าของเพชรสีชมพู อยู่ที่สีมากกว่าอยู่ที่ขนาดหรือความบริสุทธิ์ โดยเพชรสีชมพูมีหลายเฉด ไล่ตั้งแต่ชมพูอ่อนไปจนถึงชมพูเข้มซึ่งหายากมาก ด้วยความหายาก และมีจำนวนจำกัด จึงทำให้เพชรสีชมพูมีราคาสูงกว่าเพชรใส ไม่มีสี หลายสิบเท่า และได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักสะสม ขอเพียงให้ได้ครอบครองไม่ว่าจะเป็นเพชรสีชมพูจางๆ ไปจนถึงสีชมพูเหมือนแชมเปญ
เพชรสีชมพูได้รับความนิยมมากเป็นอย่างมากในหมู่ดาราฮอลลีวู้ดชั้นนำ ดังจะเห็นได้จากข่าวการหมั้นหมายของคู่รักดาราสุดฮ๊อตแห่งปี ระหว่างเจนนิเฟอร์ โลเปซ และเบน แอฟเฟล็ค ด้วยแหวนหมั้นเพชรสีชมพูหนัก 6.1 กะรัต ซึ่งเจนนิเฟอร์ โลเปซ ก็เป็นผู้การันตีความหลงใหลในเพชรสีชมพูได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นอัญมณีที่เธอชื่นชอบมากที่สุด
ข้อมูล Steinmetz Group
Steinmetz Group เป็นหนึ่งในผู้นำการค้าและผลิตเพชรดิบของโลก ก่อตั้งขึ้นในอิสราเอล ในช่วงทศวรรษที่ 40 โดย Ruben Steinmetz หลังจากนั้นบริษัทได้ขยายตัวและสร้างชื่อเสียงในด้านการค้าไปทั่วโลก จนถึงทศวรรษที่ 70 Steinmetz ได้ก่อตั้งสำนักงานขึ้นในประเทศเบลเยี่ยมและอเมริกาเหนือและได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของผู้ค้าเพชรดิบระดับโลก
ปัจจุบัน Steinmetz Group บริหารงานโดย Daniel และ Beny Steinmetz และมีศูนย์กลางบริหารอยู่ที่กรุงเจนีวา รวมทั้งมีโรงงานผลิตที่อิสราเอล เบลเยี่ยม สวิสเซอร์แลนด์ อเมริกาเหนือ แอฟริกาใต้ อังโกลา และอินเดีย the Steinmetz Group มีรายได้จากยอดขายไม่ต่ำกว่า 800 ถึง 1000 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Steinmetz มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเรื่องการเจียระไนเพชรเม็ดใหญ่ๆและเพชรหายากซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Steinmetz Pink เพชรสีชมพูที่ได้รับการขนานนามจาก GIA ว่าสวยที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งเพชรสีชมพูยังเป็นอีกหนึ่งเพชรสีที่หายากที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนี้ Steinmetz ยังเป็นผู้เจียระไน The DeBeers Millennium Star ขนาด 203.04 กะรัต เพชร D flawless ของ เดอ เบียร์ส กรุ๊ป ซึ่งเป็นเพชรเม็ดใหญ่รูปหยดน้ำและได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเพชรใสที่ใหญ่และสวยที่สุดในโลก