ชีวิตของคนทำงานที่แต่ละวันต้องเผชิญกับการแข่งขันและความกดดันต่าง ๆ สารพัดรูปแบบ อาจทำให้หลายคนเกิดอาการ ‘หัวร้อน’ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งบางครั้งกระทบต่อการทำงานหรือความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือกระทั่งหัวหน้า วันนี้จึงอยากชวนอ่านเทคนิคดึงสติตัวเองไม่ให้เกิดอาการปรี๊ดแตก จนการทำงานต้องสะดุด และก่อให้ผลเสียมากมายตามมาได้
1.เมื่อต้องเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธ อย่าตัดสินอะไรใน 3 วินาทีแรก และให้รอ 6 วินาที เพื่อให้ความมีเหตุผลเริ่มทำงาน
2.ลองให้คะแนนความโกรธดู เช่น คะแนน 1-3 โกรธไม่นานเดี๋ยวหาย, คะแนน 4-6 โกรธแบบเบาๆ แต่ผ่านไปสักพักก็ยังไม่หาย, คะแนน 7-9 โกรธมากแบบเกือบสับแต่กลับมาได้ และคะแนน 10 โกรธแบบไม่มีอะไรมาลบล้างได้ ซึ่งการลองคะแนนความโกรธ ก็เพื่อให้โฟกัสกับการให้คะแนน และไม่ถูกความโกรธครอบงำจนเกินไป
3.เข้าใจความโกรธ ความจริงอารมณ์โกรธเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ และไม่ใช่สิ่งไม่ดีหรือแสดงออกไม่ได้ เพียงแต่อย่าแสดงความโกรธไปแบบขาดสติจนกระทบเรื่องอื่น ๆ คุณควรแสดงความโกรธอย่างเหมาะสม โดยสื่อสารให้อีกฝ่ายเข้าใจความรู้สึกแบบไม่ใช้อารมณ์เกินไป
4.ลองฝึกจัดการความโกรธ การจัดการความโกรธเป็นการฝึกความแข็งแกร่งของจิตใจ แต่การรู้แต่เทคนิค ไม่ได้ฝึกทำในสถานการณ์จริงอาจไม่เกิดผล
5.จงยอมรับโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเราและหยุดคาดหวังไปเอง โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวคุณ เพราะเมื่ออะไรๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ก็อาจทำให้เราเกิดความโกรธได้มากกว่าปกติ ดังนั้น จงกลับมามีสติ และฝึกสังเกตตัวเองไม่ให้ตั้งคาดหวังจนเกินไป
6. ไม่ยัดเยียดความคิดเห็นส่วนตัวว่า ‘ต้องแบบนี้สิถึงจะถูก’ ‘แบบนี้ผิดนะ’ เพื่อไม่ให้หงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่จำเป็น และควรขีดเส้นตัวเองไว้ไม่ให้ไปยุ่งกับความคิดเห็นของคนอื่น จนเป็นการบังคับฝืนใจอีกฝ่ายมากไป
7.พาตัวเองออกมาสงบจิตสงบใจจากตรงนั้น เมื่อโกรธจนควันออกหู แนะนำให้ขอ ‘เวลานอก’ ออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้น เพื่อให้ตัวเองได้รีเซ็ตอารมณ์ให้เข้าที่เข้าทางก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยด้วยเหตุผลอีกครั้ง
8.ค่อยๆ หายใจเข้าลึก ๆ โดยหายใจเข้า 4 วินาที หายใจออก 8 วินาที ทำซ้ำไป 2-3 ครั้ง เพื่อค่อยๆ ตั้งสติตัวเองลงมา ไม่ให้โกรธจนน็อตหลุด
9.ลองถอนหายใจ เมื่อเราสั่งสมความเหนื่อยล้าและความกังวลต่างๆ จนร่างกายเริ่มออกอาการ เช่น หงุดหงิดง่าย หายใจถี่ กล้ามเนื้อหดเกร็ง ฯลฯ แนะนำให้ถอนหายใจ เพราะจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดการเกร็ง และส่งเสริมระบบประสาทอัตโนมัติ หากกลัวจะไม่เหมาะสมก็ลองหลบไปถอนหายใจในที่ ๆ คนอื่นไม่เห็น เช่น ห้องน้ำดู
10.โฟกัสสิ่งที่มีอยู่ในมือ หากเกิดอารมณ์โกรธลองมาโฟกัสกับสิ่งของตรงหน้า เช่น สิ่งที่อยู่ในมือ สิ่งที่อยู่บนโต๊ะทำงาน หรืออะไรสักอย่าง เพื่อเบนความสนใจหรือเปลี่ยนโฟกัส และเลิกคิดฟุ้งซ่านวนเวียนกับความโกรธที่เกิดขึ้น
การชนะอาการหัวร้อนได้ ไม่ใช่แค่เป็นการชนะสถานการณ์ เพื่อให้เราไม่เสียเวลาและหงุดหงิดไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่เป็นการชนะตัวเอง ซึ่งเป็น ‘อาวุธลับ’ ที่จะทำให้เราโดดเด่นและเหนือกว่าในทุกสถานการณ์ รวมถึงได้จดจ่ออยู่กับสิ่งสำคัญมากกว่าเสียเวลาไปกับเรื่องบางเรื่องที่ไม่สำคัญ
.
ที่มา : หนังสือ 100 นิสัยไม่เป็นคนหัวร้อน เขียน โทดะ คุมิ