ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า แม้ปัจจุบันจะมีแบรนด์ขนส่งเจ้าใหม่เกิดขึ้นไม่น้อย แต่ “ไปรษณีย์ไทย” ที่อยู่มานานกว่า 142 ปี กลับเป็นแบรนด์เบอร์หนึ่งที่ชนะใจคน Gen Z ได้อย่างสง่างาม การันตีด้วยรางวัล GEN Z TOP Brand Award 2025 จากเว็บไซต์ BrandBuffet และ INTAGE (Thailand) ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ “พี่ไปรฯ” แบรนด์ไทยที่จริงใจไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์
ไปรษณีย์ไทย มีกลยุทธ์หรือจุดเด่นอย่างไร ถึงก้าวเข้าไปยืนหนึ่งในใจคนรุ่นใหม่ที่ให้ความเชื่อมั่นและใช้บริการกับไปรษณีย์ไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะอะไร จังหวะหัวใจของ “พี่ไปรฯ” ถึงเต้นในจังหวะเดียวกันกับ Gen Z ทุกบรรทัดถัดจากนี้มีคำตอบ…
ขณะที่โลกการตลาดมีความพยายามคิดหากลยุทธ์มากมายเพื่อมัดใจผู้บริโภคให้เกิดความรักในแบรนด์ แต่ในวันที่กระแสโซเชียลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่คาดเดาได้ยากขึ้นทุกวัน กลยุทธ์การตลาดแบบเดิม ๆ อาจจะเสื่อมมนต์ขลังลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับผู้บริโภครุ่นใหม่วัย Gen Z ที่เติบโตมากับอินเตอร์เน็ตและความหลากหลายทางความคิดที่แต่ละแบรนด์จะพิชิตใจพวกเขาได้ไม่ง่ายนัก
ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลเชิงลึกและทำวิจัยโดยเว็บไซต์ BrandBuffet และ INTAGE (Thailand) ระบุว่า การที่คนรุ่นใหม่ Gen Z จะเกิดความรักหรือ Loyalty กับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ คือ “คุณค่า” ที่สัมผัสและรู้สึกได้จริง
โดยคุณค่าที่ว่านั้น สามารถถอดรหัสออกมาเป็น Gen Z’s Brand Love Code หรือกลยุทธ์ 6A ที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกแบรนด์ในดวงใจ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใดที่ไปรษณีย์ไทยทำได้ครบทุกข้อจนได้รับการโหวตให้เป็นขนส่งเบอร์หนึ่งขวัญใจคน Gen Z
เรามาดูกันว่า กลยุทธ์ 6A แต่ละข้อนั้นมีอะไรบ้าง รวมทั้งชวนมองผ่านเลนส์ของคนรุ่นใหม่ว่าไปรษณีย์ไทยตอบโจทย์ทั้ง 6 ข้อนั้นอย่างไรบ้าง?
- Affordability ไม่ใช่ขายถูก แต่ต้องขายแบบมีทางเลือก
แม้สิ่งของอย่างอื่นจะแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาค่าบริการของไปรษณีย์ไทยยังคงเป็นราคาที่เข้าถึงและจับต้องได้ เป็นเหตุผลโดนใจกลุ่ม Gen Z ข้อแรกที่นำไปสู่การใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
- Accessibility อยู่ใกล้ และเข้าถึงง่ายในทุกช่องทาง
เพราะความสะดวกคือสิ่งที่ Gen Z ให้ความสำคัญมากที่สุดกับชีวิตแบบ On Demand ซึ่งไปรษณีย์ไทยตอบโจทย์ข้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ไหน ก็สามารถใช้บริการได้ง่าย ทั้งจากที่ทำการไปรษณีย์ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งมีแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกไปอีกขั้น หรือจะเรียกให้ “พี่ไปรฯ” ให้ไปรับพัสดุที่บ้านฟรีผ่านไลน์ออฟฟิเชียล
- Agile Experience มีเทคโนโลยีที่เป็นมิตร ไม่ซับซ้อน
ไปรษณีย์ไทยมีการปรับปรุงประสบการณ์ให้มีความยืดหยุ่นและทันใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะความเรียลไทม์ โดยไปรษณีย์ไทยได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมีความว่องไวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการ รวดเร็วในการทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกะทันหัน ยิ่งกว่านั้นยังเรียนรู้ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ๆ ของคนในสังคมเพื่อให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์อยู่เสมอ
- Affinity ความรู้สึกว่าแบรนด์คือพวกเดียวกัน
จากงานวิจัย Gen Z Top Brand 2025 โดย INTAGE Thailand พบว่า Gen Z มองไปรษณีย์ไทย เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ซึ่งใช้ความสัมพันธ์และความเข้าใจเป็นหัวใจของบริการ จนเกิดเป็นภาพจำว่า “พี่ไปรฯ” คือคนรู้ใจ ใกล้ชิด และไว้ใจได้ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่หาไม่ได้จากแบรนด์ขนส่งอื่น ๆ
นอกจากนั้น ในวันที่โลกหมุนเร็ว และทุกอย่างดูเร่งรีบ ไปรษณีย์ไทยกลับให้ความรู้สึก “คุ้นเคย-จริงใจ-วางใจได้” เพราะ “พี่ไปรฯ” ใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งเป็นหัวใจของการส่ง ที่ไม่ใช่เพียงแค่การส่งของ แต่ยังช่วยส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ไปพร้อมกับพัสดุทุกชิ้น
- Authenticity มีความเรียล ไม่เฟค ไม่พยายามจนเกินไป
Gen Z ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีตัวตนชัดเจน รวมทั้งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการของคนไทยด้วยกันเองซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่แพร่หลายมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่คนรุ่นใหม่จะกดไลก์ไปรษณีย์ไทยซึ่งเป็นแบรนด์ที่ดำเนินงานมานานกว่า 142 ปี มีตัวตนที่ชัดเจน เป็นแบรนด์ของไทย และยังคงรักษาคุณค่าดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี
- Accountability ความรับผิดชอบที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม ความเท่าเทียม หรือความโปร่งใสทางธุรกิจ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยได้แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงความรับผิดชอบต่อสังคมที่ไม่ใช่เพียงแค่โครงการ CSR แต่เป็นการลงมือทำจริง เช่น การสนับสนุนชุมชน และการสร้างเครือข่ายเติบโตอย่างยั่งยืน
จากกลยุทธ์ 6A หรือ Gen Z’s Brand Love Code ที่กล่าวมา ตอกย้ำถึง “คุณค่า” ของไปรษณีย์ไทยที่ทัชใจกลุ่ม Gen Z จนยกให้เป็นแบรนด์ขนส่งเบอร์หนึ่งในดวงใจ
นอกจากนั้นแล้ว Gen Z ยังชื่นชมไปรษณีย์ไทยที่ให้การสนับสนุนความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างสม่ำเสมอ เช่นการจัดกิจกรรมและนำผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงามและคุณค่าของแต่ละท้องถิ่นมาส่งต่อให้กับคนไทยทั่วทุกภูมิภาคและต่างประเทศ เป็นการส่งเสริมสินค้าตัวท็อปจากผู้ประกอบการท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อยในแต่ละภูมิภาคให้สามารถเข้าถึงตลาดในวงกว้างได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำอย่างหนักแน่นว่า ไปรษณีย์ไทยไม่ได้เพียงทำหน้าที่ “ส่งของ” แต่ยังช่วย “ส่งคุณค่า” จากชุมชนไปสู่โลกกว้างอีกด้วย
สุดท้ายแล้วต้องบอกว่า ทั้งหมดนี้คือมุมมองเกี่ยวกับเรื่องของ “คุณค่า” ที่ Gen Z มีต่อไปรษณีย์ไทย ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นผู้ให้บริการขนส่งที่น่าเชื่อถือ แต่ยังมี “ความจริงใจที่จับต้องได้” ทุกครั้งที่ใช้บริการ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอต่อการทำให้ “พี่ไปรฯ” กลายเป็นแบรนด์ขนส่งขวัญใจ Gen Z และคนรุ่นต่อ ๆ ไปอีกยาวนาน