ลงทุนในจีนกับ K-CHINNO25A-UI กองทุน Private Equity ใหม่จาก KBank เจาะตลาดจีนโดยตรง เน้นกลุ่มเทคฯ แห่งอนาคต


ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ ประเทศจีนได้รับการพูดถึงในมุมมองที่หลากหลาย มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วขึ้นแท่นประเทศมหาอำนาจ เปลี่ยนภาพลักษณ์จากโรงงานของโลก เป็นประเทศแห่งนวัตกรรม นอกจากเรื่องเทคโนโลยีที่ได้รับการพูดถึงไปทั่วโลกแล้ว เรื่อง “การลงทุน” ก็เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ ด้วยศักยภาพ และเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ด้วยเหตุนี้เองการลงทุนในตลาดประเทศจีนจึงเป็นโอกาสทองที่น่าสนใจ


มองหา ของดีราคาถูก” กับโอกาสลงทุนใน Private Equity

ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน Private Equity (หุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์) เป็นทางเลือกการกระจายความเสี่ยงที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในจีน การลงทุนในบริษัทที่ยังไม่จดทะเบียนทำให้ได้ “ของดีในราคาถูก” โดยเฉพาะในจีนยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI, eVTOL และพลังงานสะอาด การเข้าซื้อสินทรัพย์ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ สามารถต่อรองราคาเข้าลงทุน ในราคาถูกกว่าราคาสินทรัพย์ จากการลงทุนแบบ Secondary หรือการลงทุนในตลาดรอง ที่ซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ หรือธนาคารพาณิชย์ และอาจจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจมากกว่าตลาดทั่วไป


รู้จัก K-CHINNO25A-UI ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (กองทุนรวมที่เสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น)

ตอนนี้โอกาสในการลงทุนในประเทศจีนมาถึงแล้ว ล่าสุด “กสิกรไทย” ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ K-CHINNO25A-UI ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (กองทุนรวมที่เสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น) สำหรับการลงทุนใน Private Equity ของจีนโดยเฉพาะ

จุดเด่นสำคัญของกองทุนนี้ก็คือ ความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุนหลักจากกสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้ หรือ KVPE เป็นบริษัทลูกของธนาคารกสิกรไทย และพันธมิตรระดับโลก Stepstone Group (China) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน Private Equity มีประสบการณ์ในตลาดจีนกว่า 15 ปี

กองทุน K-CHINNO25A-UI ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (กองทุนรวมที่เสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น) กำหนดเปิดเสนอขายครั้งเดียว ในระหว่างวันที่ 18 – 30 มิถุนายน 2568 เริ่มต้นลงทุน 500,000 บาท โดยกองทุนจะเรียกเก็บเงินลงทุนครั้งเดียว (Single Call) และกองทุนมีอายุประมาณ 8 ปี 2 เดือน โดยมีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก Kasikorn Vision Private Fund I (Shanghai) Limited Partnership ที่เน้นลงทุนใน 3 ด้านคือ

1) อุตสาหกรรมหลักที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาระยะยาวของจีน ได้แก่ AI, Digitalization, Energy Transition และ Biotech & Healthtech

2) ตลาดรอง (Secondaries) และ/หรือ ลงทุนโดยตรง (Direct Investments)

3) บริษัทที่มีช่วงของธุรกิจที่มีกำไรเป็นบวก (Late Stage) หรือมีศักยภาพในการเติบโตสูง (Growth Stage)

เจาะลึกการลงทุนในจีนยุคใหม่

จีนมีการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายจนเทียบเท่าฝั่งตะวันตก ที่เห็นได้ชัดก็คืออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มีผู้เล่นใหญ่อย่าง BYD, MG หรือ GWM ที่เริ่มบุกตลาดในหลายประเทศทั่วโลก รวมไปถึงนวัตกรรม AI ที่ล่าสุด DeepSeek ได้สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน

ทำไมจีนถึงน่าลงทุนในวันนี้? คำตอบก็คือ จีนไม่ใช่ประเทศที่เน้นแรงงานราคาถูกอีกต่อไป แต่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-Driven Economy) โดยมีปัจจัยสนับสนุนมากมาย

  • บุคลากรด้าน STEM จำนวนมาก: จีนผลิตบัณฑิตผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมกว่า 3.5 ล้านคนต่อปี
  • Supply Chain ครบวงจร: มีเครือข่ายครอบคลุม 666 อุตสาหกรรม ทำให้เกิดการทดลอง และผลิตได้รวดเร็ว
  • เงินทุนจากรัฐ: รัฐบาลประกาศลงทุนกว่า 1 ล้านล้านหยวนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยระยะเวลาการลงทุน 20 ปี
  • ตลาดบริโภคขนาดใหญ่: ประชากรจีนกว่า 1.4 พันล้านคน พร้อมเปิดรับนวัตกรรมใหม่ ด้วยกำลังการบริโภค ภายในประเทศ กว่า 44.5% ของ GDP

การลงทุนในนวัตกรรมจีน ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีน เป็นลงทุนบน new core growth engine ของประเทศ และมีศักยภาพสูง เพราะจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนโยบายที่สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม STEM Talent ที่มากกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 4 เท่า ประกอบกับความสมบูรณ์แบบของ Supply Chain และตลาดภายในประเทศที่แข็งแกร่ง


KVPE ผู้เปิดประตูสู่การลงทุนในจีนอย่างมืออาชีพ

การลงทุนตลาดประเทศจีนเพียบพร้อมด้วยศักยภาพต่างๆ มากมาย แต่อาจจะมีข้อจำกัดบางประการ ทั้งเรื่องภาษา หรือระเบียบต่างๆ ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญโดยตรง หรือการลงทุนผ่านผู้จัดการกองทุนอย่าง KVPE ก็สามารถช่วยนักลงทุนไปได้ไม่น้อย

KVPE หรือ Kasikorn Vision (Shanghai) Private Fund Management บริษัทลูกของธนาคารกสิกรไทยที่ตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นผู้จัดการกองทุน Private Equity ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดจีน

KVPE ได้รับโควต้า Qualified Foreign Limited Partner (QFLP) มูลค่า 1,500 ล้านหยวน ซึ่งอนุญาตให้ลงทุนในจีนได้โดยตรง พร้อมกับจุดเด่นที่มีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในจีนยาวนาน และมีการวิเคราะห์ตลาดอย่างใกล้ชิด

โดยที่ KVPE มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในการประเมิน Exit Certainty ของแต่ละบริษัท เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งธนาคารกสิกรไทยมีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจในจีนมากว่า 30 ปี จึงการันตีความมืออาชีพในการลงทุนได้อย่างแน่นอน

สำหรับกองทุน K-CHINNO25A-UI ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (กองทุนรวมที่เสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น) เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษที่สามารถถือครองได้เป็นเวลาประมาณ 8 ปี 2 เดือน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท ผ่าน Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย และบลจ.กสิกรไทย โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

– ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (กองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น)

– กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อนมากกว่ากองทุนทั่วไป ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 8 ปี 2 เดือน ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่กระทบการลงทุนผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก และกองทุนนี้ไม่ถูกจํากัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไปจึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น

​​- กองทุนนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน​

-บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด รวมทั้งไม่รับประกันเงินต้นหรือผลตอบแทนใด ๆ

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน