กองทุนเดอะเอเชียนเด็ทฟันด์ (The Asian Debt Fund)

บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย บริษัท Japan Asia Investment จำกัด (JAIC) และ ธนาคาร Aozora จำกัด ได้ร่วมกันก่อตั้งกองทุน The Asian Debt Fund, Ltd (TADF) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2546 ที่ผ่านมา ด้วยยอดจองในขั้นแรกทั้งหมดเป็นเงิน 22.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

TADF เป็นกองทุนเปิดที่มีเป้าหมายในการลงทุนในตราสารหนี้และสิทธิเรียกร้อง ภายในประเทศแถบเอเชีย
นอกเหนือไปจากประเทศญี่ปุ่น โดยในช่วงเริ่มต้นนี้จะมุ่งเน้นไปที่ประเทศไทย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์
โดยทางกองทุนมุ่งที่จะเจาะกลุ่มหนี้สินที่มีสภาพคล่องตัวสูงและมีหลักประกัน รวมไปถึงการลงทุนระยะยาว
ในบริษัทที่สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้และมีสถานภาพในการระดมทุน ปัจจุบันกองทุนได้คัดเลือกบริษัท
ดังกล่าวไว้แล้ว

ทั้งนี้ทางกองทุนได้แต่งตั้งให้บริษัท ฟินันซ่า สิงคโปร์ อันเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นที่ปรึกษากองทุน

มร. โม อิบราฮิม ตัวแทนจากบริษัท ฟินันซ่า สิงคโปร์ซึ่งเป็นอดีตผู้ก่อตั้งสำนักงานบริหารหนี้เสียแห่งสิงคโปร์
ให้กับบริษัท Lazard Freres เชื่อว่า “ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับกองทุนนี้ เพราะขณะนี้ยังมีหนี้เสียเหลืออยู่เป็นจำนวนมากในระบบในช่วงที่เศรษฐกิจของเอเชียอยู่ในช่วงฟื้นฟูนี้ อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย
ต่างพยายามที่จะปรับบัญชีงบดุลของตน เพื่อให้สามารถรองรับการกู้ยืมใหม่ๆ ได้”

นอกจากบริษัทที่ปรึกษาจะมีฐานที่แข็งแกร่งในประเทศแล้ว ยังประกอบไปด้วยประสบการณ์อันยาวนานของกลุ่มบริษัทผู้สนับสนุน ซึ่งครอบคลุมไปถึงพนักงานทั้งหมดประมาณ 300 คนในสำนักงาน 12 แห่งทั่วเอเชีย
โดยนาย อิจิโร่ คาวาดะ ประธานกรรมการของ JAIC Indonesia อธิบายว่า “รากฐานที่แข็งแกร่ง และเครือข่าย
การทำงานที่ครอบคลุมนั้นนับเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการหาข้อตกลงเพื่อการลงทุน อีกทั้งจะช่วยทำให้
กองทุนได้พบเห็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง”

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของกองทุนนี้คือมีโครงสร้างเป็นกองทุนเปิดที่เน้นไปที่ผลตอบแทนสูงสุด ซึ่งนักลงทุน
รายใหม่สามารถลงทุนในกองทุน TADF ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำจำนวน 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ได้ในวันแรก
ของทุกเดือน โดยคาดว่าทางกองทุนจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้เป็นประจำทุกปี

ในส่วนของมูลค่าหลักทรัพย์สุทธิของกองทุนนั้น จะมีการประกาศทุกสองสัปดาห์ โดยมี Bank of Bermuda
เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุน