ถ้ารู้จัก อเล็กซานเดอร์ หวัง (Alexandr Wang) แห่ง Scale AI ที่สามารถปลุกปั้นสตาร์ทอัพแสนล้านทั้งที่อายุยังไม่ถึง 30 ปี อีกคนที่ต้องทำความรู้จักก็คือ ลูซี่ เกา (Lucy Guo) ผู้ร่วมก่อตั้ง ที่ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีหญิงอายุน้อยที่สุดในโลก ซึ่งบอกเลยว่าตำแหน่งนี้ไม่ได้มาเพราะโชค แต่มาเพราะไมด์เซ็ทความเป็น Entrepreneur ที่มีตั้งแต่เด็ก และการปลูกฝังเรื่องการเงินจากครอบครัวที่เป็นอีกรากฐานสำคัญ
โตมากับครอบครัวที่ปลูกฝังเรื่องการเงินตั้งแต่เด็ก
ลูซี่ เกา เกิดและเติบโตมากับพ่อแม่ชาวจีนที่อพยพมาอเมริกา โดยอาศัยอยู่ที่เมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทั้งสองคนทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้า แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของครอบครัวก็คือ เมื่อทั้งคู่ต้องถูกให้ออกจากงาน นั่นทำให้ครอบครัวเธอเน้นย้ำถึงเรื่อง การศึกษา และ การเงิน มาโดยตลอด เนื่องจากมองว่า การศึกษาคือหนทางเดียวที่จะทำให้ลูก ๆ มีอนาคตที่ดีกว่าพวกเขา ซึ่งนั่นทำให้เธอเติบโตมาอย่าง เรียบง่าย และ ประหยัด
“ครอบครัวเราประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันเคยจะถูกไล่ออกไปอยู่นอกบ้าน ถ้าบ่นว่าอากาศหนาวเกินไปในบ้าน เพราะบ้านเราต้องประหยัดค่าทําความร้อน ซื้อเสื้อผ้าราคาถูกมาก และกินอาหารให้หมด เพราะพ่อแม่มักบอกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่โชคดีมีอาหารกินทุกมื้อ”
ด้วยการปลูกฝังเรื่องความประหยัดตั้งแต่เล็ก เธอจึงยังใช้ชีวิตด้วยแนวคิด “Act broke, stay rich” หรือที่ไทยมักมีคำว่า “คนรวยที่ทำตัวจน ไม่มีวันจน” จึงไม่น่าแปลกใจที่พื้นฐานแนวคิดของครอบครัวปลูกฝัง ทำให้เธอยังคงขับรถ Honda Civic ไปทำงาน ช้อปปิ้งที่ Shein และมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมเพียงไม่กี่ชุดเพื่อใช้ในโอกาสพิเศษเท่านั้น แม้ว่าจะมีทรัพย์สินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 47,000 ล้านบาท)
หาเงินเองตั้งแต่ประถม
ด้วยข้อจำกัดเรื่องการเงินของทางบ้าน ทำให้ ลูซี่ เริ่มฉายแววนิสัยนักธุรกิจตั้งแต่ยังเรียนประถม โดยเริ่มหาของไปขายที่สนามเด็กเล่นในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น ขายการ์ดโปเกมอน ขายดินสอสี แต่นั่นก็เป็นเหตุทำให้เธอต้องถูกพักการเรียน และนั่นทำให้เธอต้องคิดวิธีหาเงินใหม่ ๆ
“พ่อแม่ใช้ชีวิตอย่างประหยัดมาก แต่ย้ำเสมอว่าเงินสำคัญ ฉันเลยหาวิธีหาเงินในสนามเด็กเล่น ทั้งแลกการ์ดโปเกมอนมาขาย ขายดินสอสี อะไรที่ขายได้ก็ขายหมด แต่เงินที่ฉันหามาก็ถูกยึดไป เพราะถูกพักการเรียน”
เนื่องจาก ลูซี่ เป็นเด็กที่ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมนอกบ้านอื่น ๆ เหมือนเด็กทั่วไป ทำให้เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการ เล่นคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกม เพราะมันเป็น ความสนุกเดียว ที่ได้รับในวัยเด็ก นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอสนใจด้านเทคโนโลยีและเริ่มฝึก เขียนโค้ด ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
ลูซี่ เริ่มหาเงินจากเกมที่ชอบเล่นอย่าง Neopets โดยจะหาสัตว์เลี้ยงหรือไอเทมหายาก เพื่อนำไปขายเป็นเงินจริง จากนั้นก็เริ่ม สร้างบอทโกงเกมมาขาย และเริ่มหาวิธีอื่น ๆ ในการทำเงินบนอินเทอร์เน็ต โดยลูซี่ได้สร้างเว็บไซต์โดยใช้ Google AdSense และก็พัฒนาไปเรื่อย ๆ
“มันเหมือนลูกโซ่ที่ต่อยอดไปเรื่อย ๆ จากความสนุกและการทดลองในโลกออนไลน์”
หมกมุ่นมากพอจะเดิมพันกับตัวเอง
หลังจากจบไฮสคูล ลูซี่ได้เรียนต่อคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon University แต่เหลืออีก 1 ปีก่อนจะเรียนจบ ลูซี่ เลือกที่จะ ลาออก และเข้าร่วมโครงการที่สนับสนุนนักศึกษาที่มีไอเดียทำธุรกิจ ชื่อว่า Thiel Fellowship ของ ปีเตอร์ ธีล ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ซึ่งเธอยอมรับว่าตอนนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่ยากและเสี่ยงมาก แถมการตัดสินใจนี้ยัง สร้างความไม่พอใจให้พ่อแม่อย่างมาก แต่เธอก็อยาก เดิมพันกับตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างธุรกิจ
“พ่อแม่ฉันสละทุกอย่างเพื่ออพยพมาที่อเมริกาเพื่อให้ลูกมีอนาคตที่ดี การที่ฉันเลิกเรียนกลางคันเลยเหมือนเป็นการตบหน้าพวกเขา พ่อแม่คิดว่าฉันไม่รักพวกเขา แต่จริง ๆ ฉันแค่ลงทุนกับตัวเองและเลือกเส้นทางที่คิดว่าจะทำให้อนาคตดีกว่า”
จากนั้น เธอก็มีโอกาสทำงานกับ Snapchat และเป็น Product Designer ที่ Quora บริษัทถาม-ตอบชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ซึ่งนั่นทำให้เธอเป็นนักออกแบบหญิงคนแรก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้เจอกับ อเล็กซาน เดอร์ หวัง

ความสำเร็จมาจากความหมกมุ่น
ในตอนที่เธอกล้าเสี่ยงจะลาออกทั้งที่เหลืออีกปีเดียวจะเรียนจบ เพราะเธอมองว่า ความล้มเหลวคือเรื่องธรรมดา การจะเป็นผู้ประกอบการได้ ต้องยอมรับความเสี่ยงและพร้อมที่จะล้มเหลวหลายครั้ง จนกว่าจะประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ ลูซี่ ยังมองว่าความสำเร็จของเธอ ไม่ได้มาจากพรสวรรค์หรือโชค แต่มาจากการ หมกมุ่น ในสิ่งที่เธอทำมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่การหมกมุ่นกับการเล่นเกม ไปจนถึงการหาวิธีทำเงินจากสิ่งเหล่านั้น ซึ่งนำไปสู่การเรียนรู้ด้านการเขียนโค้ดและการสร้างธุรกิจในที่สุด
ความท้าทายใหญ่จากการฟ้องร้อง
หลังจากที่ร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ หวัง ก่อตั้ง Scale AI ในปี 2016 เธอก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น โดยในปี 2019 เธอได้ก่อตั้ง Backend Ventures บริษัท VC เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพเทคโนโลยีระยะเริ่มต้น และในปี 2022 เธอได้เปิดตัว Passes แพลตฟอร์มช่วยครีเอเตอร์สร้างรายได้จากคอนเทนต์
และในปี 2025 นี้ ลูซีกำลังต้องเผชิญกับอีกความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อแพลตฟอร์ม Passes ของเธอกำลังถูกฟ้องร้องในคดีแพ่ง ฐานเผยแพร่สื่อลามกเด็กในแพลตฟอร์มเพื่อเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้งาน ซึ่งทางลูซี่และบริษัทก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า ไม่มีมูล และปฏิเสธข้อเรียกร้องค่าเสียหาย 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เส้นทางของลูซี่ สะท้อนให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้เกิดจากโชคหรือพรสวรรค์ แต่มาจากความหมกมุ่นและการไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และกล้าที่จะล้มเหลว จนกว่าจะประสบความสำเร็จ




