ยุคนี้หันไปทางไหนก็มีแต่แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ โดยปัจจุบันคาดว่า ไทยมีผู้ขายมากกว่า 3 ล้านราย จาก 3 แพลตฟอร์มใหญ่ อาทิ Shoppee Lazada และ Tiktok (อ้างอิงข้อมูลจากงาน Priceza Thailand’s E-Commerce 2025)
ช้อปออนไลน์ไทยทะลุ 1.07 ล้านล้านบาท ดัน ธุรกิจแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์โต
ขณะที่ มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทย ที่ขยายตัวตามยอดขายออนไลน์
- ปี 2563 (ช่วงโควิด) มีมูลค่า 3.7 แสนล้านบาท เติบโต 68% (YoY)
- ปี 2567 มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท เติบโต 9% (YoY)
- ปี 2568 (คาดการณ์) มีมูลค่า 1.07 ล้านล้านบาท เติบโต 7% (YoY)
- ปี 2573 (ประมาณการณ์ช่วง 5 ปี ข้างหน้า) มีมูลค่า 2 ล้านล้านบาท
จากความนิยมของช้อปสินค้าออนไลน์ของคนไทย ส่งผลให้ ”ธุรกิจแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์“ รุ่งเรือง จากบุคคลธรรมดา ได้จดทะเบียนตั้งนิติบุคคล นำไปสู่การขยาย ”บ้าน + โรงงาน“ สำหรับผลิตและแพ็กสินค้าขาย!

“สร้างบ้านพร้อมโรงงาน” โมเดลที่อยู่อาศัยยุคใหม่
ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด (IHC) ในเครือพฤกษาฯ กล่าวว่า ธุรกิจรับสร้างบ้าน ปี 2568 มีมูลค่า 130,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีรายใหญ่ครองตลาดไม่ถึง 10% หรือราว 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ IHC เห็นโอกาสการเติบโต จึงรุกธุรกิจภายใต้แบรนด์ Plantnery by PRUKSA เจาะกลุ่ม B2C ในบ้านระดับกลาง-บน ราคา 3-20 ล้านบาท ที่มีกำลังซื้อ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ
ขณะที่เทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจ คือ ลูกค้ายุคใหม่ ในสัดส่วนกว่า 30% ติดต่อขอรับคำปรึกษาสร้างบ้านโมเดลใหม่ คือ “บ้าน + โรงงาน ในพื้นที่เดียวกัน”
ส่วนใหญ่ผู้สนใจโมเดลใหม่นี้ ทำธุรกิจขายของออนไลน์ ที่ต้องการสร้างที่อยู่อาศัย พร้อมกับพื้นที่โรงงานสำหรับผลิตสินค้า หรือแวร์เฮ้าส์สำหรับแพ็กสินค้าส่งลูกค้า
ทำเลที่น่าสนใจมักจะอยู่ในเขต กทม. อาทิ สาทร พัฒนาการ หากมีการสร้าง อาจต้องมีการยื่นขออนุญาตเพิ่มเติมจากทางภาครัฐ (กรณีไม่ใช่ผังเมืองสีม่วง/สีแดง)

“จุดเด่นของ Plantnery by PRUKSA คือ การทำราคารับสร้างบ้านได้หลายเซกเมนต์ตั้งแต่ 10,000 – 40,000 บาท/ตร.ม. แต่ถ้าเทียบในกลุ่มระดับสินค้าเดียวกัน ราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 10% ด้วยความแข็งแกร่งจากซัพพลายเชนและพาร์ตเนอร์คู่ค้า”
โดยบ้านแนวราบ การันตีสร้างเสร็จภายใน 6 เดือน ไม่มีทิ้งงาน และคุมงบประมาณได้ จากประสบการณ์สร้างบ้านมากกว่า 2 แสนหลังของพฤกษาฯ
เบื้องต้น บริษัทฯ ตั้งเป้าพอร์ตรายได้ประจำ (Recurring Income) จากธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้เติบโตต่อเนื่อง ดังนี้
- ปี 2568 รายได้ 400 ล้านบาท (ปีแรกที่เริ่มธุรกิจ)
- ปี 2569 รายได้ 1,000 ล้านบาท
- ปี 2573 รายได้ 2,500 ล้านบาท
- ปี 2578 รายได้ 5,000 ล้านบาท

ลุยรับเหมาก่อสร้าง IHC อะพาร์ตเมนต์ให้เช่า iPlern ตั้งเป้า 3 ปีเข้าตลาดหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดเกมรุก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผ่านแบรนด์ IHC โดยรับเหมาก่อสร้างให้กับดีเวลลอปเปอร์รายเล็ก-กลาง ที่ต้องการสร้างโครงการที่อยู่อาศัย อะพาร์ตเมนต์ โรงงาน หรือคลังสินค้า แต่ไม่มีทีมก่อสร้าง
รวมถึงลุย ธุรกิจอะพาร์ตเมนต์ให้เช่า ผ่านแบรนด์ iPlern (ไอเพลิน) ตอบรับเทรนด์ซื้อมากกว่าเช่าของคนยุคใหม่ โดยมีทั้งหมด 3 ระดับราคา
- ทำเลนิคมอุตสาหกรรม อาทิ ลำลูกกา บ่อวิน ราคาเช่าเริ่มต้น 2,000-3,000 บาท/เดือน
- ทำเลสถานศึกษา อาทิ ม.เกษตรศาสตร์ ม.กรุงเทพ ราคา 4,000-5,000 บาท/เดือน
- ทำเลกลางเมือง ราคา 8,000-10,000 บาท/เดือน
บริษัทฯ คาดว่าปี 2568 IHC จะมีรายได้ 5,000 ล้านบาท และในอีก 3 ปีข้างหน้าราวปี 2571 เราตั้งเป้ารายได้ 7,000-8,000 ล้านบาท และเตรียมสปินออฟนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โรงงานพรีคาสต์ของพฤกษา หนึ่งในแรงหนุนในการรับก่อสร้างบ้าน อะพาร์ตเมนต์ คอนโด ของ IHC




