รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 28 มกราคม 2547

ประเด็นเปิดตลาด

– ดัชนีตลาดหุ้น Dow Jones วันอังคารปิดลบร้อยละ 0.87 สู่ระดับ 10,609.92 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้น NASDAQ ร่วงลงร้อยละ 1.75 ที่ระดับ 2,116.04 จุด

– ดัชนีตลาดหุ้น Nikkei วันอังคารปรับลงร้อยละ 0.41 มาปิดที่ระดับ 10,928.03 จุด โดยดัชนีหุ้นเปิดตลาดวันพุธปรับลดลงสู่ระดับ 10,844.58 จุด

– เงินบาท เงินเยน และเงินยูโร แข็งค่าขึ้นในเช้าวันนี้ มาอยู่ที่ระดับ 39.063 บาท/ดอลลาร์ 105.65 เยน/ดอลลาร์ และ 1.2623 ดอลลาร์/ยูโร ตามลำดับ

– จากการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิค ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ดัชนีหุ้นไทยวันพุธนี้คงจะมีแนวรับที่ระดับ 730 จุด
ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 745 จุด ในขณะที่ประมาณว่าค่าเงินบาทคงจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ ระหว่าง 39.02-39.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

– ดัชนีแสดงบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมัน (IFO) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 97.4 ในเดือน ม.ค. 2547

– ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ (The Conference Board Consumer Confidence) ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 91.3 ในเดือน ธ.ค. 2546 มาเป็น 96.8 ในเดือน ม.ค. 2547

ภาวะตลาดหุ้น

U.S. Dow Jones / U.S. NASDAQ:

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันอังคารปรับตัวลงหลังจากทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง ด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น โดยดัชนีตลาดหุ้น Dow Jones ร่วงลง 0.87% สู่ระดับ 10,609.92 จุด สอดคล้องกับดัชนีหุ้น NASDAQ ที่ดิ่งลง 1.75% ปิดที่ระดับ 2,116.04 จุด ตามแรงเทขายทำกำไร โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพนอกจากนั้น การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินยูโรและฟรังก์สวิส ในขณะที่มีสัญญาณเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอนั้น ยังเป็นปัจจัยที่ถ่วงดัชนีตลาดลงด้วย

Japan Nikkei-225:

ดัชนีตลาดหุ้น Nikkei วันอังคารปรับลง 0.41% เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน สู่ระดับ 10,928.03 จุด จากแรงเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มบลูชิพก่อนการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทกลุ่มดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงลง ขณะที่ หุ้นโซนี่และหุ้นในกลุ่มเดียวกันเริ่มชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวรับข่าวดีเกี่ยวกับความต้องการสินค้าดิจิตอลเพื่อผู้บริโภคไปแล้ว

Thailand’s SET:

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันอังคารดีดตัวขึ้น มาปิดบวก 1.92% ที่ระดับ 739.47 จุด หลังจากระหว่างวันร่วงลงต่ำกว่าแนวรับ 720 จุด ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับคืนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีราคาลดลงมาก โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคารและวัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดอยู่

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD:

เงินบาทแข็งค่าขึ้น หลังมีแรงเทขายดอลลาร์อย่างหนาแน่นจากกลุ่มผู้ส่งออก ทั้งตลาดในและนอกประเทศ ในขณะที่นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับไข้หวัดนก ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ม.ค ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขจาก 10 ประเทศในแถบเอเชีย เพื่อหาทางแก้ปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนกดังกล่าว

Yen/USD:

เงินเยนแข็งค่าขึ้น ในขณะที่ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวหลังการประชุม รมช.คลัง G-7 ว่า การเข้าแทรกแซงตลาดของทางการมีจุดประสงค์เพื่อลดความผันผวนในตลาด ไม่ใช่เพื่อจำกัดเงินเยนไว้ที่ระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งทำให้ตลาดมองว่า อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอการเข้าแทรกแซงตลาด ก่อนการประชุมกลุ่มผู้นำ G-7 ที่กำลังจะมาถึง

USD/Euro:

เงินยูโรอ่อนค่าลง จากการคาดการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ยุโรปอาจเข้าดำเนินการเพื่อทำให้เงินยูโรลดการแข็งค่า ก่อนการประชุมกลุ่มผู้นำ G-7 ในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งส่งผลให้นักเก็งกำไรเทขายเมื่อเงินยูโรมีการทะยานขึ้น ในช่วงที่ผ่านมา

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

U.S. Treasury 10 Years / Thai Gov. Bond 1 Year / Thai Gov. Bond 5 Years / Thailand Bond Volume (MB):

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ขยับขึ้นเล็กน้อยในพันธบัตรระยะสั้น ขณะที่ ปรับลดลงในช่วง –2 ถึง –8 bps. ในพันธบัตรระยะปานกลางและระยะยาว โดยสเปรดระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 และ 10 ปี อยู่ที่ 3.25% แคบลงจาก 3.32% เมื่อวันก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ไทย ลดลง 11.07% จากวันก่อน ด้านการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (CB05127A) วงเงิน 5 พันล้านบาท ประเภทอายุ 1 ปี มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.37% ทรงตัวจากการประมูลเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ นักลงทุนกลับมามีความต้องการถือครองพันธบัตรระยะปานกลางและระยะยาว เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคาดว่าเส้นอัตราผลตอบแทนจะมีความชันน้อยลง จากเกิดความกังวลต่อโรคไข้หวัดนก