กรุงเทพฯ – โธมัส บียอร์น ที่จบรอบสามเก็บเข้าได้เพียง 2 อันเดอร์พาร์ 70 ขึ้นนำเดี่ยวต่อไป
ด้วยสกอร์ 14 อันเดอร์พาร์ 202 ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการ ”จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คลาสสิค 2004” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 70 ล้านบาท) ณ สนามอัลไพน์กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ พาร์ 72 ระยะ 7072 หลา เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา โดยมี มิเกล แองเจล เฮมิเนส์ โปรจอมเก๋าแดนกระทิงดุ วัย 41 ปี งัดฟอร์มเก่งไล่เก็บเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67
การแข่งขันกอล์ฟไตร-แซงชั่นระหว่างยูโรเปี้ยนทัวร์ ออสเตเลเชี่ยนทัวร์ และเอเชียนทัวร์ รายการ “จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คลาสสิค 2004” ชิงเงินรางวัลรวม 60 ล้านบาท ทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2547
โธมัส บียอร์น รองแชมป์บริติจ โอเพ่น เมื่อปีที่ผ่านมาวัย 33 ปี เก็บมาอีก 3 เบอร์ดี้ เสีย 1 โบกี้ รวม 2 อันเดอร์พาร์ จบ 18 หลุมของวันนี้ ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำด้วยสกอร์ 14 อันเดอร์พาร์ 202 โดยมีเสือเฒ่าจอมเก๋าจากสเปน มิเกล แองเจล เฮมิเนสโปรวัย 41 ปีไล่จี้ติด โดยเก็บได้ 6 เบอร์ดี้เสียเพียงโบกี้เดียว รวมสามวันมี 13 อันเดอร์พาร์ 203
ทางด้านเออร์นี่ เอลส์ แชมป์เก่าไล่เก็บเข้ามาได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสามวันมี 10 อันเดอร์พาร์ 206 ไล่ตามผู้นำถึงสโตรคเท่ากับโปรหมายเลขหนึ่งของไทย ธงชัย ใจดี จบรอบสามไล่เข้ามาอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวม 10 อันเดอร์พาร์ 206 อยู่อันดับ 8 ร่วม ส่วนแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น บุญชู เรืองกิจ รอบสามเก็บเพิ่มได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวม 7 อันเดอร์พาร์ 209 อยู่อันดับที่ 26 ร่วม
ในรอบสามและรอบสี่ ทางผู้จัดการแข่งขันเพิ่มของรางวัลดึงดูดใจโปรอีกหลายรางวัลด้วยกันคือ รางวัลโฮลอินวัน หลุม 3 กับ 15 เป็นรางวัล รถยนต์เลกซัส 2 คัน หลุม 12 รางวัลสร้อยคอไพลินล้อมเพชร “บลู เซเลเบรชั่น” จากจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลูเลเบิ้ล และในหลุม 14 พาร์ 5 มีรางวัลตีไกลให้โปรใส่กันสุดๆ ด้วยรางวัลแพ็กเก็จทัวร์ที่โรงแรมเกลนอีเกิ้ลส์ รีสอร์ท ประเทศสก็อตแลนด์ และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันกอล์ฟรายการดิอาจิโอ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งในรอบสาม เฮนดริด สเตนสัน โปรกอล์ฟชาวสวีเดน ทำสถิติไว้ที่ระยะ 349 หลา
ในส่วนของโปรไทยมีสกอร์ดังนี้ พรหม มีสวัสดิ์ หวดเข้ามาเหลือเพียง 2 อันเดอร์พาร์ 214 อยู่อันดับที่ 62 ร่วม
ถาวร วิรัตน์จันทร์ สแควร์พาร์ 216 (68-74 -74) อันดับที่ 73 ร่วม
สำหรับแฟนกอล์ฟชาวไทยที่สนใจจะเข้าชมในรอบ 4 (วันอาทิตย์) จะทีออฟเวลา 07.10 น. บัตรเข้าชมราคา 250 บาท ยังมีจำหน่ายที่หน้าประตูทางเข้าสนามกอล์ฟอัลไพน์ สำหรับแฟนๆ ที่สนใจจะเข้าชมการแข่งขันรอบสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ โดยจะขับรถมาเอง ขอให้มาแต่เช้า หรือทางสนามขอแนะนำให้ท่านมีคนขับรถรับส่ง เพื่อป้องกันปัญหาการหาที่จอดรถไม่ได้
สำหรับรอบสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ ฯพณฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ฯพณฯ สนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินทางมาปิดการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ระดับโลกในครั้งนี้ ประมาณ เวลา 16.45 น.
คืนวันเสาร์ของการแข่งขันจะมีการจัดงานกาลาดินเนอร์ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีการมอบรางวัลเกียรติยศ
2 รางวัลคือ รางวัลนักกอล์ฟเอเชียยอดเยี่ยมแห่งปี 2003 (Johnnie Walker Asian Golfer of the Year 2003) คือ อาจุณ อัตวัล จากอินเดีย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ได้มาร่วมแข่งขันในรายการนี้ ส่วนรางวัลนักกอล์ฟรุ่นเยาว์ยอดเยี่ยม ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ 2003 (Johnnie Walker Young Golfer of the Year 2003) ตกเป็นของอดัม สก็อตต์ (ออสเตรเลีย) ซึ่งจะออกรอบแข่งกับธงชัย ใจดี ในรอบสุดท้ายวันพรุ่งนี้ เวลา 12.14 น. ที่หลุม 1
สรุปผลการแข่งขัน
อันดับ 1 – 202 โธมัส บียอร์น(เดนมาร์ก) 64-68-70
อันดับ 2 – 203 มิเกล แองเจิล เฮมิเนส์ (สเปน) 70-66-67
อันดับ 3 ร่วม – 204 ริชาร์ด กรีน (ออสเตรเลีย) 73-64-67 / ไซม่อน เยสท์ (สก็อตแลนด์) 68-68-68
อันดับ 4 ร่วม – 205 เอียน พอลเตอร์ (อังกฤษ) 66-72-67 / เดวิด สเมล (นิวซีแลนด์) 67-69-69 / เดวิด ลีนน์ (อังกฤษ) 68-66-71
หมายเหตุ
การแข่งขันกอล์ฟ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คลาสสิค เป็นรายการที่ร่วมกันจัดขึ้นโดย ดิอาจิโอ และไอเอ็มจีด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยเป็นรายการกอล์ฟที่ได้รับการสนับสนุนจากพีจีเอทัวร์ 3 รายการ ได้แก่ ยูโรเปี้ยน พีจีเอ ทัวร์ เอเชียน พีจีเอ ทัวร์ และ ออสเตรเลเชียน พีจีเอ ทัวร์ ทั้งยังเป็นรายการที่มีเงินรางวัลสูงสุดใน ทัวร์นาเม้นท์ที่แข่งในเอเชียและออสเตรเลเชีย ทั้งนี้ รายการจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คลาสสิค มีประวัติการจัดมายาวนานถึง 13 ปี และเป็นทัวร์นาเม้นท์ที่ดึงดูดนักกอล์ฟฝีมือดีจากทั่วโลกมาร่วมรายการมากมาย โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในฮ่องกง หลังจากนั้น ได้มีการเวียนจัดในสนามกอล์ฟชั้นนำ 9 แห่งใน 6 ประเทศ และมีนักกอล์ฟชั้นนำผลัดกันครองแชมป์ในทัวร์นาเม้นท์ ได้แก่ นิค ฟัลโด้ (2ครั้ง) ไทเกอร์ วูดส์ (2 ครั้ง) เกรก นอร์แมน เฟรด คัพเพิลส์ เอียน วูสนั่ม ไมเคิล แคมป์เบลล์ รีทีฟ กูเซ็น และเออร์นี่ เอลส์ (2 ครั้ง)