บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กำหนดออกหุ้นกู้ประเภทระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 1,600 ล้านบาท มูลค่าตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท โดยแบ่งหุ้นกู้เป็น 2 ชุดคือ ชุดที่ 1 หุ้นกู้อายุ 3 ปี จ่ายคืนเมื่อครบกำหนด มูลค่า 600 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4.50% ส่วนหุ้นกู้ชุดที่ 2 เป็นหุ้นกู้ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นอายุ 5 ปี มูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยจะจ่ายคืน 2 ครั้งจำนวนเท่าๆ กัน เมื่อครบอายุหุ้นกู้ในสิ้นปีที่ 4 และ 5 อัตราดอกเบี้ย 5.25% โดยเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปตั้งแต่วันที่ 18-25 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งเนชั่น กรุ๊ป ได้แต่งตั้งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้, ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้และนายทะเบียนหุ้นกู้
นายวันชัย ศรีหิรัญรัศมี กรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทตกลงแต่งตั้งธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ เนื่องจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เสนอขายแก่ทั้งนักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป ซึ่งธนาคารได้วางแผนกลยุทธ์การจัดจำหน่าย โดยทำการเสนอข้อมูลให้ผู้ลงทุนรับทราบ ในส่วนของนักลงทุนสถาบันวางแผนนำเสนอข้อมูลในรูปของ One – on – One และสำหรับประชาชนทั่วไปธนาคารกสิกรไทยก็มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน โดยประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามขอข้อมูลและจองผ่านสาขาธนาคารกสิกรไทยในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 18-25 กุมภาพันธ์ 2547”
“โดยบริษัทจะนำเงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคม 2547 ถือได้ว่าเป็นการ Refinance ทั้งหมด ซึ่งทำให้บริษัทมีภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงประมาณปีละ 40 ล้านบาทตลอดระยะเวลาของหุ้นกู้” นายวันชัยกล่าว
นายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้กล่าวว่า “หุ้นกู้เนชั่นในครั้งนี้เปิดโอกาสให้ทั้งผู้ลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป สำหรับผู้ลงทุนรายย่อยที่สนใจหุ้นกู้ในครั้งนี้สามารถจองซื้อขั้นต่ำเพียง 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ซึ่งเราคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนทังสถาบันและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับการออกหุ้นกู้ของเนชั่น ในครั้งที่แล้ว เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท นอกจากนี้เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องของหุ้นกู้ บริษัทฯ จะทำการจดทะเบียนนำหุ้นกู้ครั้งนี้เข้าทำการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทยด้วย”
“บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแนวโน้มของธุรกิจโฆษณาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตขึ้น รวมทั้งตัวบริษัทเองมีสถานภาพทางการตลาดที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจหลัก คือ สื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน กรุงเทพธุรกิจ และหนังสือภาษาอังกฤษ เดอะเนชั่น และที่เห็นได้ชัด คือ หนังสือพิมพ์รายวันคม ชัด ลึก ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท โดยปัจจุบัน คม ชัด ลึก ได้ก้าวขึ้นเป็นหนังสือพิมพ์ชั้นนำที่มียอดจำหน่ายติดอยู่ในอันดับ 1 ใน 3 ของหนังสือพิมพ์รายวันในประเทศไทย โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาบริษัทสามารถรักษาระดับผลตอบแทนและคุณภาพของสินทรัพย์ไว้ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งความสามารถของทีมผู้บริหารที่ทำให้คุณภาพธุรกิจทางด้านการสื่อสารของกลุ่ม เนชั่นในประเทศไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งขึ้น” นายทวิช กล่าว
บริษัท เนชั่น เป็นบริษัทที่ดำเนินการด้านสื่อในระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งผลิตสื่อหลากหลายประเภท อาทิ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ โดยสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และผลกำไรมากกว่า 80%
สิ่งพิมพ์หลักของบริษัท คือ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เดอะเนชั่น และคม ชัด ลึก ซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างสูงในกลุ่มผู้อ่าน โดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ จัดเป็นผู้นำที่โดดเด่นในกลุ่มหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ซึ่งปัจจุบันมียอดจองโฆษณาล่วงหน้าอย่างมากในขณะที่หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เดอะเนชั่น สามารถสร้างฐานผู้อ่านให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้นำตลาดคือ หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ และหนังสือพิมพ์รายวัน คม ชัด ลึก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้อ่านในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ในปี 2546
บริษัทได้นำเข้าและติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากปัจจุบันกำลังการผลิตของบริษัทค่อนข้างเต็ม และเพื่อรองรับการเติบโตของหนังสือพิมพ์ทั้ง 3 ฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ที่เป็นแหล่งรายได้หลักแหล่งใหม่ของบริษัทที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเพิ่มกำลังการผลิตนี้ส่งผลให้คุณภาพการพิมพ์ดีขึ้น และบริษัทสามารถเสนอข่าวได้ทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น