นายพิสิฐ พฤกษานุศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบลต้า คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวถึงผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ ว่า ในปีที่ผ่านมาผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้คือ ประมาณ 100,000 ยูนิต และสำหรับในปีนี้ ส่วนหนึ่งเบลต้าจะรักษาส่วนแบ่งของตลาดระดับกลาง ซึ่งบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และทำตลาดในกลุ่มนี้
รวมถึงการที่บริษัทฯ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนในฐานะ National Brand ของไทยในการเยี่ยมชมระบบการพัฒนา และขั้นตอนการผลิตจากผู้ประกอบการต่างประเทศ อีกทั้งจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมด้วยการขยายโปรดักส์ไลน์ใหม่กลุ่มดิจิตอล อาทิ จอPlasma, LCD Monitor, LCD TV, Projector และ Digital Camera ซึ่งในการเปิดตัวเข้าทำตลาดกลุ่มนี้ สืบเนื่องจากการกำหนดวิสัยทัศน์สู่การเป็น World Class Brand of ICT Product ของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา
โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่นี้ สามารถเชื่อมโยงหรือเพิ่มมูลค่าให้กับ Notebook, PC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ และประสบความสำเร็จในการทำตลาดมาแล้ว ซึ่งเบลต้าฯ ติดอยู่ในอันดับ 1 ใน 5 ของแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุด จากตัวเลขของตลาดรวมคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยอยู่ที่ 1,277,047 ยูนิต นอกจากนี้ ตลาดกลุ่มดิจิตอลในปัจจุบันกำลังมีการขยายตัวอย่างมากในปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าน่าจะเติบโตขึ้นอีกเท่าตัวในปีนี้ โดยจากกลยุทธ์ดังกล่าวบริษัทฯ คาดว่าน่าจะสามารถผลักดันให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างน้อย 30%
ในด้านของสินค้าใหม่ที่จะนำออกวางตลาดในปีนี้ นายเอกภพ สุวรรณ ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์ เปิดเผยว่า ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีการแบ่งโปรดักส์ไลน์มากขึ้นนั้น ในส่วนของ PC และNotebook นอกจากผลิตภัณฑ์ไลน์เดิมแล้ว บริษัทฯ จะหันมาให้ความสำคัญที่กลุ่ม Business มากขึ้นโดยในปีนี้จะมีการวางตลาดผลิตภัณฑ์ Notebook ที่มีจอขนาดเล็ก 12” ซึ่งมีความสะดวกในการพกพามากขึ้น หรือจะเป็น Notebook แบบที่จอภาพหมุนได้ 180 องศา
และในส่วนของ PC นั้นบริษัทฯ จะวางจำหน่าย Belta Oxy ที่มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสามารถรองรับการทำงานได้มากขึ้นในตลาดกลาง-บน ส่วนรุ่น Belta Infinity บริษัทฯ จะนำมาทำตลาดระดับกลาง และสำหรับ PC รุ่น X-tra บริษัทฯ จะนำมาวางตลาด Entry นอกจากนี้ สำหรับ Pocket PC รุ่น Mio 339 ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษา ดังนั้น ในปีนี้บริษัทฯ จึงมีแผนจะนำมาวางตลาดเพิ่มอีก 1 รุ่น คือ Mio 558 ซึ่งมีระบบ WiFi และ Bluetooth เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มนักธุรกิจต่อไป
สำหรับโปรดักส์ไลน์ใหม่ที่บริษัทฯ ขยายเพิ่มออกมาในส่วนดิจิตอลโปรดักส์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวภายใต้ชื่อกลุ่ม B-DIGITAL PRODUCT ซึ่ง B นอกจากจะเป็นตัวย่อของแบรนด์เบลต้าแล้ว สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้สัญลักษณ์ คือการก้าวสู่โลกดิจิตอลอย่างแท้จริง คือการบอกความเป็นตัวคุณ อาทิ Be Smart หรือ Be Your Style โดยที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ B DIGITAL CAMERA ซึ่งบริษัทฯ ได้นำกล้องดิจิตอลมาวางตลาด 4 รุ่นด้วยกัน โดยทั้ง 4 รุ่นจะมีระบบการทำงานแบบ CMOS และแบบ CCD Sensor มีความละเอียดตั้งแต่ 3 – 6 ล้านพิกเซล ภายใต้สนนราคาตั้งแต่ 4,900 –15,000 บาท
และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มถัดมาคือ กลุ่ม B STORAGE โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะเป็น USB Drive และ External Hard Disk ที่มีให้เลือกหลายรุ่นตามความต้องการของผู้บริโภค ส่วนผลิตภัณฑ์อีกกลุ่มคือ B MULTIMEDIA ที่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูล และเครื่องเล่น MP3 ซึ่งในปีนี้เบลต้าได้นำมาวางตลาด 2 ผลิตภัณฑ์คือ USB Drive และ External Hard Disk ที่สามารถฟัง MP3 ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายพร้อมให้ความบันเทิงกับผู้บริโภคด้วยอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสุดท้ายคือ B DISPLAY ที่บริษัทฯ จะนำ จอ Plasma 42”, LCD Monitor, LCD TV และรวมถึงเครื่องฉาย Projector มาวางตลาดในราคาพิเศษ
พร้อมกันนั้นนางสาวพรรณี ชมภูชัยเกิด ผู้จัดการฝ่ายการตลาดได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนงานด้านการตลาดว่า ในปีนี้ในส่วนกลุ่มลูกค้าคอร์ปอเรท บริษัทฯ จะโฟกัสไปที่กลุ่มธุรกิจ SMEs มากขึ้น ด้วยปัจจุบันการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม SMEs เติบโตขึ้นมากและมีความต้องการเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเข้ามารองรับการทำงานมากขึ้น ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ต้องใช้งบประมาณมาก จากช่องว่างในจุดนี้บริษัทฯ จึงสร้าง Value Added Solution ที่มีความเหมาะสมกับธุรกิจ SMEs ในแต่ละประเภทเพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ให้กว้างขึ้น
สำหรับตลาดโฮมยูส บริษัทฯ จะเน้นลูกค้ากลุ่มนักศึกษาที่ต้องการอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ มีวางจำหน่ายแล้ว บริษัทฯ ยังได้จัดโปรโมชั่นแคมเปญคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่สามารถจับต้องได้สำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ และโปรดักส์ไลน์ใหม่ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการเปิดตัว ปีนี้บริษัทฯ จะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าววางตลาด ณ ช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมที่มีกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
ในส่วนงานด้านบริการซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญของการสร้างความน่าเชื่อถือใน Brand ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ จะปรับเปลี่ยน และพัฒนารูปแบบการบริหาร Belta IT Service Station(BISS) ให้สามารถบริหารงานได้แบบเบ็ดเสร็จในตัวและมีพื้นที่รับผิดชอบที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้การบริการมีความรวดเร็วและลดขั้นตอนของระบบการทำงาน เพื่อความสะดวกและทันต่อความต้องการของผู้บริโภค นอกจากการพัฒนาศักยภาพดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ ยังจัดให้มีการประเมินผล ประสิทธิภาพการทำงานของ BISS ผ่านทาง Quick Line หรือคอลล์เซ็นเตอร์ ที่เป็นส่วนรับความคิดเห็นของลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้ Quick Line มีการเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าพร้อมทั้งจะมีการประเมินผลพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อผู้แทนจำหน่ายผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ทุกไตรมาส เพื่อทำการตลาดแบบ CRM ต่อไป
ซึ่งรวมถึงการเพิ่มมาตรฐานงานขายและการบริการให้กับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายของเบลต้า ด้วยการจัดการโปรแกรมพิเศษให้กับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายที่สนใจมาตรฐาน ISO 9001:2000 โดยมีเบลต้าเป็นผู้สนับสนุน ส่วนแผนงานด้านการประชาสัมพันธ์ นอกจากจะทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบ Below the line ซึ่งจะมีการจัด กิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดงาน Event และ Road Show ตามพื้นที่เป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังจะมีการจัดแถลงข่าวในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตลอดปี
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าจาก Life Style ของคนไทยในปัจจุบันที่มีความต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเบลต้าจึงพยายามที่จะตอบสนองให้ครบทุกความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการเพิ่มโปรดักส์ไลน์ของสินค้าที่บริษัทฯ นำมาวางจำหน่ายให้ครบวงจรมากขึ้น และเพื่อตอบรับกับโลกที่กำลังก้าวข้ามสู่ยุคดิจิตอลอย่างจริงจัง