“ฟุตบอล”นับเป็นเกมกีฬาที่มีความเป็นสากล ซึ่งสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ปราศจากความแตกต่างทางชนชั้น ชาติพันธุ์และสีผิว เป็นกีฬายอดนิยมในหลายประเทศทั่วโลก โดยการแข่งขันจะมีทั้งเกมระดับโลกที่มีการจัด 4 ปีต่อครั้ง เช่น ฟุตบอลโลก เป็นต้น เกมระดับภูมิภาคเช่น ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งกำลังจะจัดให้มีขึ้นในเดือนมิถุนายนปีนี้ที่ประเทศโปรตุเกส และเกมการแข่งขันระดับสโมสรภายในของแต่ละประเทศ โดยเกมลูกหนังระดับที่ได้รับความสนใจและมีการถ่ายทอดสดกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันคือฟุตบอลลีกในกลุ่มประเทศ ยุโรป โดยเฉพาะฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษที่มีทีมยอดนิยมในหมู่แฟนฟุตบอลไทยอยู่หลายทีมด้วยกัน ทำให้ข่าวคราวเกี่ยวกับการซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูลนั้นเป็นข่าวใหญ่และมีคนติดตามให้ความสนใจกันอย่างมาก
ประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของกีฬาฟุตบอลติดอันดับต้นๆของแฟนลูกหนังทั่วโลก ประกอบกับข่าวสารและสื่อต่างๆที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วกว่าในอดีต ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้กระทั่งอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรผ่านเคเบิลทีวี และสื่อโทรทัศน์ทุกสัปดาห์เพื่อเอาใจผู้ชมชาวไทยถึงบ้านที่ดำเนินการติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ยิ่งส่งผลให้เกมลูกหนังเข้าไปครองใจแฟนบอลชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวกับด้านกีฬาฟุตบอลที่วางจำหน่ายในเมืองไทยได้รับประโยชน์ต่อเนื่องไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์กีฬา ชุดกีฬา สื่อสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล รวมถึงสินค้าที่ระลึกสำหรับการแข่งขันฟุตบอลทีมลีกในแต่ละประเทศ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจ “คนกรุงเทพฯกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก” ในระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2547 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,420 คน โดยกระจายกลุ่มตัวอย่างตามเขตต่างๆในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทั้งกระจายกลุ่มตัวอย่างตามอายุและอาชีพ ซึ่งจะมีผลต่อความสนใจในเรื่องกีฬาที่แตกต่างกัน ซึ่งผลการสำรวจพบประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
– คนกรุงเทพฯกับความสนใจกีฬาฟุตบอล
จากการสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯถึงร้อยละ 61.1 ของกลุ่มตัวอย่างมีความสนใจในกีฬาฟุตบอล โดยในจำนวนนี้แยกเป็นคนที่สนใจมากร้อยละ 16.5 และผู้ที่สนใจบ้างร้อยละ 44.6 ซึ่งในกลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพฯที่สนใจกีฬาฟุตบอลมากนั้นจะเป็นผู้ชาย นอกจากนี้ยังพบว่าคนกรุงเทพฯที่อายุต่ำกว่า 20 ปีนั้นมีความสนใจในกีฬาฟุตบอลมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ
– คนกรุงเทพฯกับการติดตามการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
คนกรุงเทพฯที่ติดตามการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะการแข่งขันคู่ที่สำคัญมีอยู่ถึงร้อยละ 33.4 ของกลุ่มตัวอย่าง และมีอีกร้อยละ 16.4 ของกลุ่มตัวอย่างที่ติดตามการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างสม่ำเสมอ โดยคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่อายุต่ำกว่า 30 ปีติดตามการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างสม่ำเสมอ
– แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล…3 ทีมในดวงใจ
จากการสำรวจคนกรุงเทพฯที่ติดตามการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างสม่ำเสมอนั้น ปรากฏว่าความนิยมทีมฟุตบอล 3 อันดับแรกคือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล และอาร์เซนอลตามลำดับ โดยทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นจะเป็นทีมอันดับหนึ่งในดวงใจทั้งในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ชายและผู้หญิง แต่ทีมลิเวอร์พูลนั้นจะเป็นทีมในดวงใจอันดับสองเฉพาะสำหรับกลุ่มตัวอย่างผู้ชาย ส่วนกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงจะเลือกทีมอาร์เซนอลเป็นทีมในดวงใจอันดับสอง
ถ้าแยกตามกลุ่มอายุจะพบว่ากลุ่มอายุที่เป็นแฟนทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างเหนียวแน่นคือ กลุ่มที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และกลุ่มอายุ 36-40 ปี ส่วนผู้ที่เป็นแฟนลิเวอร์พูลอย่างเหนียวแน่นส่วนใหญ่จะอายุ 31-35 ปี และผู้ที่เป็นแฟนทีมอาร์เซนอลอย่างเหนียวแน่นจะอายุมากกว่า 45 ปี
ถ้าแยกตามกลุ่มอาชีพจะพบว่ากลุ่มพนักงานบริษัทและกลุ่มข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจจะเป็นแฟนของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและลิเวอร์พูลอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่สำหรับกลุ่มอาชีพรับจ้างและค้าขาย/กิจการส่วนตัวนั้นจะเป็นแฟนของทีมอาร์เซนอลและลิเวอร์พูล
– โอเวน อองรี และเบ็คแฮม…3 นักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในดวงใจ
จากผลการสำรวจพบว่านักฟุตบอลในดวงใจ 3 อันดับแรกคือ ไมเคิล โอเวน เธียร์รี่ อองรี และเดวิด เบคแฮม ตามลำดับ โดยคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างนั้นเทคะแนนให้กับไมเคิล โอเวนถึงร้อยละ 40.8 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ส่วนอันดับสองและสามนั้นคะแนนค่อนข้างไล่เลี่ยกันคือ เธียร์รี่ อองรีร้อยละ 17.6 และเดวิด เบคแฮมร้อยละ 15.5 แม้ว่าในปัจจุบันทางเดวิด เบคแฮมนั้นไม่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษแล้วก็ตาม โดยย้ายไปเล่นให้กับทีมรีล มาดริดในสเปน แต่ด้วยชื่อเสียงและผลงานของเดวิด เบคแฮมยังเป็นที่ประทับใจของบรรดาแฟนฟุตบอลในเมืองไทย ทำให้ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับสาม
– คนกรุงเทพฯหนุนซื้อหุ้นแมนยูฯ-อาร์เซนอล…ถ้าพลาดจากการซื้อหุ้นลิเวอร์พูล
ในกรณีที่การเจรจาซื้อหุ้นลิเวอร์พูลไม่ประสบความสำเร็จ คนกรุงเทพฯที่เป็นผู้ตอบแบบสอบถามอยากที่จะเลือกซื้อหุ้นของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและอาร์เซนอลด้วยคะแนนที่ใกล้เคียงกัน คือทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดร้อยละ 36.8 ของกลุ่มตัวอย่าง และอาร์เซนอลร้อยละ 34.1 ทั้งนี้เนื่องด้วยความนิยมในทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่จัดเป็นทีมขวัญใจคนไทย ส่วนทีมอาร์เซนอลนั้นเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลปัจจุบัน ทำให้ทั้งสองทีมนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก
ปัจจุบันผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการฟุตบอลพยายามสร้างศักยภาพให้แก่นักแตะและทีมอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานและเพิ่มแฟนฟุตบอลทุกระดับ โดยพยายามสร้างศักยภาพให้แก่นักเตะ และทีมอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานและเพิ่มแฟนฟุตบอลให้มากยิ่งขึ้น ทำให้คาดหมายได้ว่ากีฬาฟุตบอลยังน่าจะอยู่ในความนิยมของบรรดาแฟนฟุตบอลของไทยต่อไปอีกนาน