นายณพ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด กล่าวว่า นับจากที่สถาบันดนตรี เคพีเอ็น ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบันนี้ ถือว่าเป็นสถาบันดนตรีที่ได้รับความเชื่อถือเนื่องจากมีหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นหลักสูตรจากสหรัฐอเมริกาที่ได้นำเข้ามาพัฒนาร่วมกับหลักสูตรของคนไทย ทำให้สามารถเสริมสร้างความรู้และทักษะทางด้านดนตรีให้กับเด็กไทยอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครอง
อีกทั้งสถาบันมุ่งหวังให้เด็กทุกคนได้รับความรู้ทางด้านดนตรีอย่างเต็มที่และทั่วถึงมากที่สุด โดยไม่จำกัดว่าเด็กคนนั้นจะมาจากที่ใด ต่างชาติต่างภาษากันอย่างไร เมื่อมาอยู่ร่วมกันให้ห้องเรียนดนตรีแล้วจะสามารถเรียนร่วมกันได้ เพราะถือว่าดนตรีนั้นเป็นสื่อสากลที่สามารถเชื่อมโยงถึงคนทุกชาติทุกภาษา ทั้งนี้ศาสตร์ทางด้านดนตรีนับเป็นสาขาวิชาหนึ่งที่ทางรัฐบาลและหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ควรให้การสนับสนุนเด็กไทยตั้งแต่วัยเริ่มต้น เพื่อเชิดชูความสามารถของเด็กไทยให้ปรากฏต่อสายตาชาวต่างชาติ
สำหรับการประกวดร้องเพลงยุวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประจำปี 2547 หรือเคพีเอ็น จูเนียร์ อะวอร์ด เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันดนตรีเคพีเอ็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เพื่อที่จะผลักดันให้เยาวชนไทยรุ่นใหม่กล้าคิด กล้าแสดงออกถึงความสามารถทางด้านการร้องเพลง เคพีเอ็น จูเนียร์ อะวอร์ดนับเป็นเวทีที่มีความหมายสำหรับเด็กที่รักการร้องเพลงอีกเวทีหนึ่ง เพราะได้สร้างนักร้องรุ่นเยาว์เข้าสู่วงการเพลงมาแล้วหลายราย
การประกวดในปีนี้นั้นได้เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 กรกฎาคม 2547 ผู้สมัครอายุตั้งแต่ 8 ถึง 12 ปี ไม่กำหนดว่าจะต้องเป็นนักเรียนของสถาบันดนตรีเคพีเอ็นหรือไม่ โดยเลือกสมัครใน 3 ประเภท คือ ประเภทเพลงไทยสากล ประเภทเพลงสากล และประเภทเพลงไทยลูกทุ่ง
สำหรับการคัดเลือก แบ่งออกเป็น 4 รอบ คือ
– รอบคัดเลือกจากเทปของผู้สมัครทั้งหมดเหลือประเภทละ 30 คน รวม 90 คน
– รอบคัดเลือก 1 ผู้สมัครทั้ง 90 คนแข่งขันร้องเพลงต่อหน้าคณะกรรมการเพื่อคัดเหลือ 30 คน พร้อมทั้งจะได้เข้าร่วม Music Camp เพื่อฝึกฝนทักษะทางด้านต่างๆ อย่างเข้มข้น เป็นระยะเวลา 4 วัน 3 คืน
– รอบรองชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขัน 30 คน ประกวดร้องเพลงต่อหน้าคณะกรรมการเพื่อคัดเหลือ 9 คน
– รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 25 ตุลาคม 2547 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ผู้แข่งขันทั้ง 9 คน จะร้องเพลงที่ถนัดแต่ไม่ซ้ำกับรอบที่ผ่านมาต่อหน้าคณะกรรมการละมีวงดนตรีประกอบ เพื่อคัดเลือกผู้ชนะเลิศแต่ละประเภท
ทั้งนี้ รางวัลในระดับต่างๆ นั้นมีมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท ได้แก่ รางวัลสำหรับนักร้องยุวชนชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประเภทละ 1 รางวัล รวม 3 รางวัล ได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, ทุนการศึกษามูลค่า 100,000 บาท, ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ – ออสเตรเลีย 2 ที่นั่ง สนับสนุนโดยบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) มูลค่า 150,000 บาท, คอร์สเข้ารับการอบรมหลักสูตร Voice Training กับสถาบันดนตรี เคพีเอ็นมูลค่า 50,000 บาท, ชุดไมโครโฟน มูลค่า 10,000 บาท รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า 1 คัน, เครื่องคอมพิวเตอร์ Apple 1 เครื่อง และผลิตภัณฑ์จากผู้สนับสนุนมูลค่า 50,000 บาท สำหรับรางวัลของยุวชนที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวน 9 รางวัล จะได้รับทุนการศึกษามูลค่า 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศ
ที่ผ่านมา เวที เคพีเอ็น จูเนียร์ อะวอร์ด ได้สร้างนักร้องรุ่นใหม่หลายคนเข้าสู่วงการเพลงเมืองไทย อาทิ ทาทา ยัง, น้องพลอย ณัฐชา สวัสดิ์รักเกียรติ, น้องโบนัส ณิชชา สังข์สุวรรณ์ วงซิกแซก , น้องดาว ณัฐภัสสร สิมะเสถียร หรือดาวโอเกะ ฯลฯ
ผู้ที่สนใจสามารถขอรับใบสมัครได้ที่ สถาบันดนตรีเคพีเอ็นสำนักงานใหญ่, สาขาสยามสแควร์, สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า, สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว, สาขาปิยรมย์, สาขาสีวลี, สาขาทองหล่อ, สาขาถนนเย็นอากาศ, สาขาบางกะปิ, สาขาบ้านภาณุ, สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน, สาขาบางแค, สาขาพัทยา, สาขานครปฐม และผู้จำหน่ายจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม ศกนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02 – 717 – 0695, 02 – 717 – 0599 และ 02 – 717 – 0222