รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2547

ประเด็นตลาดวันนี้

ดัชนีตลาดหุ้น SET วันพฤหัสบดีที่ 17 มิ.ย. ปิดตลาดลดลงเล็กน้อยที่ 623.72 จุด โดยลดลงจากวันก่อน 0.64จุด หรือ ร้อยละ 0.1 จากแรงขายหุ้นในกลุ่มสื่อสาร, ไฟแนนซ์, แบงก์ และอสังหาริมทรัพย์

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเงินยูโร และเงินบาทในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 1.202 ดอลลาร์ฯ/ยูโร และที่ 40.89 บาท/ดอลลาร์ฯ แต่อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยอยู่ที่ 109.6 เยน/ดอลลาร์ฯ
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงในวันนี้ หลังจากปรับขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวันก่อน โดยลดลง 33.82 จุด หรือ ร้อยละ 0.29 ไปปิดที่ระดับ 11,607.9 จุด การซื้อขายยังคงชะลอตัว โดยนักลงทุนยังรอปัจจัยใหม่ๆที่จะมากระตุ้นการซื้อขาย

– ตลาดหุ้นDow Jones ในวันพุธ ปิดตลาดลดลงเล็กน้อยจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 10,379.58 จุด ลดลง 0.85 จุด หรือ ร้อยละ 0.01 ทั้งนี้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันในตลาดโลก หลังจากการโจมตีท่อส่งน้ำมันในอิรักทำให้การส่งออกหยุดชะงัก ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

– รัฐบาลสหรัฐฯได้เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น อันได้แก่ ตัวเลขการสร้างบ้านในเดือน พ.ค.ที่ถึงแม้จะลดลงไป 0.7% แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนตัวเลขการขออนุมัติสร้างบ้านได้เพิ่มสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งผู้สร้างคาดว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะไม่กระทบต่อความต้องการซื้อบ้าน นอกจากนั้นตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค. ได้เพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี

– กรมสรรพสามิต เผยว่า ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาจัดเก็บภาษีได้มากกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าที่คาดไว้ถึง 14% โดยทั้งนี้สามารถเก็บภาษีรถยนต์ และน้ำมันได้มากที่สุด เป็นผลมาจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนถึง 15%

– ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาติให้สถาบันการเงินลงทุนในพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทของสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ออกจำหน่ายในประเทศไทยได้ โดยให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ออกหุ้นกู้ดังกล่าว นำเงินบาทที่ได้มาฝากเข้าบัญชีเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ(Single Non-Resident Account) โดยมีการผ่อนผันให้ยอดคงค้าง ณ.สิ้นวันของบัญชีมีจำนวนเกิน 300 ล้านบาทได้

ภาวะตลาดหุ้น

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในพฤหัสบดี ปิดตลาดลดลงไปจากระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ทำไว้ในวันก่อน โดยลดลงไป 33.82 จุด หรือ ร้อยละ 0.29 มาปิดตลาดที่ 11,607.9 จุด ปริมาณการซื้อขายเบาบางที่ 1.129 พันล้านหุ้น ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. ถึงแม้ว่าปัจจัยลบที่มากดดันตลาดก่อนหน้านั้นได้หายไป แต่ตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่ๆที่จะมากระตุ้นการซื้อขาย ทำให้ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเชื่อว่าราคาหุ้นจะไม่ร่วงลงไปมาก เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น และการผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแรงของสหรัฐฯสิ้นเดือนนี้

US ‘s Dow Jone
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดเมื่อวันพุธปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยปิดที่ระดับ 10,379.58 จุด ลดลง 0.85 จุด คิดเป็นร้อยละ 0.01 ทั้งนี้ปัจจัยที่มากดดันตลาดได้แก่ ความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันในตลาดโลก หลังการโจมตีท่อส่งน้ำมันในอิรักซึ่งทำให้การส่งออกน้ำมันของอิรักหยุดชะงัก และราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้ปัจจัยบวกที่มาช่วยหนุน ได้แก่ ตัวเลขการสร้างบ้าน และ การขออนุมัติก่อสร้างเดือน พ.ค. ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงเกินคาด ตลอดจนตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯเดือน พ.ค.ที่เพิ่มขึ้นถึง 1.1% อีกทั้งรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐฯที่ระบุว่า ภาวะการจ้างงานของสหรัฐฯได้ปรับตัวดีขึ้นในเดือน เม.ย. และ พ.ค.

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ในวันพุธ ปรับเพิ่มขึ้น 2.63 จุด หรือ ร้อยละ 0.13 ไปอยู่ที่ระดับ 1,998.23 จุด ตลาดได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของสหรัฐฯ แต่ราคาหุ้นออราเคิลที่ลดลงหลังการประกาศผลไตรมาส จากการที่พบว่ายอดขายต่ำกว่าความคาดหมาย ได้เป็นตัวดึงตลาดในวันนี้

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดลดลงจากวันพุธที่ผ่านมาเล็กน้อย 0.64 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 มาอยู่ที่ระดับ 623.72 จุด ทั้งนี้ตลาดยังปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆมากระตุ้นการซื้อขาย และเป็นการปรับตัวตามตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยตลาดปิดลดลงในวันนี้เนื่องจากแรงขายหุ้นในกลุ่มสื่อสาร, ไฟแนนซ์, แบงก์ และอสังหาริมทรัพย์

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ ทั้งนี้ในช่วงเช้าเงินบาทได้อ่อนค่าลงไปถึง 40.977 บาท/ดอลลาร์ฯ เป็นผลมาจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือน พ.ค. ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ของสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขการสร้างบ้าน ตัวเลขการผลิตทางอุตสาหกรรม ตัวเลขการขออนุญาติสร้างบ้านที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามเงินบาท ได้กลับมาแข็งขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงความคิดของตลาดที่ว่าสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสิ้นเดือนนี้

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน ถึงแม้จะมีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจเดือน พ.ค.ที่ดีขึ้นถึง 3 ตัว ตามที่กล่าวข้างต้น แต่นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะไม่ถูกปรับขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้เงินดอลลาร์ฯขาดปัจจัยบวกที่หนุนค่าเงิน ประกอบกับข่าวการระเบิดรถยนต์ใกล้ฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก เป็นอีกปัจจัยที่มากดดันค่าเงินดอลลาร์ในวันนี้

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในวันนี้เมื่อเทียบกับยูโร ปัจจัยบวกมาจากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจเดือน พ.ค.ที่ดีขึ้นของสหรัฐฯ โดยดอลลาร์ฯแข็งขึ้นไปถึง 1.201 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ก่อนอ่อนค่าลงมาเล็กน้อยในช่วงบ่าย นักลงทุนจะยังรอฟังผลการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสวิส ซึ่งหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะหนุนค่าเงินยูโรให้แข็งขึ้น นอกจากนั้นยังรอฟังการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน
พ.ค. และตัวเลขผู้ขอใช้สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี(ตามเวลาสหรัฐฯ)

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond 1 Year / Thai Gov. Bond 5 Years / Thai Gov. Bond 10 Years / Thailand Bond Value (MB) /
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 8,782.37 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนถึง 34% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของพันธบัตรองค์กรภาครัฐ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมดเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง –1.5 ถึง 2 bps.

Us Treasury Bond 10 Years
ราคาของ US Treasuries ลดลงไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากจากเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของเดือน พ.ค. เช่น ตัวเลขการสร้างบ้าน ตัวเลขการการผลิตของโรงงาน, เหมือง และ สาธารณูปโภค ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนเริ่มขายพันธบัตรออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากวันก่อน