การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 2547 หรือยูโร2004 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-5 กรกฎาคม 2547 คาดว่าจะส่งผลทำให้ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งในส่วนของสุราและเบียร์มีความคึกคักเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2545 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องจากช่วงเวลาการแข่งขันที่ค่อนข้างดึก จึงจูงใจให้ผู้ที่สนใจติดตามชมการแข่งขันทั้งที่ชมที่บ้าน หรือชมตามสถานบันเทิงรวมทั้งลานหน้าห้างสรรพสินค้าที่มีการติดตั้งจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ต้องการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและกระตุ้นให้เกิดความคึกคักมากขึ้น
ซึ่งต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วที่แข่งขันกันในช่วงกลางวัน การดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างชมการแข่งขันมีไม่มากนัก ในขณะเดียวกันจากการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 ที่อยู่ในช่วงดึก ส่งผลให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ถูกข้อจำกัดของภาครัฐที่ห้ามโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ก่อนเวลา 22.00 น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงสามารถโฆษณาสินค้าเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อได้สะดวก
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรมองข้ามนั่นคือ ภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจจะทำให้ประชาชนหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายด้านบันเทิงรวมไปถึงค่าใช้จ่ายด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น ในขณะเดียวกัน เนื่องจากเวลาการถ่ายทอดการแข่งขันที่อยู่ในช่วงดึก ประกอบกับการที่ภาครัฐมีความเข้มงวดทางด้านเวลาปิดสถานบริการทำให้ประชาชนจำนวนมากสนใจหันไปชมการแข่งขันอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้นับเป็นอุปสรรคที่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรมองข้าม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในช่วงการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญๆหลายรายการไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือการแข่งขันฟุตบอลโลก ทั้งนี้เนื่องจากช่วยสร้างความสนุกสนานคึกครื้นให้กับผู้ที่ชมการถ่ายทอดสดเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะทั้งที่ชมตามบ้านและชมตามสถานบันเทิงเริงรมย์ รวมทั้งตามสถานที่ต่างๆที่มีการติดตั้งจอถ่ายทอดสดขนาดใหญ่
ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญล่าสุดได้แก่การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2545 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานั้นตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่คึกคักอย่างที่คาดหวังไว้เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2541 ซึ่งในครั้งนั้นประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพทำให้เวลาการแข่งขันอยู่ในช่วงดึก ส่งผลทำให้ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งที่จำหน่ายผ่านร้านอาหาร สถานบันเทิงต่างๆ รวมไปถึงการซื้อกลับไปดื่มที่บ้านในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปกติที่ไม่มีการแข่งขันฟุตบอล
แต่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2545 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากการแข่งขันจัดขึ้นในทวีปเอเชียโดยมีประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม ส่งผลให้เวลาการแข่งขันฟุตบอลอยู่ในช่วงกลางวัน ดังนั้นผู้สนใจติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลโลกส่วนใหญ่จะชมการถ่ายทอดสดที่บ้านหรือที่ทำงานมากกว่าที่จะชมเทปบันทึกการแข่งขันตามร้านอาหารและสถานบันเทิงทำให้ยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในส่วนนี้ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก
อย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2545 ก็ยังได้รับอานิสงส์จากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ไม่ต้องการเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงทั้งค่าที่พักรวมทั้งค่าตั๋วชมฟุตบอลโลก และเลือกที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าแทน อีกทั้งยังได้ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านทางโทรทัศน์ในประเทศไทยทุกนัดโดยไม่มีการโฆษณาอีกด้วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จับตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงฟุตบอลโลกปี 2545 มีความคึกคักพอสมควร
แต่สำหรับในการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 ในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลทำให้ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-15 จากช่วงปกติ ทั้งนี้เนื่องจากช่วงเวลาการถ่ายทอดสดการแข่งขันค่อนข้างดึกคือคู่แรกเริ่มเวลา 23.00-01.00 น.และคู่ที่ 2 เริ่มเวลา 01.45-03.45 น. ซึ่งเวลาดังกล่าวสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะได้รับความนิยมใช้ดื่มสังสรรค์เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้จากการสำรวจของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ในเรื่อง “พฤติกรรมคนกรุงเทพฯในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2004” ระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน 2547 พบว่าอาหารและเครื่องดื่มที่นิยมรับประทานระหว่างชมการแข่งขันฟุตบอลอันดับหนึ่งได้แก่ ขนมขบเคี้ยวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.6 รองลงมาได้แก่ น้ำอัดลมมีสัดส่วนร้อยละ 25.3 และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีสัดส่วนร้อยละ 19.2 ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายรายสนใจที่จะจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 ในครั้งนี้อาทิ การโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าโดยอิงกระแสฟุตบอลโลก การจัดกิจกรรมร่วมกับสถานบันเทิงต่างๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระแสความสนใจของการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 จะมีค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากช่วงเวลาการแข่งขันอยู่ในช่วงดึกตั้งแต่ 23.00 น. เป็นต้นไปส่งผลให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำเป็นต้องปรับกิจกรรมการตลาดให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับช่องทางการจำหน่ายซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. ช่องทางการจำหน่าย ณ จุดขาย (ON PREMISE)
ซึ่งเป็นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามสถานบันเทิงและร้านอาหารต่างๆ เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 อยู่ในช่วงที่ดึกจึงนับเป็นอุปสรรคต่อช่องทางการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสถานบันเทิงและร้านอาหารพอสมควรเนื่องจากมีอุปสรรคหลายๆประการอาทิ นโยบายการจัดระเบียบสังคมโดยเฉพาะทางด้านสถานบริการ ด้วยการกำหนดอายุผู้เข้ามาใช้สถานบริการไม่ให้ต่ำกว่า 20 ปี การกำหนดให้สถานบริการปิดในเวลา 01.00-02.00 น. ตลอดจนมาตรการเมาไม่ขับด้วยการตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ที่ขับขี่ยวดยานพาหนะ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวนับเป็นอุปสรรคต่อผู้ใช้บริการสถานบันเทิงพอสมควร
ฉะนั้นผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงควรร่วมมือกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่างๆจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลอาทิ การเล่นเกมต่างๆ โดยมีการแจกแถมของรางวัลอาทิ สินค้าที่ระลึกฟุตบอลโลกหรือบัตรลดราคาค่าบริการ เป็นต้น ในขณะเดียวกันคาดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจะเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่เข้ามาใช้บริการร้านอาหารและสถานบันเทิงในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 ค่อนข้างมาก ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งผู้ประกอบการสถานบันเทิงและร้านอาหารต่างๆจึงควรต้องให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน
2.ช่องทางการค้าปลีก(OFF PREMISE)
จากการสำรวจของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เรื่อง “คนไทยกับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป” จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 1,269 ชุด ของประชากรตามภาคต่างๆทั่วประเทศระหว่างวันที่ 12-31 พฤษภาคม 2547 พบว่าส่วนใหญ่ผู้ที่สนใจการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปจะชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันอยู่ที่บ้านเป็นหลักถึงร้อยละ 49.6 อันมีเหตุผลมาจากการแข่งขันที่อยู่ในช่วงดึก ดังนั้นผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงควรเพิ่มความสำคัญกับช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกซึ่งหมายถึงตลาดที่ผู้บริโภคซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ต เพื่อนำไปดื่มที่บ้านเพิ่มขึ้นอาทิ การลดราคาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงมาหรือแจกของแถมเพื่อจูงใจให้ผู้ซื้อสนใจซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2004 ได้ช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากปกติปริมาณความต้องการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมของทุกปีมักจะซบเซากว่าช่วงอื่นๆเสมอเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นอุปสรรคต่อผู้บริโภคในการดื่มสังสรรค์กับเพื่อนทั้งที่บ้านหรือตามสถานบันเทิงต่างๆ ในขณะเดียวกัน ในช่วงฤดูฝนยังเป็นอุปสรรคต่อการจัดกิจกรรมการตลาดของผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งในส่วนของ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งหรือการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆรวมไปถึงกิจกรรมประเภทมิวสิกมาร์เก็ตติ้งหรือการสนับสนุนการทัวร์คอนเสิร์ตของนักร้องตามพื้นที่ต่างๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จากการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน –5 กรกฎาคม 2547 ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงนี้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 อยู่ในช่วงดึกตั้งแต่เวลา 23.00 น. เป็นต้นไป ดังนั้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงไม่ติดขัดกฎระเบียบของภาครัฐที่ห้ามโฆษณาสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในช่วงระหว่างเวลา 05.00-22.00 น. ฉะนั้นการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงการแข่งขันจึงทำได้สะดวก
กล่าวโดยสรุปแล้ว จะเห็นได้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 เป็นอย่างมากในฐานะที่เป็นสินค้าสำหรับผู้ดื่มที่ต้องการเพิ่มความสนุกสนานในการชมการแข่งขันฟุตบอล อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่าการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 นั้นมีข้อพึงระวังหลายประการ โดยเฉพาะปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและปัญหาทางด้านอุบัติเหตุ ทั้งนี้เพราะลำพังการติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันที่อยู่ในช่วงดึกซึ่งบางคู่ก็เสร็จสิ้นการแข่งขันประมาณ 03.00 ณ. นั้นก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ที่ไปเรียนหรือทำงานเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอก็ทำให้ประสิทธิภาพการเรียนและการทำงานลดลง
ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมในระหว่างการชมการแข่งขันด้วยแล้ว ประสิทธิภาพการควบคุมร่างกายจะลดลงเป็นทวีคูณและอาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่นอีกด้วย โดยเฉพาะหากผู้ที่ชมการแข่งขันเสร็จสิ้นแล้วต้องไปทำงานที่ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควรอาทิ ผู้ขับขี่รถยนต์ ผู้คุมเครื่องจักรในโรงงาน เป็นต้น
นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องระวังสำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างชมการแข่งขันฟุตบอลตามสถานบันเทิงต่างๆและต้องขับขี่รถยนต์กลับบ้านอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายอย่างเข้มงวดและอาจมีโทษรุนแรงหากแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินระดับที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น เพื่อลดหรือหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวให้บรรเทาลง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่าคนไทยควรติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร2004 แต่พอเหมาะพอควรเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินโดยคำนึงถึงปัจจัยทางด้านสุขภาพร่างกายรวมถึงหน้าที่การงานเป็นสำคัญ