ประเด็นตลาดวันนี้
ดัชนีตลาดหุ้น SET ในวันอังคารที่ 22 มิ.ย. ปิดตลาดลดลงมาเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เมื่อวันก่อน โดย อยู่ที่ 629.36 จุด ลดลงจากวันก่อน 0.67 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 โดยได้รับอิทธิพลจากแรงขายทำกำไรจากราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้นในวันก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มของหุ้นสื่อสาร ไฟแนนซ์ เคมีภัณฑ์ และแบงก์
– เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 108.48 เยน/ดอลลาร์ฯ และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เมื่อเทียบกับเงินยูโร และเงินบาท ที่ 1.208 ดอลลาร์ฯ/ยูโร และ ที่ 40.9 บาท/ดอลลาร์ฯ ตามลำดับ
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดในวันอังคาร ปิดตลาดลดลงไปจากวันก่อน 18.89 จุด หรือ ร้อยละ 0.16 มาอยู่ที่ระดับ 11,581.27 จุด จากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่เทขายเพื่อทำกำไรจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นอย่างมากเมื่อวันก่อน ประกอบกับยังไม่มีแรงจูงใจใหม่ๆให้เข้าซื้อ
– ตลาดหุ้นDow Jones ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากวันศุกร์ โดยปิดที่ 10,371.47 จุด ลดลง 44.94 จุด หรือร้อยละ 0.43 เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนก่อนการประชุมกำหนดนโบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการส่งมอบอำนาจในอิรักสิ้นเดือนนี้
– ผลการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย CB05623A 364 วัน วงเงินที่ประมูล 6,000 ล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 1.55242 Bid Coverage Ratio 1.68
– เอบีเอ็น แอมโร คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยรวม 1% ในครึ่งปีหลังนี้ ก่อนจะปรับขึ้น 4% ในปีหน้า โดยคาดว่าจะปรับขึ้นทีละน้อย เริ่มจาก 0.25% ในสิ้นเดือนนี้ ตามมาด้วย 0.25% ประมาณกลางเดือน ส.ค. และในไตรมาสสุดท้ายประมาณปลายเดือน พ.ย. อีก 0.5%
– กระทรวงการคลังเผยว่า ในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 8 เดือนแรกของปี รัฐบาลสามารถเก็บรายได้ได้รวม 815,120 ล้านบาท สูงกว่าที่คาดไว้ถึง 21.9% และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 20.3% อันเป็นผลมาจากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต และกรมสรรพากรที่เพิ่มขึ้น และการได้รับรายได้พิเศษจากการขายหุ้นในกองทุนวายุภักษ์ เป็นผลให้ในปีนี้จะสามารถจัดเก็บรายได้ได้มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1.06 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน
ภาวะตลาดหุ้น
Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวันก่อน โดยลดลงไป 0.67 จุด หรือร้อยละ 0.11 มาปิดที่ระดับ 629.36 จุด ทั้งนี้จากการขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ไฟแนนซ์ เคมีภัณฑ์ และแบงก์ นอกจากนั้นตลาดยังปรับลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ประกอบกับนักลงทุนยังคงกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ
Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงไป 18.89 จุดจากวันก่อน หรือร้อยละ 0.16 โดยมาปิดที่ระดับ 11,581.27 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางที่ 1.084 พันล้านหุ้น การที่ดัชนีได้ปรับลดลงไปเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ได้ขายหุ้นเพื่อทำกำไรจากการที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้ โดยมีแรงขายมากในกลุ่มของหุ้นเทคโนโลยี หุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ และหุ้นกลุ่มส่งออกอื่นๆ ทั้งนี้ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆที่จะเป็นแรงจูงใจในการซื้อขายในประเทศ โดยนักลงทุนได้ให้ความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ การส่งมอบอธิปไตยคืนแก่อิรัก และการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ทำให้การซื้อขายในช่วงนี้เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง
US ‘s Dow Jones *
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยลดลงไป 44.94 จุด หรือร้อยละ 0.43 ปิดที่ระดับ 10,371.47 จุด การซื้อขายเบาบางที่ 1.12 พันล้านหุ้น จากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่เกิดความลังเลที่จะเข้าซื้อขายหุ้นล็อตใหญ่ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีก 0.25% นอกจากนั้นการส่งมอบอำนาจคืนให้รัฐบาลชั่วคราวอิรักในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายในช่วงนี้
US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ในจันทร์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 12.35 จุด หรือร้อยละ 0.62 โดยปิดที่ระดับ 1,974.38 จุด โดยได้รับปัจจัยที่มากดดันตลาดเช่นเดียวกันกับหุ้นในตลาด Dow Jones คือ การชะลอการลงทุนก่อนหน้าการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน และการส่งมอบอำนาจคืนแก่รัฐบาลอิรัก ในสิ้นเดือนนี้
สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ ในขณะที่ค่าเงินอื่นๆในภูมิภาคส่วนใหญ่อ่อนตัวลงไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ โดยปัจจัยลบของค่าเงินในภูมิภาคยังคงได้แก่ การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
Yen/USD
เงินเยนอ่อนค่าลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้ หลังจากได้ขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในรอบสองเดือนที่ 108.23 เยน/ดอลลาร์ฯ เมื่อวานนี้ โดยในวันนี้ปัจจัยที่สร้างแรงกดดันแก่เงินเยนมาจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น และตลาดหุ้นที่ปรับลดลงไป อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลใหม่ๆออกมาในช่วงนี้ที่จะมากระตุ้นการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่า เงินเยนน่าจะได้แรงบวกจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ได้แก่ ดัชนีภาคบริการ ผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคเอกชน ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี และ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่จะรายงานในวันอังคารหน้า
USD/Euro
เงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้นักลงทุนได้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ในสิ้นเดือนนี้ แต่การที่ยังคงไม่แน่ใจในนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้น ทำให้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุน ส่งผลให้ค่าเงินปรับตัวในช่วงแคบๆ ในวันนี้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมันนีจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีคาดการณ์ทางเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. โดยคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มจาก 46.4 ในเดือน พ.ค. เป็น 47.95 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้มีแรงซื้อเงินยูโรเข้ามา
สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้
Thai Gov. Bond 1 Year / Thai Gov. Bond 5 Years / Thai Gov. Bond 10 Years / Thailand Bond Value (MB)
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 13,752.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 157.7% อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นค่อนข้างผันผวน โดยเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง –2 ถึง 5 bps. ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง –2 ถึง 2 bps.
Us Treasury Bond 10 Years
ราคาของ US Treasuries ปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆไปตามความคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะถูกปรับขึ้นไปในสิ้นเดือนนี้ โดยในวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่มากระตุ้นการซื้อขาย ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจไปที่ข่าวว่าอิหร่านได้ยึดเรือ ของอังกฤษ 3 ลำพร้อมกับจับกุมลูกเรือ 8 คน ซึ่งข่าวดังกล่าว ทำให้นักลงทุนตัดสินใจเพื่อความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยการซื้อพันธบัตร ทำให้ราคาพันธบัตรปรับสูงขึ้นในวันนี้