ตำนานคลาสสิกของทิสโซต์ (Tissot) ได้หวนคืนสู่สายตาอีกครั้งด้วยรุ่นพีอาร์เอส 516 (PRS 516) ซึ่งเป็นนาฬิกาสำหรับผู้หลงใหลการแข่งรถรถยนต์ในรูปแบบดั้งเดิม ความงดงามเก๋ไก๋ของนาฬิกาเรือนนี้ เปี่ยมด้วยบุคลิกเฉพาะตัวจากสีสันของของพื้นหน้าปัดจับเวลา โครโนกราฟสไตล์ย้อนยุค และที่โดดเด่นเหนืออื่นใดก็คือช่องเจาะทรงกลมบนสายนาฬิกา ซึ่งทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นที่นิยมในทันทีที่มีการเปิดตัวเป็นครังแรกเมื่อทศวรรษที่ 70 ชวนให้รำลึกถึงรูเจาะบนก้านพวงมาลัยของบรรดาสปอร์ตชั้นนำ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายยังคงใช้อยู่จวบจนปัจจุบัน รูปพวงมาลัยที่ปรากฏอยู่ด้านหลังตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมในการออกแบบ
ความแข็งแกร่งและโฉบเฉี่ยวอย่างยิ่ง คือ ตัวอักษรทั้ง 3 อัน เป็นที่มาของชื่อ “พีอาร์เอส 516” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากทิสโซต์ พีอาร์ 516 (PR 516) เรือนเวลาอันเป็นตำนานจากทศวรรษที่ 70 สร้างสรรค์ขึ้นเป็นนาฬิกาที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับผู้หลงใหลในรูปลักษณ์ย้อนอดีต ซึ่งแสดงหานาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟที่แตกต่างจากเรือนอื่นๆ อย่างเด่นชัด ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของช่องเจาะทรงกลมบนสายนาฬิกา ซึ่งเที่มาของแรงบันดาลใจในรุ่นแรกก็คือ รูเจาะบนก้านพวงมาลัยรถแข่ง และเป็นที่มาของแนวคิดโฆษณาชุด “มือบนพวงมาลัย” ซึ่งได้พิสูจน์ถึงความเป็นยอดในความคิดสร้างสรรค์ระดับนานาชาติมาแล้ว ด้วยการชนะรางวัล “เอ็คโก เดอ ลา แปรสส์ เอต์ เดอ ลา ปูบลิซิเต” ที่มอบโดยนิตยสารด้านการตลาดและธุรกิจของฝรั่งเศส และได้รับการยกย่องในออสเตรียว่าเป็น 1 ใน 8 สุดยอดแคมเปญโฆษณาจากทั้งหมด 167 ชิ้น
ปูนบันทึกของบริษัทระบุว่า ระหว่างปี 1962-1963 ซึ่งผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ แอล. เกิร์ทเนอร์ (L. Gurtner) ได้คัดเลือกดีไซน์นาฬิการูปทรงโค้งมนที่โอบรับข้อมือจำนวนหนึ่งออกมาจากพวกเรือนต้นแบบนั้น เขากลับต้องประสบปัญหาในการจับคู่สายโลหะที่เข้ากันได้เหมาะเจาะกับตัวเรือนที่มีรูปลักษณ์สุดสปอร์ตนี้ จนเมื่อเขาได้มีโอกาสไปเยือนโรงงานผลิตสายนาฬิกาในเขตเจนีวา เดส์โรแบร์ต (Geneva Desrobert) ความสนใจของเกิร์ทเนอร์พุ่งไปที่ใบมีดโลหะที่มีรูกลมเจาะอยู่ นั่นเป็นการจุดประกายความคิดในการออกแบบสายโลหะแบบเจาะรูให้แก่เขา และขณะเยือนบริษัท เอบอชส์ อิเล็คทรอนิก (Ebauches Electronic) เขาบังเอิญไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าวงพวกมาลัยรถแข่ง ซึ่งมีรูเจาะบนก้านสำหรับแขวนเครื่องรางนำโชคเข้า ก็เลยเอาแนวคิดนี้มาสานต่อโดยทำงานร่วมกับบริษัทโฆษณาในเมืองโลซานน์ ว่าจะเชื่อมโยงภาพในมโนคติไปสู่ตัว ผลิตภัณฑ์ได้อย่างไร (เพราะรูเจาะบนก้านพวงมาลัยและรูเจาะบนถุงมือนักแข่งล้วนแล้วแต่มีความเชื่อมโยงกับช่องเจาะบนนาฬิกา)
แคมเปญโฆษณานี้ช่วยเพิ่มพูนยอดขาย และส่งผลให้มีการผลิตนาฬิกาตั้งโต๊ะทิสโซต์ในรูปทรงของพวงมาลัยรุยนต์ขึ้น ตามมาด้วยการที่นักแข่งรถชาวอเมริกาใต้นาม เฮนรี แบรดลีย์ (Henry Braedley) สวม ทิสโซต์ พีอาร์เอส 516 ไว้บนข้อมือขณะขับรถแข่งยี่ห้อเฟอร์รารี ที่ประดับโลโก้ “ทิสโซต์ พีอาร์เอส 516” ในการแข่งขันเมื่อเดือนสิงหาคมปี 1968
วันนี้ในปี 2004 รูปลักษณ์ดั้งเดิมของนาฬิการุ่นนี้ได้หวนคืนมาอีกครั้ง ในกลไกการทำงานแบบควอตซ์โครโนกราฟ และรุ่นบอกเวลาปกติแบบ 3 เข็ม พร้อมวันและวันที่ ในกลไกอัตโนมัติที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัย ประดับด้วยสัญลักษณ์ตัว “T” ของทิสโซต์บนข้อสายแรกของสายโลหะที่มีเส้นสายลื่นไหลรับกับหน้าปัดทรงกลมในกรอบทรงถังเบียร์ (Tonneau) อันสง่างาม แกะสลักฝาหลังเป็นรูปพวงมาลัยรถยนต์ สำหรับรุ่นควอตช์โครโนกราฟตกแต่งพื้นหน้าปัดด้วยหน้าปัดย่อยทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีสันสะดุดตา (สีแดงกับสีเงินบนพื้นหน้าปัดสีดำ สีขาวบนพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้ม และสีดำกับสีแดงบนพื้นหน้าปัดสีเงิน) ซึ่งให้ความรู้สึกของความเป็นทศวรรษที่ 70 ได้เป็นอย่างดี โดยมีหน้าปัดย่อยแสดงค่าการจับเวลาแบบ 30 นาที และ 1/10 วินาที แยกการแสดงวินาทีมาไว้ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา และวันที่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกา ทั้งหมดถูกล้อมไว้ด้วยขอบตัวเรือนเคลือบสีดำ (Black PVD) ที่มีสเกลคำนวณระยะทาง “ทาคีมิเตอร์” (Tachymeter) และสเกลคำนวณชีพจร “พัลโซมิเตอร์” (Pulsometer) ซึ่งอ่านค่าได้อย่างชัดเจนด้วยคู่สีขาว-ดำ
สำหรับรุ่นกลไกอัตโนมัติที่แสดงเวลาแบบ 3 เข็มนั้น ขีดบอกเวลาเคลือบสารเรืองแสง “ซูเปอร์ลูมิโนวา” (SuperLumiNova) ลอยเด่นอยู่เหนือพื้นหน้าปัด เปิดโอกาสให้เข็มชี้สามารถเดินลอดไปเบื้องใต้แสดงวันและวันที่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ปิดท้ายความใส่ใจในรายละเอียดด้วยเหตุที่ว่านาฬิกาควรจะเป็นสิ่งที่งดงามจากทุกมุมมอง ฝาหลังของรุ่นกลไกอัตโนมัติจึงผนึกด้วยหน้าต่างกระจกใส แล้วปิดทับด้านบนด้วยแผ่นโลหะซึ่งตัดเป็นรูปพวงมาลัยรถแข่ง (พร้อมรูเจาะอันโดดเด่นของงานโฆษณาชิ้นดั้งเดิมอีกด้วย) เน้นให้เห็นถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบที่ได้มาจากโลกแห่งการแข่งขันรถยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ ตลาดที่ทิสโซต์ยืนหยัดอยู่ในปัจจุบัน
ทิสโซต์ ผู้สรรค์สร้างนวัตกรรมเครื่องบอกเวลาด้วยวิถีดั้งเดิม (Innovators by Tradition)
ทิสโซต์ ยืนหยัดมากว่า 150 ปี ด้วยนวัตกรรมและแบบแผนการผลิตนาฬิกาตามวิถีดั้งเดิมของสวิส จนเป็นผู้นำตลาดโลกในส่วนของนาฬิกาสวิสแบบดั้งเดิม ภารกิจของทิสโซต์คือการรับใช้สาธารณชนในวงกว้างด้วยเครื่องบอกเวลาคุณภาพสูงในราคาที่สามารถซื้อหาได้ ในฐานะผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันชิงแชมป์โลกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน มอเตอร์ไซค์ ฟันดาบ และฮ็อกกี้น้ำแข็ง ทิสโซต์ให้ความสำคัญกับคุณค่าทางการกีฬาที่ต่างก็ย่อมแสวงหาสมรรถนะและความเที่ยงตรงที่เป็นเลิศเพื่อผลักดันให้ตนเองทะยานถึงขีดสุด ทิสโซต์มีฐานการผลิตอยู่ในเมืองเลอโลคส์ (Le Locle) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก นับจากปี 1983 ทิสโซต์ได้เข้าเป็นบริษัทในเครือ สวอท์ช กรุ๊ป (Swatch Group) กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนาฬิการายใหญ่ที่สุดของโลก
คุณสมบัติ
– เครื่องสวิสควอตซ์หรือกลไกอัตโนมัติ
– กันน้ำลึก 50 เมตร / 165 ฟุต
– กระจกหน้าปัดคริสตัลแซพไฟร์กันรอยขีดข่วน
– ตัวเรือนสเตนเลส สตีล 316L
– สายสเตนเลส สตีล 316L พร้อมตัวพับล็อกแบบปุ่มกด
– สายหนังพร้อมตัวพับล็อก
กลไกควอตซ์โครโนกราฟ
ขนาดกลไก 13 1/4 ลิญจ์ (29.8 มิลลิเมตร) กลไก ETA รุ่น G10.211 แบบ 2 เข็มครึ่ง พร้อมวันที่หน้าปัดย่อยแสดงค่าการจับเวลารอบละ 30 นาที และ 1/10 วินาที จับเวลารอบละ 60 วินาทีด้วยเข็มกลางหน้าปัด แสดงวินาทีในหน้าปัดย่อยที่ตำแน่ง 6 นาฬิกา ฟังก์ชั่นสำหรับพักการจับเวลาชั่วคราวและจับเวลาต่อเนื่อง ประกอบทับทิมกันกระแทก 4 เม็ด แบตเตอรี่มีอายุใช้งาน 38 เดือน
กลไกอัตโนมัติสำหรับสุภาพบุรุษ
ขนาดกลไก 11 1/2 ลิญจ์ (25.6 มิลลิเมตร) กลไก ETA รุ่น 2836-2 แบบ 3 เข็ม พร้อมวันและวันที่ แสดงวินาทีด้วยเข็มกลางหน้าปัด ประกอบทับทิมกันกระแทก 25 เม็ด สำรองพลังงานได้นาน 42 ชั่วโมง
