อีสเทิร์นไวร์กลับเข้าเทรดในหมวดวัสดุก่อสร้างวันพรุ่งนี้ (1 กันยายน) เตรียมรุกตลาดอีกครั้ง

31 สิงหาคม 2547 – อีสเทิร์นไวร์ พร้อมกลับเข้าเทรดในหมวดวัสดุก่อสร้าง ในวันพรุ่งนี้ (1 กันยายน 2547) ยืนยันศักยภาพขององค์กรด้วยตัวเลขผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนของปีนี้ที่มียอดขายกว่า 356.88 ล้านบาท กำไรกว่า 116 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 8,000% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พร้อมเตรียมรุกตลาดอีกครั้งด้วยการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวัสดุก่อสร้างที่มีศักยภาพ เพื่อเสริมสร้างรายได้และการเติบโตอย่างมั่นคงขององค์กรในระยะยาว เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น

นายภิรมย์ ปริยวัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC ผู้ผลิตและจำหน่ายลวดเหล็กแรงดึงสูงที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง ลวดขอบล้อยางซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และลวดเชื่อมไฟฟ้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเชื่อมโลหะ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นและการบริหารงานใหม่ ทำให้การบริหารกิจการเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีคำสั่งอนุมัติให้ย้ายกลับเข้าสู่หมวดวัสดุก่อสร้างและปลดเครื่องหมาย “SP” ของบริษัทแล้วในวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมกับเตรียมกลับเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในหมวดวัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่ง ในวันพรุ่งนี้ (1 กันยายน 2547)

บริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนงานด้านการตลาดทุกผลิตภัณฑ์ในเครือโดยใช้ กลยุทธ์การตลาด ดังนี้คือ สินค้าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ของกระทรวงอุตสาหกรรม และผลิตตามมาตรฐานสากลทั่วไป อาทิเช่น มาตรฐาน ASTM, BS, AS จึงให้ความมั่นใจด้านคุณภาพได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าหลายชนิด และเป็นผู้ผลิตลวดขอบล้อยางเพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยมีประสบการณ์การผลิตมามากกว่า 10 ปี มีนโยบายการตั้งราคาใกล้เคียงกับคู่แข่ง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมของบริษัท และส่วนแบ่งตลาด

รวมทั้งมีบริการหลังการขาย โดยการติดตามและดูแลผลิตภัณฑ์ที่ได้จำหน่ายไปแล้ว พร้อมให้บริการด้านการสอบเทียบเครื่องมือวัดต่าง ๆ ตลอดจนการสอบถามปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้ความลูกค้าเกิดความพึงพอใจในคุณภาพของสินค้าและการบริการของบริษัทยิ่งขึ้น เพื่อให้การบริหารกิจการเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการดำเนินการกำกับ ดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ตลอดจนการเคารพในสิทธิความเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้นและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย อันจะช่วยส่งเสริมและเป็นรากฐานที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้มีการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน เพื่อความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มมูลค่าและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว

ทั้งนี้ ในอนาคตบริษัทมีนโยบายและแผนงานที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวัสดุก่อสร้าง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและครบวงจร ในขณะเดียวกันก็จะลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทอื่น ที่มีแนวโน้มในการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ และยังเป็นการทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ในการบริหารกิจการ บริษัทคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย

อนึ่ง บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC มีลักษณะเป็น Holding Company โดยมีบริษัทย่อยคือ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (RWI) ประกอบธุรกิจลวดเหล็กแรงดึงสูงชนิดเส้นเดี่ยว (PC-wire) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตเสาเข็ม เสาไฟฟ้า แผ่นพื้นสำเร็จรูป ลวดเหล็กแรงดึงสูงชนิดตีเกลียว (PC-Strand) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น คานสะพาน เสาเข็มขนาดใหญ่ ลวดขอบล้อยาง (Tyre Bead Wire) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และ ลวดเชื่อมไฟฟ้า (Welding Wire) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเชื่อมโลหะ

ทั้งนี้ บริษัท มีนโยบายและแผนงานที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวัสดุก่อสร้าง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและครบวงจร ในขณะเดียวกันก็จะลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทอื่นที่มีแนวโน้มในการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ และยังเป็นการทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ทั้งนี้ในการบริหารกิจการ บริษัทฯ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก

สำหรับการดำเนินแผนงานด้านการตลาดทุกผลิตภัณฑ์ในเครือโดยใช้ กลยุทธ์การตลาด ดังนี้คือ

1. สินค้าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 และ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ของกระทรวงอุตสาหกรรม และผลิตตามมาตรฐานสากลทั่วไป เช่น มาตรฐาน ASTM, BS, AS จึงให้ความมั่นใจด้านคุณภาพได้เป็นอย่างดี
2. หาช่องทางธุรกิจใหม่ ๆ
3. เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าหลายชนิด และเป็นผู้ผลิตลวดขอบล้อยางเพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยมีประสบการณ์การผลิตมามากกว่า 10 ปี
4. นโยบายการตั้งราคาใกล้เคียงกับคู่แข่ง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมของบริษัท และส่วนแบ่งตลาด
5. เน้นการบริการหลังการขาย โดยการติดตามและดูแลผลิตภัณฑ์ที่ได้จำหน่ายไปแล้ว พร้อมให้บริการด้านการสอบเทียบเครื่องมือวัดต่าง ๆ ตลอดจนการสอบถามปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้ความลูกค้าเกิดความพึงพอใจในคุณภาพของสินค้าและการบริการของบริษัทยิ่งขึ้น
6. เพิ่มกำลังการผลิต PC-Wire โดยลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนมาก โดยมียอดขายทั้งสิ้น 356.88 ล้านบาท จาก 269.16 ล้านบาทในปี 2546 คิดเป็นอัตราการเติบโตทั้งสิ้น 32.59% หากคิดเฉพาะในไตรมาส 2/2547 บริษัทมียอดขายทั้งสิ้น 187.83 ล้านบาท กำไรสุทธิในไตรมาส 2 ทั้งสิ้น 50 ล้านบาท ส่วนรอบ 6 เดือนกำไรทั้งสิ้น 116 ล้านบาท เติบโตกว่า 8,000% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ตลอดจนการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง ทำให้บริษัทได้รับผลดีจากการเติบโตดังกล่าว