นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยภายหลังนำคณะกรรมการ ธสน. เยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมี ฯพณฯ กฤต ไกรจิตติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ประสานงานและนำเข้าเยี่ยมพบผู้แทนรัฐบาลคณะต่างๆ ของเวียดนาม ได้แก่ Mr. Truong Dinh Tuyen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ Mr. Truong Van Doan รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน Mr. Le Duc Thuy ผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม และ Mr. Ngo Hoa รองประธานกรรมาธิการจังหวัดเว้ ว่าการเยือนเวียดนามของคณะกรรมการธนาคารในครั้งนี้เพื่อปูพื้นฐานการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ของ ธสน. ซึ่งกำหนดให้มีการจัดทำระบบฐานข้อมูลเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ในแนวลึกของประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อการค้าและการลงทุนโดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
โดยในปี 2548 ธสน. จะเน้นสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกกับเวียดนามเป็นประเทศแรก เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่และมีศักยภาพด้านการค้าและการลงทุนเป็นอย่างมาก ประกอบกับปัจจุบันมีการสร้างถนนทางหลวงหมายเลข 9 เชื่อมต่อสะพานมุกดาหารกับเขตสะหวันนะเขตของลาวและตัดออกทะเลที่เมืองดานังของเวียดนาม ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2548
ประธานกรรมการ ธสน. เปิดเผยต่อไปว่า ฝ่ายเวียดนามได้ขอให้ ธสน. มีบทบาทมากขึ้นในการสนับสนุนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทั้งด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรซึ่งจะช่วยให้เวียดนามส่งออกได้มากขึ้น รวมทั้งอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยวซึ่งเวียดนามมีศักยภาพสูง เพื่อลดปัญหาการขาดดุลการค้าของเวียดนามและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงโดยรวม ในฐานะที่ไทยเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามมากเป็นอันดับที่ 9 ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 1,408.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ปัจจุบันเวียดนามกำลังเร่งพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติและสร้างความเท่าเทียมกับธุรกิจในประเทศเวียดนาม รวมทั้งกระตุ้นภาคส่งออกของเวียดนาม ก่อนจะเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกในปีหน้า
นายปกรณ์ กล่าวว่า ธสน. ได้แจ้งฝ่ายเวียดนามว่า ธสน. เล็งเห็นถึงความสำคัญของเวียดนามและต้องการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ และสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนามให้รองรับการลงทุนของต่างชาติได้มากขึ้น และเชื่อว่านักลงทุนไทยมีความพร้อมที่จะแสวงหาโอกาสการลงทุนในเวียดนาม หากได้รับการส่งเสริมและความสะดวกจากกฎระเบียบทางธุรกิจของเวียดนาม ขณะเดียวกัน ธสน. ยินดีต้อนรับผู้แทนของธนาคารกลางเวียดนามในการศึกษาดูงานของ ธสน. เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดเห็นในการจัดตั้งธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของเวียดนามในอนาคต