กรุงเทพฯ –27 ตุลาคม 2547 – อีเอ็มซีปลื้มยอดจำหน่ายทั่วโลกไตรมาสที่ 3 ชี้ยอดขายทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์ ด้วยอัตราการเติบโต 34 % เผยนับเป็นปรากฏการณ์ที่มีรายได้เติบโตแบบปีต่อปีในอัตราเลขสองหลักเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน โดยรายได้จากฮาร์ดแวร์ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18% ขณะที่ซอฟต์แวร์โต 56 %
นายวินัย วารัญญานนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงรายได้รวมของอีเอ็มซีทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ว่าบริษัทมีรายได้ทั้งสิ้นอยู่ที่ 2,030 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 34 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดรายได้ 1,510 ล้านดอลลาร์ที่สามารถทำได้ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2546 ส่วนกำไรสุทธิของไตรมาสนี้อยู่ที่ 218 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.09 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 159 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.07 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2546
นายวินัยกล่าวว่า บริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและได้สมดุลอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ อีเอ็มซีมีรายได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของตลาด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการที่บริษัทมุ่งเน้นแนวทางการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงขีดความสามารถในการจัดการ และการจัดเก็บข้อมูล ทั้งยังเป็นการกำหนดทิศทางให้กับอุตสาหกรรมโดยรวม
รายได้หลักของอีเอ็มซี ซึ่งไม่รวมรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการด็อคคิวเมนตั้ม เลกาโต้ และวีเอ็มแวร์ เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปี 2546 นอกจากนั้น รายได้หลักของอีเอ็มซียังเติบโตในอัตราเลขสองหลักในตลาดสำคัญๆ
ด้าน มร. บิล เทอเบอร์ รองประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอีเอ็มซี กล่าวว่าขณะนี้บริษัทมีผลประกอบการตรงตามเป้าหมาย หรือสูงเกินเป้าหมายเป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน โดยในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานของเรายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตัวเลขงบดุลแข็งแกร่ง ปริมาณเงินสดและเงินลงทุนสูงเกิน 7 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัท ขณะที่ยังคงลงทุนในตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยได้ซื้อคืนหุ้นมูลค่า 108 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สาม “ผมรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากกับผลตอบแทนที่เราได้รับจากการลงทุนในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมและการขยายตลาดให้เข้าถึงลูกค้าอย่างทั่วถึง ซึ่งช่วยให้เราสามารถเจาะเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว” รองประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าว
เหตุการณ์สำคัญในไตรมาสที่สาม
รายได้จากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของอีเอ็มซีเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากลูกค้าระดับองค์กรทุกขนาดหันมาใช้แพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลหลากหลายประเภทของอีเอ็มซี “เราได้รับผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมจากการดำเนินนโยบายด้านการพัฒนาระบบฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ราคาประหยัดสำหรับตลาดระดับกลาง ลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงฐานลูกค้าในกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เริ่มดำเนินการติดตั้งโซลูชั่นเหล่านี้บนระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้รองรับการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่สาม ผลิตภัณฑ์ในตระกูล CLARiiON, Centera และผลิตภัณฑ์ NAS (network attached storage) มีการขยายตัวโดยรวมกว่า 50 เปอร์เซ็นต์” ผู้จัดการประจำประเทศไทยกล่าว
รายได้จากไลเซนส์ซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซีเพิ่มขึ้น 56 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเป็นผลมาจากการเข้าซื้อกิจการของด็อคคิวเมนตั้ม, เลกาโต้ และวีเอ็มแวร์ นอกจากนั้นยังเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักจากยอดขายซอฟต์แวร์สตอเรจหลักๆ ของอีเอ็มซี
กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซี ซึ่งเพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมีหน้าที่จัดจำหน่ายและพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการจัดเก็บ และการจัดการข้อมูลที่สามารถใช้กับหลายๆ แพลตฟอร์ม มีรายได้รวม 351 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สาม โดยเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าทั่วโลกได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซีเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความคล่องตัวให้กับระบบไอทีที่ซับซ้อน และรองรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนงานหลักๆ ของกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซี รวมถึงซอฟต์แวร์แบบมัลติ-แพลตฟอร์มของอีเอ็มซี ด็อคคิวเมนตั้ม และเลกาโต้ ล้วนแล้วแต่มีรายได้เพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน วีเอ็มแวร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอีเอ็มซี มีรายได้ 61 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สาม ซึ่งนับเป็นรายได้รายไตรมาสที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 200 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว การเปิดตัวโซลูชั่น VMware ACE ในช่วงไตรมาสที่สาม นับเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ รวมถึงความสามารถในการสรรค์สร้างนวัตกรรมที่เหนือกว่า โดยวีเอ็มแวร์มุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องความสามารถ ความยืดหยุ่น และความปลอดภัย ด้วยการจัดหาโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับเซิร์ฟเวอร์ เดสก์ทอป พร้อมทั้งนำเสนอการทดสอบและการพัฒนาที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเปลี่ยนย้ายสู่รูปแบบการประมวลผลรุ่นอนาคต
กลุ่มธุรกิจบริการของอีเอ็มซีมีรายได้เพิ่มขึ้น 48 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเข้าซื้อกิจการบริษัทซอฟต์แวร์ รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ และความต้องการที่ต่อเนื่องของลูกค้าสำหรับโซลูชั่นการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล (Information Lifecycle Management)
การคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจ
• คาดว่ารายได้รวมสำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2547 จะอยู่ระหว่าง 2,230 ถึง 2,270 ล้านดอลลาร์
• กำไรต่อหุ้นสำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2547 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.11 ถึง 0.12 ดอลลาร์
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี เป็นผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการบริหารระบบเครือข่ายข้อมูลเพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกสามารถดึง และปรับใช้ข้อมูล
ต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละส่วนของวงจรข้อมูลนั้นๆ ได้ในระดับสูงสุดโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com
