สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นประธานเปิดงาน “Bonjour French Fair 2004 Bonjour Alsace” ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 17.00 น. ซึ่งจัดโดยโซเป็กซ่า ประเทศไทย องค์กรส่งเสริม สินค้าเกษตรกรรม อาหาร และเครื่องดื่มจากประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับสถานทูตฝรั่งเศส ฝ่ายการพาณิชย์ หอการค้า ฝรั่งเศส-ไทย สำนักงานเพื่อการพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศแห่งประเทศฝรั่งเศส และ บริษัทเอ็กโปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด
มร.โลรอง โอแบล็ง เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงการจัดงาน “Bonjour French Fair 2004 Bonjour Alsace” ว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองอีกปีหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศสโดยได้ มีการฉลองความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศคืองาน “La F?te” ซึ่งได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวัน “Bastille Day” หรือวันชาติฝรั่งเศสและงาน “Bonjour French Fair 2004” จะเป็นอีกงานหนึ่งที่สร้าง เสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ
ปัจจุบันการลงทุนจากประเทศฝรั่งเศสในประเทศไทย นับเป็นลำดับ 7 ของนักลงทุนจากประเทศทั้งหมดและอยู่ในลำดับ 2 รองจากอังกฤษในกลุ่มนักลงทุนจากยุโรป มูลค่าการค้าขายสินค้า ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศสในปี 2546 มีมูลค่ารวมประมาณหนึ่งแสนล้านบาท หรือประมาณ 2 พันล้านยูโร ประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกสินค้าอันดับที่ 34 ที่ส่งสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศฝรั่งเศส ด้วยมูลค่าการส่งออกรวม ประมาณ 1300 ล้านยูโร ในขณะที่มูลค่าการส่งออกจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทยมีเพียง 700 ล้านยูโร ซึ่งประเทศ ไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 49 ของบรรดาประเทศที่ซื้อสินค้าจากประเทศฝรั่งเศส สำหรับในเขตเอเชีย ประเทศไทยถือเป็น ประเทศคู่ค้าอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย
สำหรับประเทศไทยนั้น ประเทศฝรั่งเศสถือเป็น ประเทศผู้ซื้ออันดับที่ 18 ของสินค้าไทย ซึ่งนับเป็นอันดับที่ 6 จากกลุ่มประเทศยุโรปด้วยกัน การส่งออกสินค้าอาหารของ ไทยไปประเทศฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นถึง 16% ในปี 2546 ด้วยมูลค้าทางการค้าถึง 236 ล้านยูโร สินค้าที่มีการส่งออกไปประเทศ ฝรั่งเศสเพิ่มมากขึ้นคือ ข้าว และอาหารแช่แข็ง
นางศิวาพร เกิดกล่ำ ผู้อำนวยการโซเป็กซ่า ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจัดงานในครั้งนี้ เปิดเผยว่า เราได้เล็ง เห็นความต้องการและความนิยมในสินค้าบริโภคฝรั่งเศสของตลาดในเมืองไทยที่ได้เพิ่มปริมาณขึ้นมาจากอดีตอย่าง รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าประเภทไวน์ แอปเปิ้ล เนยแข็ง และอาหารอื่นๆ โซเป็กซ่า จึงได้ประสานงานอย่าง ใกล้ชิดกับบริษัทผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายและเพิ่มส่วนแบ่งการ ตลาดให้กับสินค้าเหล่านี้ในประเทศไทย
โซเป็กซ่า จึงได้จัดงาน French Fair ขึ้นตั้งแต่ปี 1992 ในปีนี้เป็นปีที่ 13 แล้ว ทั้งนี้ สถานที่จัดงานทุกปีคือ ที่เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ โดยใช้พื้นที่ประมาณ 300 ตรม. และบริษัทที่เข้าร่วมออกบู๊ทจะมีประมาณ 20-25 บริษัท ซึ่งเป็นเฉพาะบริษัทที่นำเข้าอาหาร และเครื่องดื่มจากประเทศฝรั่งเศสและในปี 2003 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการ ฉลองมิติใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศสสืบเนื่องมาจากที่ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี ดร. ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางไปเยือนประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 12-13 พฤษภาคม ปีที่แล้ว ทางโซเป็กซ่าจึงได้ร่วมมือกับ สถานทูตฝรั่งเศสฝ่ายการพาณิชย์ และหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย ในการจัดงาน Bonjour French Fair ขึ้น โดยได้ย้ายมาจัดที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นคือ 1,500 ตรม.
จากความสำเร็จของงาน Bonjour French Fair 2003 ที่ผ่านมา ทางโซเป็กซ่าจึงได้ตกลงกับสถานทูตฝรั่งเศส, UBIFrance และหอการค้าฝรั่งเศสไทย ที่จะจับมือกันจัดงาน Bonjour French Fair ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้งาน Bonjour French Fair จะมีขึ้นในวันที่ 4-7 พฤศจิกายน ที่ห้อง บอลล์รูม ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สโลแกนของงาน Bonjour French Fair คือ The real taste of France หรือสัมผัสรสชาติฝรั่งเศสที่แท้จริง ซึ่งในปีนี้ก็เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา งาน Bonjour French Fair 2004 นี้จะเป็นงานที่รวบรวมสินค้าเกษตรกรรม อาหาร และเครื่องดื่ม รวมทั้งสินค้าอุปโภคอื่นๆ จากประเทศฝรั่งเศสมาจำหน่ายในงาน เช่น เสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, เครื่องหนัง, เครื่องครัว, ของตกแต่ง, โรงแรม, ร้านอาหาร, บริษัททัวร์, สายการบิน, การศึกษาต่อประเทศฝรั่งเศส และอื่นๆ ทั้งที่นำเข้า จากประเทศฝรั่งเศสโดยตรงและผลิตภายใต้ลิขสิทธิ์ในประเทศไทย
จุดเด่นของงานในปีนี้ จะอยู่ภายใต้ Theme ที่ว่า Bonjour French Fair, Bonjour Alsace โดยเราจะนำ บรรยากาศของแคว้น Alsace เมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสมาไว้ในงาน Bonjour French Fair ปีนี้ แคว้น Alsace เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ขาว Alsace และมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีวัฒนธรรมและ ความเป็นอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ มีอาหารที่ขึ้นชื่ออย่างเช่น Chou Croute ทั้งนี้ เราวางแผนว่า เราจะนำบรรยากาศของ แคว้นต่างๆ ในประเทศฝรั่งเศสมานำเสนอไว้ในงาน Bonjour French Fair ของทุกๆ ปี เริ่มตามตัวอักษร โดยปีนี้คือ แคว้น Alsace และปีหน้าก็จะเป็นแคว้น Bordeaux และปีถัดไปเป็นแคว้น Burgundy เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิด โอกาสให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับแคว้นต่างๆ ของประเทศฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิดโดยไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินไป ประเทศฝรั่งเศส
เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีแคว้นใหญ่ๆ แบ่งได้เป็น 10 แคว้นด้วยกัน และจุดเด่น คือ แต่ละ แคว้นจะมีเอกลักษณ์ของตนเองไม่ว่าจะเป็นไวน์, อาหาร, สถาปัตยกรรม, การแต่งกายพื้นเมืองและสินค้าพื้นเมือง เป็นต้น งาน Bonjour French Fair ปี 2003 ที่ผ่านมา ได้จัดขึ้น 3 วันคือระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน มีบริษัทเข้าร่วมออกบู๊ท จำนวน 53 บริษัท รวมทั้งสิ้น 73 บู๊ท ภายใน 3 วันนี้เป็นงานที่เปิดให้ผู้บริโภคทั่วไปได้เข้าชมฟรีและซื้อสินค้าในงาน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ทั้งนี้ สรุปจำนวนผู้เข้าชมงานทั้ง 3 วัน มีทั้งสิ้นกว่า 40,000 คน โดยมียอดขายภายใน งานจากทั้ง 53 บริษัท จำนวนกว่า 15 ล้านบาท
สำหรับงาน Bonjour French Fair ในปีนี้ทางคณะ ผู้จัดงานจะได้ เพิ่ม วันจัดงานขึ้นเป็น 4 วันคือ ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน โดยในวันแรกของงานจะเปิดให้เป็นวันธุรกิจ โดยจะเปิดโอกาสให้ บริษัทผู้ส่งออกชาวฝรั่งเศสได้นำสินค้าใหม่ๆ มาเผยแพร่ให้กับบริษัทผู้นำเข้าไทย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้กับ 2 ฝ่าย เพื่อการพัฒนาเครือข่ายของการส่งออกให้กับผู้ส่งออกฝรั่งเศส และเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้กับผู้นำเข้าใน ประเทศไทย
งาน Bonjour French Fair จะเป็นงานที่เปิดโอกาสให้บริษัทนำเข้าและตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค ของประเทศฝรั่งเศสในประเทศไทยมีโอกาสที่จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าของตนให้เป็นที่แพร่หลายให้กับผู้บริโภคชาวไทย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าเหล่านั้นด้วย ทั้งนี้ ในทางกลับกันงาน Bonjour French Fair ก็จะเป็น งานที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีโอกาสซื้อสินค้านำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสในราคาที่พิเศษสุด เนื่องจากได้ซื้อจากผู้นำเข้าโดยตรง และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายและคืนกำไรให้กับผู้บริโภค ทางผู้จัดงานยังจะได้จัด ให้มีของขวัญและของสมนาคุณอีกมากมาย
สุกัญญา เอื้อชูชัย ผู้อำนวยการบริหารหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย ซึ่งได้รับมอบหมายในการประสานการจัดงาน “Bonjour French Fair 2004 Bonjour Alsace” กล่าวว่า เนื่องจากทางหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย มีบทบาทในการเป็น ตัวกลางประสานงานด้านการค้าการลงทุนและช่วยจับคู่ทางธุรกิจ กล่าวคือ เมื่อมีบริษัทในฝรั่งเศสที่สนใจหาผู้ผลิต ผู้จัด จำหน่าย หรือตัวแทนขายในประเทศไทย และติดต่อผ่านมาทางหอการค้าฯ ทางเราจะช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและ บริษัทในประเทศไทยที่ตรงกับความต้องการ ตลอดจนจัดนัดหมายประสานการติดต่อเพื่อให้เกิดการตกลงทางธุรกิจ ในทางกลับกัน หากบริษัทในประเทศไทยสนใจจะติดต่อกับบริษัทในฝรั่งเศส ทางหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย ก็จะประสานงาน ผ่านเครือข่ายหอการค้าในประเทศฝรั่งเศส ช่วยในการหาข้อมูลและประสานการติดต่อให้
ดังนั้น ในโอกาสนี้ จึงได้ร่วม กับฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย จัดให้มีโปรแกรม Matchmaking ภายในงาน โดยได้ ประชาสัมพันธ์ไปยังบริษัทในประเทศฝรั่งเศสเพื่อเชิญชวนให้เข้ามาร่วมงานนี้ด้วย ซึ่งถ้าท่านสนใจสินค้าบริการใหม่ๆ ก็ สามารถติดต่อเจรจากันได้ภายในงาน โดยอาจจะทำนัดหมายในระหว่างงานหรือก่อนหรือหลังงาน ตามความสะดวกของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ยังจะจัดให้มีงานสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ ทั้งผู้มาร่วมออกงานและผู้เข้าชมงาน เช่น การนำเข้าสินค้าฝรั่งเศส การส่งออกสินค้าไปยังฝรั่งเศส ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะ เชิญเจ้าหน้าที่จากทางหอการค้าจากฝ่ายเศรษฐกิจ สถานทูตฝรั่งเศส และเจ้าหน้าที่จากทางภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล อาทิ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมศุลกากร องค์การอาหารและยา ฯลฯ ซึ่งเชื่อว่ากิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้งาน “Bonjour French Fair 2004 Bonjour Alsace” ในครั้งนี้สมบูรณ์ครบวงจรและเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งผู้ประกอบการที่จะได้พบกับสินค้าและบริการใหม่ ๆ อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับงานเพิ่มเติมได้ที่
โซเป็กซ่า ประเทศไทย
โทร. 02-6361422-4
หรือที่ คุณภูษิต ศศิธรานนท์ คุณธีรดา บุญพจนสุนทร
บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด
โทร.02-6408013
แฟกซ์ 02-6642076
Email: [email protected]
Sopexa speech
โซเป็กซ่า ประเทศไทย องค์กรสินค้าเกษตรกรรมอาหารและเครื่องดื่มจากประเทศฝรั่งเศภายใต้กระทรวง เกษตรแห่งรัฐบาลฝรั่งเศส เป็นองค์กรซึ่งไม่ได้หวังผลกำไร (Non profit organization) ก่อตั้งขึ้นโดยกระทรวง เกษตรแห่งรัฐบาลฝรั่งเศส องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเกษตร
โซเป็กซ่า ประเทศไทย เป็นสาขาหนึ่งใน 39 สาขาของโซเป็กซ่า ที่ตั้งขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ ทวีปยุโรป, อเมริกา, แคนาดา, ตะวันออกกลาง, ญี่ปุ่น, และภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
จุดมุ่งหมายสำคัญของ SOPEXA คือ
1. ส่งเสริมสินค้าด้านอาหารและเครื่องดื่มจากฝรั่งเศสให้เป็นที่แพร่หลาย
2. เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้แก่ผู้นำเข้าในต่างประเทศ
3. พัฒนาเครือข่ายเพื่อการส่งออกสู่ทั่วโลก
โซเป็กซ่า ประเทศไทย เปิดดำเนินการตั้งแต่ ปีค.ศ. 1992 โดยเราได้เล็งเห็นว่าความต้องการและ ความนิยมในสินค้าฝรั่งเศสของตลาดในเมืองไทยนั้นได้เพิ่มปริมาณขึ้นมาจากอดีตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ไวน์ แอปเปิ้ล และเนยแข็ง และสินค้าบริโภคอื่นๆ โซเป็กซ่า จึงได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริม การขาย และเสริมสร้างความนิยมในสินค้าเหล่านี้ในประเทศไทย