ทิศทางเงินดอลลาร์สหรัฐฯเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบมากเฉลี่ยราว 1.30-1.29 ดอลลาร์/ยูโร และ 103-104 เยน/ดอลลาร์ เป็นผลจากตลาดเงินจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการประชุมของธนาคารกลางยุโรปเกี่ยวกับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย ในขณะเดียวกัน นักลงทุนชะลอการซื้อขายเงินสกุลต่างๆไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป เนื่องจากต้องการรอดูผลการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ส่วนเงินเยนญี่ปุ่น ได้รับแรงกดดันจากการคาดคะเนว่าที่ประชุม G7 อาจไม่บีบบังคับให้สกุลเงินหยวนมีค่ายืดหยุ่นทันที เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ทำให้เงินเยนญี่ปุ่นและเงินเอเชียอื่นๆมีค่าเคลื่อนไหวในระดับต่ำ สำหรับเงินปอนด์อังกฤษ มีค่ามั่นคงอยู่ที่อัตราเฉลี่ยราว 1.88 ดอลลาร์/ปอนด์ เนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจบางรายการของอังกฤษชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยอังกฤษน่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีก ทางด้านตลาดทองคำต่างประเทศ มีแรงเทขายเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่การเลือกตั้งในอิรักเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทำให้มีการเทขายทองคำเพื่อเอากำไร
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับแรงสนับสนุนในช่วงแรกของสัปดาห์ มาจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯสดใส ได้แก่ รายได้ส่วนบุคคลเดือนธันวาคมเพิ่ม 3.7% โดยได้รับอานิสงส์จากเงินปันผลของบริษัท Microsoft ที่จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นบริษัท ขณะเดียวกัน ดัชนีวัดกิจกรรมทางธุรกิจเดือนมกราคมก็ขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อน บ่งชี้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯยังดำเนินไปอย่างเข้มแข็ง และหนุนให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไป ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลที่ว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศอาจไหลเข้าสหรัฐฯลดน้อยลง จนเป็นอันตรายต่อยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศ
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้รับข่าวดีจากการเลือกตั้งทั่วไปในอิรัก เมื่อวันที่ 30 มกราคม เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงจนเกินไป นับเป็นการเลือกตั้งที่มีชาวอิรักออกมาใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก ทำให้สหรัฐฯซึ่งเป็นประเทศที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก พลอยมีภาพลักษณ์ที่ดีตามไปด้วย และส่งผลให้เงินดอลลาร์น่าลงทุน
ในขณะเดียวกัน เงินเยนญี่ปุ่น กลับมีค่าอ่อนแรงลง หลังจากที่ได้ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี ในช่วงกลางเดือนมกราคม เพราะตลาดเงินเก็งว่าจีนอาจปรับค่าเงินหยวนยืดหยุ่น แต่ปรากฏว่าเมื่อใกล้วันประชุม G7 กระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับเพิ่มค่าเงินหยวนได้ลดน้อยลง ทำให้เงินเยนและเงินเอเชียอื่นๆ คลายความร้อนแรงลง เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลาดเงินให้ความสำคัญกับเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทำให้ตลาดไม่สนใจเกี่ยวกับดัชนีวัดภาคอุตสาหกรรมการผลิตกลุ่มยูโรเดือนมกราคมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในที่สุด ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 6 อีก 0.25% เป็นอัตรา 2.50% ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามความคาดหมายของตลาดเงิน และยังคงมีแนวโน้มว่าสหรัฐฯอาจพิจารณาใช้นโยบายการเงินเข้มงวดอย่างค่อยเป็นค่อยไป สถานการณ์ดังกล่าวนับเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนหันมาถือสกุลเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนดีกว่าสกุลอื่นๆ โดยเฉพาะสกุลเงินยูโร ที่ธนาคารกลางยุโรปได้มีมติให้รักษาระดับอัตราดอกเบี้ยไว้คงเดิม ณ อัตรา 2.0% เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์
เงินปอนด์อังกฤษ ซื้อขายอยู่ในช่วงแคบมาก โดยได้รับผลดีและผลเสียจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่คละกันไป ทำให้ค่าเงินปอนด์อยู่ที่อัตราเฉลี่ยราว 1.88 ดอลลาร์/ปอนด์ แต่อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์ยังคงมีแนวโน้มสดใส เพราะรัฐบาลอังกฤษได้ออกพันธบัตรทำให้มีปริมาณความต้องการเงินปอนด์เพิ่มขึ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจด้านที่อยู่อาศัยเข้มแข็ง ทำให้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยอังกฤษน่าจะมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีก ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.75%
ตลาดทองคำต่างประเทศ ราคาทองคำโน้มต่ำลงเป็นลำดับ เนื่องจากมีแรงเทขายทองคำเพื่อเอากำไร หลังจากก่อนหน้านี้ ราคาทองคำอยู่ในระดับสูงมาก เพราะตลาดเก็งว่าอาจมีเหตุวุ่นวายในอิรัก แต่เมื่อการเลือกตั้งในอิรักเสร็จสิ้นลงอย่างเรียบร้อย จึงมีการเทขายทองคำออกมาในภายหลัง ส่วนปัจจัยอื่นๆที่กดดันราคาทองคำ ได้แก่ ความเข้มแข็งของค่าเงินดอลลาร์ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และรายงานข่าวที่ว่าธนาคารกลางประเทศต่างๆรวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศอาจนำทองคำสำรองออกขาย เพื่อระดมเงินช่วยเหลือประเทศยากจน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 31 มกราคม 2548 เทียบกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.3041 ดอลลาร์/ยูโร (1.2976 ดอลลาร์/ยูโร) 103.69 เยน (104.49 เยน) และ 1.8839 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8825 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 เท่ากับ 421.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 417.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548