นิวพอร์ท เน็ทเวิร์คส เปิดตัวโซลูชั่น Carrier-class ซอฟท์แวร์ รีลีส 2.0 หวังปรับปรุงอุปกรณ์ Session Border Controller ให้ดีขึ้น

ฟริสโก้, เท็กซัส–(บิสิเนส ไวร์)–1 มิ.ย. 2548 – นิวพอร์ท เน็ทเวิร์คส เปิดตัวซอฟต์แวร์ รีลีส 2.0 สำหรับอุปกรณ์ 1460 Session Border Controller โดยมีการเพิ่มความสามารถในด้านความเสถียรของระบบที่ครอบคลุมพื่นที่ขนาดใหญ่ การเชื่อมต่อสื่อนำข้อมูล (802.3-2002) นอกจากนี้ยังการปรับปรุงความเสถียรในการส่งข้อมูล (Carrier-class reliability) และ การใช้ประโยชน์แบนด์วิธ

เทอร์รี แมททิวส์ ประธานบริษัทนิวพอร์ท เน็ทเวิร์คส กล่าวว่า “มีการใช้งาน VoIP อย่างแพร่หลาย โดยผู้ใช้บริการต้องการ VoIP ที่มีคุณภาพสูงและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และในขณะเดียวกันผู้ให้บริการก็กำลังมองหาอุปกรณ์ Session Border Controller ที่ช่วยสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานด้าน PSTN-caliber ได้”

“อุปกรณ์ Session Border Controller ถูกออกแบบมาให้เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้การส่งข้อมูลที่มีความเสถียรสูงตั้งแต่เริ่มต้น นิวพอร์ทดำเนินการปรับปรุงซอฟท์แวร์เพื่อยกระดับมาตรฐานในตลาด VoIP ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างเหมาะสมและลงตัว” นายแมททิวส์กล่าว

คุณสมบัติใหม่ในซอฟท์แวร์ รีลีส 2.0

อุปกรณ์ Session Border Controller รุ่นแรกสามารถแก้ปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัยได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยให้สามารถเรียกใช้บริการเสียงและมัลติมีเดียจากจุดที่อยู่หลังไฟร์วอลล์ (Firewall) หรืออุปกรณ์แปลงแอดเดรสเครือข่าย (Network Address Translation:NAT)ได้ แต่ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีสถาปัตยกรรมภายในที่สามารถตอบสนองความต้องการในด้านประสิทธิภาพการทำงาน ความยืดหยุ่น และความเสถียรของ VoIP โดย Session Border Controller ของ นิวพอร์ท เน็ทเวิร์คส จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับแพลตฟอร์มที่ใช้การส่งข้อมูลที่มีความเสถียร

ซอฟท์แวร์ รีลีส 2.0 มีฟีเจอร์ใหม่ ดังนี้

ความเสถียรในการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่: ซอฟท์แวร์ รีลีส 2.0 นี้จะช่วยให้ 1460 Session Border Controller เป็นอุปกรณ์แรกที่มีความเสถียรในการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยสามารถป้องกันการล่มของระบบทั้งในระดับเครือข่ายโดยรวมและระดับโหนดของเครือข่าย โดยอุปกรณ์ Session Border Controller ทั้งสองเครื่องที่อยู่ต่างพื้นที่จะจำลองการส่งข้อมูลจากอีกเครื่องโดยอัตโนมัติในกรณีที่อุปกรณ์อีกเครื่อง อุปกรณ์เราเตอร์ในเครือข่ายไม่สามารถทำงานได้ หรือเกิดความขัดข้องของกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้จะมีการสลับเปลียนทิศทางในการส่งข้อมูลเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการ และสนับสนุนการกู้คืนระบบโดยอาศัย PSTN

การเชื่อมต่อสายสัญญาณเพื่อการมีความเสถียรที่เพิ่มมากขึ้น: 1460 Session Border Controller คืออุปกรณ์แรกที่มีสถาปัตยกรรมที่สนับสนุนการเชื่อมต่อสื่อนำข้อมูล (802.3-2002) ซึ่งถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์เราเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างจุดเชื่อมต่อทั้ง 8 จุดของเครื่องเราเตอร์ได้ และส่งผลให้สามารถรับส่งข้อมูลได้แม้ในกรณีที่สื่อนำข้อมูลใดๆ ไม่สามารถใช้ส่งข้อมูลได้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความเสถียรในการให้บริการ

การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: 1460 Session Border Controller จะทำงานตามมาตรฐานบังคับ CALEA และ Emergency 911 ซึ่งจะช่วยให้สามารถตรวจตราความถูกต้องในการับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ โดยเชื่อมต่อกับสื่อนำข้อมูลขององค์กรที่บังคับใช้กฏหมายโดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือดำเนินการตรวจสอบในรายละเอียดต่างๆ โดยการดำเนินการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานแต่อย่างใด

การสนับสนุน VLAN เพื่อการให้บริการชั้นเลิศ: สถาปัตยกรรมภายในของ 1460 Session Border Controller ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถสร้าง SIP-based Virtual LANs (VLANs) ระหว่างเครือข่ายหลักของผู้ให้บริการกับเครือข่ายของผู้ใช้บริการได้ ซึ่งช่วยให้สามารถดูแลความคับคั่งของการส่งข้อมูลได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถรับประกันประสิทธิภาพและการใช้ประโยขน์จากแบรนด์วิทได้ การสนับสนุน VLAN ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้กับแกนเครือข่ายย่อยเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากส่วนเชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมดูแลได้จากระดับ VLAN เพื่อกำหนดความสอดคล้องในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์

ประโยชน์ที่ได้รับจากการตรวจตราการรับส่งข้อมูล: ซอฟท์แวร์ รีลีส 2.0 มีการเพิ่มเติมความสามารถในการควบคุมการรับส่งข้อมูลเพื่อกำหนดแบนด์วิธให้แก่ผู้ใช้บริการแต่ละราย โดยการตรวจตราสื่อการส่งข้อมูลนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมการใช้แบรนด์วิทได้ อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมี่การออกแบบและดำเนินการตามข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement: SLA) โดยการตรวจตราการรับส่งข้อมูลจะช่วยลดการโจมตีระบบหลักแบบ Denial of Service ได้

การควบคุมการเชื่อมต่อ (SAC): อำนวยความสะดวกในการกำหนดขนาดการใช้แบนด์วิธและประเภทการเชื่อมต่อ (session) เช่น เสียง การส่งข้อความแบบ Instant messaging และวิดีโอ สำหรับกลุ่มบริษัทหรือผู้ใช้งานแต่ละคน นอกจากนี้ยังสามารถกำหนด Anti-tromboning หรือ การคืนสื่อนำสัญญาณหลังจากการใช้งานเสร็จสมบูรณ์ในกลุ่มผู้ใช้งานที่ใช้กลุ่ม IP address หลักของบริษัท ซึ่งช่วยให้สามารถเรียกใช้บริการ VoIP ภายในบนเครือข่ายของบริษัทได้ โดยอาศัยเพียงการข้อมูลไปยังอุปกรณ์ Session Border Controller ซึ่งเป็นการลดความหนาแน่นในการส่งข้อมูลออกไปยังเครือข่ายภายนอกได้

นิวพอร์ท เน็ทเวิร์คจะวางจำหน่ายซอฟท์แวร์ 1460 session border controller Release 2.0 ในตลาดอเมริกาเหนือและประเทศอื่นๆ ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่ร่วมงานซูเปอร์คอม (SuperComm) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิวพอร์ท เน็ทเวิร์คส ซึ่งจะประจำอยู่ที่บูธหมายเลข 19042 หรือในอาคาร SIP Pavilion ที่บูธหมายเลข 67088F

ติดต่อ: นิวพอร์ท เน็ทเวิร์คส
ในสหรัฐ:
ลิซ่า เคิร์ตซ
โทรศัพท์: +1 (928) 282 6929
[email protected]
หรือ
เคลลี่ วิลเลียมส์
โทรศัพท์: +1 (805) 370 1076
[email protected]
หรือ
ในยุโรปหรือเอเชีย:
บริษัททีเอ็ม คอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ มีเดีย จำกัด
เอียน คอร์ทนีย์,
โทรศัพท์: +44 (0) 29 2038 4488 (สำนักงานใหญ่)
มือถือ: +44 (0) 77 7426 7058
[email protected]
หรือ
สำหรับบริษัท:
กาย ไรเฟอร์
โทรศัพท์: +44 (0) 291 635830
[email protected]