ผลวิจัยเรื่องกระแสนิยมโลกของเทคโนโลยีสำหรับระบบโครงข่ายองค์กร

กรุงเทพฯ, 15 มิถุนายน 2548 – ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์? (SYSTIMAX Solutions?) ผู้นำด้านระบบสายสัญญาณเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับองค์กรธุรกิจที่ได้รับความเชื่อถือทั่วโลก ได้เปิดเผยผลถึงผลการวิจัยที่ศึกษาจากเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวน 2,165 คน โดยงานวิจัยที่ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ได้จัดขึ้นทำนั้นมีหัวข้อว่า Meeting the Network Connectivity Challenge หรือ การพบปัญหาด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย ซึ่งงานวิจัยรวมถึงการตอบแบบสอบถามจากเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศจาก 48 ประเทศ และการวิจัยยังแสดงถึงบทบาทสำคัญของการเชื่อมต่อในระบบเครือข่าย ด้วยข้อเท็จจริงจากงานวิจัยระบุว่าปัจจุบันสายสัญญาณที่มีประสิทธิภาพได้ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญ และจำนวน 56 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ทำแบบสอบถามจะติดตั้งระบบสายสัญญาณแบบ Category 6 และ 16 เปอร์เซ็นต์จะ เลือกระบบสายสัญญาณแบบ Augmented Category 6 (Category 6A) แบบใหม่ ซึ่งผลจากการวิจัยชี้ ยังชี้ว่าการยอมรับสายเคเบิ้ลแบบ UTP ที่สามารถรองรับ 10 Gb/s นั้นเติบโตอย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงของการพัฒนามาตรฐาน

ฟิโนนา โนลาน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ กล่าวว่า “ผลของงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการทั่วโลกนั้นเต็มใจรับเทคโนโลยีสายเคเบิ้ลใหม่ในช่วงแรกเพื่อให้แน่ใจว่าเขามีแบนด์วิดธ์ตามที่เขาต้องการ และถึงแม้ว่าการพัฒนามาตรฐานของ 10 Gb/s Augmented Category 6 จะเพิ่งเริ่มต้น จำนวน1 ใน 6 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการเครือข่ายได้ชี้แจงว่าพวกเขานั้นพร้อมที่จะติดตั้งสายสัญญาณทองแดงแบบ Gb/s ทันที”

“เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในการใช้ระบบเครือข่ายของพวกเขาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดเพื่อที่จะคำนึงถึงการทำงานของแอพลิเคชั่นต่างๆ ของเครือข่ายที่มีศักยภาพสูงสุด และในขณะที่การเชื่อมต่อระดับกิกะบิตของเครื่องเดสก์ท็อปได้กลายเป็นมาตรฐาน และ 10 Gb/s ก็ถูกมองว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการได้มองภาพของสายเคเบิ้ลที่มีคุณภาพว่าเป็นการลงทุนที่ค้มค่า มากกว่าจะมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น” โนลานกล่าวเสริม

ในอีกมุมมองนึงของระดับของประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ ผลจากงานวิจัยเสนอแนะว่า สายเคเบื้ลแบบ Category 5e นั้นกำลังจะล้าสมัย โดยมีเพียง 17 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เลือกจะติดตั้งสายเคเบื้ลแบบ Category 5e

งานวิจัยได้ยืนยันการคาดการณ์ของอุตสาหกรรมที่ว่า การเปลี่ยนระบบมาเป็น 10 Gb/s คาดว่าเริ่มใช้ในกลุ่ม ดาต้า เซ็นเตอร์ และจะขยายมาถึงการเชื่อมต่อกับเครื่องเดสก์ท็อป จำนวน 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะใช้ 10 Gigabit Ethernet กับคลังข้อมูลแบบแนวนอน (การเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์) ภายในระยะเวลา 2 ปี และจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามได้เริ่มใช้ 10 Gigabit Ethernet ใน ระบบศูนย์กลาง (backbone) (การเชื่อมต่อแบบ switch-to-switch) และมีจำนวน 54 เปอร์เซ็นต์ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะใช้ 10 Gigabit Ethernet ในระบบศูนย์กลางภายในระบะเวลา 2 ปี

นอกเหนือจากกลุ่มคลังข้อมูล ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คาดว่าจะเริ่มใช้ 1 Gb/s (53 เปอร์เซ็นต์) หรือ 10 Gb/s (30 เปอร์เซ็นต์) กับ ระบบสายเคเบิ้ลแนวนอน ภายในระยะเวลา 5 ปี ในระยะเวลาเท่ากันนั้น มีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม 61 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเริ่มใช้ 10 Gb/s และ ผู้ตอบแบบสอบถาม 26 เปอร์เซ็นต์คาดว่าจะจำเป็นต้องใช้ 40 Gb/s ในเครือข่ายส่วนกลาง

ในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ ได้ทำการรายงานเรื่องสถานะและทิศทางของการเชื่อมต่อแลนของโลกนั้น เส้นใยแก้วนำแสงชนิดหลายโหมดแบบเลเซอร์ (laser optimized multimode fiber) ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นทางเลือกใหม่ทาแทน เส้นใยแก้วนำแสงชนิดหลายโหมดแบบดั้งเดิม (traditional multimode) และ เส้นใยแก้วนำแสงชนิดโหมดเดี่ยว (singlemode fiber) จากการวิจัยล่าสุดพบว่า 28 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามจะติดตั้งเส้นใยแก้วนำแสงชนิดหลายโหมดแบบเลเซอร์ทันที เมื่อเทียบกับการวิจัยในปี 2002 ที่ว่าผู้ที่ได้ติดตั้งแล้วมีจำนวน 4 เปอร์เซ็นต์

ผลวิจัยยังพบว่า ปัจจุบันได้มีการใช้ระบบเครือข่ายไร้สายอย่างแพร่หลาย ดังเช่นจำนวน 78 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามนั้นปัจจุบันใช้ระบบเครือข่ายไร้สาย หรือตั้งใจที่จะใช้ระบบเครือข่ายไร้สายเมื่อมีติดตั้งระบบครั้งใหม่ โดย 81 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าเทคโนโลยีไร้สายนั้นเป็นการวางทับโครงข่ายพื้นฐานเดิมหรือมองว่าเป็นการขยายระบบโครงข่ายพื้นฐาน เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามที่มองว่าเป็นการเปลี่ยนระบบสายสัญญาณเครือข่าย ที่มีเพียง 14 เปอร์เซ็นต์

ในขณะที่ความจำเป็นของการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพนั้นได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ผลวิจัยยังพบว่า เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศโดยทั่วไปขาดความตระหนักในการจัดการโซลูชั่นของสายสัญญาณที่ก้าวหน้า และยังขาดความตระหนักถึงประโยชน์ ถึงแม้ว่าผลการทำงานด้านเทคนิคและค่าใช้จ่ายในอายุการใช้งานของโซลูชั่นนั้นจะมีความสำคัญอยู่ในลำดับต้นๆ ของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวนครึ่งนึงของผู้ตอบแบบสอบถามไม่คิดจะใช้ ระบบแพ็ตชิ่งอัจฉริยะ (intelligent patching) เพื่อช่วยในการจัดการกับเครือข่ายของเขา

การศึกษาที่ชัดเจนและการมีการจัดการโครงข่ายที่ชาญฉลาดนั้น จะช่วยให้เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายการทำงาน ในขณะที่มียืดหยุ่นมากขึ้น มีการกระจายของบริการและการบริการเคลื่อนที่ มีการเพิ่มเติมและความเปลี่ยนแปลงของเครือข่าย ผลวิจัยของซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์แสดงให้เห็นว่า การให้ความรู้ทางด้านประโยชน์ในการใช้สายสัญญาณที่มีประสิทธิภาพสูงในอดีตนั้น ได้รับความเข้าใจเป็นอย่างดี ดังที่เห็นจาก การยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ดังเช่น Category 6A ซึ่งยังมีความสำคัญกว่าการตีพิมพ์มาตรฐานต่างๆ

หลักการวิจัย
เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศใน 48 ประเทศ ได้รับเชิญเพื่อเข้าร่วมในการวิจัยผ่านทางเว็บไซต์ ระหว่างเดือน มีนาคม ถึง เมษายน 2548 โดยสามารถเลือกภาษาได้ถึง 13 ภาษา เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศระดับผู้จัดการและฝ่ายเครือข่ายจำนวน 2165 ที่ตอบแบบสอบถาม โดยผู้ตอบแบบสอบถามมีทั้งผู้ที่เป็นลูกค้าและไม่เป็นลูกค้าของซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์
ผู้ตอบแบบสอบถามมาจากองค์กรที่มีจำนวนผู้ใช้เครือข่ายระหว่าง 50 ถึง 10,000+ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันตั้งแต่การศึกษาไปจนถึงการเงิน และภาครัฐบาลไปจนถึงสื่อมวลชน

เกี่ยวกับซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์
ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์? (SYSTIMAX Solutions?) เป็นบริษัทในเครือ CommScope (NYSE: CTV) เป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบสายสัญญาณ ที่ได้รับความเชื่อถือทั่วโลกมายาวนาน นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการพัฒนาและติดตั้งระบบสายสัญญาณเชื่อมต่อเครือข่ายแบบครบวงจรสำหรับการสื่อสารข้อความ ภาพ เสียง และมัลติมีเดีย รวมทั้งการนำเสนอแอพพลิเคชั่นเพื่อการบริหารจัดการเครือข่ายการสื่อสารในอาคารขององค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในส่วนของการเชื่อมต่อแบบใช้สายและไร้สาย

ซิสติแม็กซ์ โซลูชั่นส์ ให้บริการติดตั้งระบบสายสัญญาณอันทรงประสิทธิภาพและทำตลาดผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยผ่านพันธมิตร Business Partners ผลิตภัณฑ์รวมถึง สายสัญญาณโลหะ GigaSPEED? X10D และ GigaSPEED XL Solutions รวมทั้งสายไฟเบอร์ออปติก LazrSPEED? และ TeraSPEED? Solutions และ intelligent patching iPatch? System ส่วน SYSTIMAX AirSPEED? Solution เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเครือข่ายไร้สาย ซิสติแม็กซ์ แลปส์ และทีมงานพร้อมที่จะทุ่มเทและร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จในอนาคตของ SYSTIMAX Solutions ถึงวันนี้พันธมิตร Business Partners ให้บริการติดตั้งระบบสายสัญญาณเครือข่ายของ SYSTIMAX มากกว่า 1,600 กม. ในกว่า 110 ประเทศทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.systimax.com

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต (Forward Looking Statements)

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ที่มาจากข้อมูลปัจจุบันจากคณะบริหาร ความเชื่อของคณะบริหารและสมมุติฐานของเหตุการณ์ในอนาคต โดยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตนี้ไม่ได้เป็นการรับประกันผลงานและไม่รวมถึงความไม่แน่นอนและปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถก่อให้เกิดความแตกต่างจากผู้ที่คาดหวังได้ สำหรับรายละเอียดของปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่าง โปรดดูรายละเอียดในส่วน Securities และ Exchange Commission ของบริษัท CommScope ในการใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตนี้ ทางบริษัทไม่มีเจตนาและจะไม่รับผิดชอบในการปรับเปลี่ยนข้อความเนื่องจากข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่หรือ เหตุการณ์อื่นๆ ในอนาคต