ซันนี่เวล, แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนส ไวร์)–12 ก.ค. 2548 – เอเอ็มดี (NYSE:AMD) เปิดเผยแถลงการณ์ในวันนี้เกี่ยวกับการที่คณะกรรมาธิการยุโรปบุกค้นสำนักงานของอินเทลตั้งแต่เช้าตรู่ทั่วยุโรป
“การบุกค้นตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้จะเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคทั่วยุโรป” นายโธมัส เอ็ม แมคคอย รองประธานบริหารของเอเอ็มดี, หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านธุรการและกิจการด้านกฎหมายของเอเอ็มดีกล่าว “ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคนมีความสนใจอย่างมากในการรับประกันว่าความจริงเกี่ยวกับการต่อต้านการแข่งขันของอินเทลจะถูกเปิดเผยและได้รับการแก้ไข”
การบุกค้นของคณะกรรมาธิการยุโรปแต่เช้าตรู่บ่งชี้ว่า อินเทลไม่สามารถที่จะหลบหนีจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ต่อต้านการผูกขาดตลาดทั่วโลก หรือไม่สามารถที่จะหลบหนีจากผลของการกระทำที่เป็นการต่อต้านการผูกขาดตลาดซึ่งทำให้ราคาเพิ่มขึ้น, ส่งผลกระทบต่อนวัตกรรมและผู้บริโภค”
การบุกค้นในวันนี้มีขึ้นหลังจากที่มีการตรวจสอบมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของอินเทล
เอเอ็มดีได้ยื่นฟ้องอินเทลด้วยสำนวนคดี 48 หน้าต่อทางศาลแขวงของรัฐบาลกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการที่อินเทลยังคงทำการผูกขาดตลาดไมโครโพรเซสเซอร์สถาปัตยกรรม x86 โดยการขู่บังคับลูกค้าทั่วโลกไม่ให้ทำข้อตกลงกับเอเอ็มดี
สำนวนฟ้องระบุว่า บริษัท 38 แห่งได้ตกเป็นเหยื่อของการขู่บังคับของอินเทล ซึ่งรวมถึงบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์จำนวนมาก, ผู้สร้างระบบขนาดเล็ก, ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก ผ่านทางการกระทำที่ผิดกฎหมาย 7 ประเภทใน 3 ทวีป โดยท่านสามารถดาวน์โหลดสำนวนฟ้องของเอเอ็มดีได้ที่ http://www.amd.com/breakfree
การฟ้องร้องในสหรัฐมีขึ้นหลังการตัดสินเมื่อไม่นานมานี้ของคณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่น (JFTC) เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ซึ่งตัดสินว่าอินเทลใช้อำนาจในการผูกขาดเพื่อขัดขวางการแข่งขันที่เป็นธรรมและเปิดกว้าง ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรา 3 ของกฏหมายต่อต้านการผูกขาดของญี่ปุ่น
การตัดสินเหล่านี้บ่งชี้ว่า อินเทลเจตนาดำเนินธุรกิจอย่างผิดกฎหมายเพื่อสกัดกั้นส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นของเอเอ็มดีโดยกำหนดข้อจำกัดต่างๆต่อกลุ่มผู้ผลิตพีซีของญี่ปุ่น ขณะที่อินเทลไม่ได้แก้ต่างข้อกล่าวหาเหล่านี้
เอเอ็มดี ญี่ปุ่นได้ยื่นฟ้อง 2 คดีต่อบริษัทอินเทล เคเคซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอินเทล คอร์ปอเรชันต่อศาลสูงกรุงโตเกียวและศาลแขวงกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดกฏหมายต่อต้านการผูกขาดของญี่ปุ่น โดยคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาลสูงกรุงโตเกียวนั้นเรียกร้องค่าเสียหาย 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 5.5 พันล้านเยน) ตามคำตัดสินของคณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่น (JFTC)
ส่วนอีกคดีหนึ่งที่ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงกรุงโตเกียวนั้นเรียกร้องค่าเสียหายหลายล้านดอลลาร์สำหรับการกระทำต่างๆที่เป็นการต่อต้านการแข่งขันซึ่งอยู่นอกเหนือไปจากขอบเขตที่ทาง JFTC ตัดสิน
“เราได้ชี้แจงรายละเอียดของการกระทำที่เป็นการต่อต้านการแข่งขันของอินเทลในสำนวนคดีฟ้องของเราจำนวน 48 หน้า” นายแมคคอยกล่าวเสริม “เรามั่นใจว่าการบุกค้นแต่เช้าตรู่ในวันนี้จะบ่งชี้ให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของอินเทล”
เอเอ็มดียังคงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ต่อต้านการผูกขาดทั่วโลกเพื่อจับตาความล้มเหลวของกลไกตลาดและผลกระทบต่อผู้บริโภคที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของอินเทลในประเทศต่างๆ
สถานะของเอเอ็มดีในการแข่งขันที่เป็นธรรมและเปิดกว้าง
เอเอ็มดียึดมั่นในการแข่งขันที่เป็นธรรมและเปิดกว้าง รวมถึงการส่งมอบมูลค่า และการแข่งขันที่หลากหลายให้กับตลาด เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของเอเอ็มดีจะทำให้ผู้ใช้สามารถฟันฝ่าไปสู่ระดับใหม่ของประสิทธิภาพ, ขีดความสามารถ และการสร้างสรรค์ บรรดาธุรกิจและผู้บริโภคจะมีอิสระในการเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆซึ่งมาจากนวัตกรรมที่ต่อเนื่อง และเมื่อกลไกตลาดทำงาน ผู้บริโภคจะมีทางเลือกและทุกคนจะชนะ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูจาก http://www.amd.com/breakfree
เกี่ยวกับเอเอ็มดี
เอเอ็มดี (NYSE:AMD) ออกแบบและผลิตไมโครโพรเซสเซอร์, แฟลชเมมโมรี่ และโพรเซสเซอร์ประหยัดพลังงานสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ต่างๆ เอเอ็มดีมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชั่นมาตรฐานเพื่อตอบสนองทุกๆ ความต้องการของผู้ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่องค์กรธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาล ไปจนถึงผู้ใช้ทั่วไป สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ http://www.amd.com
