กรุงเทพฯ – 10 สิงหาคม 2548 – อีเอ็มซี ประเทศไทยเผยโฉมสตอเรจแอเรย์ระดับไฮเอนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยทำงานได้เร็วที่สุด และยืดหยุ่นที่สุดในโลก ทั้งยังประกอบด้วยฟังก์ชั่นการทำงานระดับชั้นนำ และรองรับความจุข้อมูลได้สูงถึง 1 เพทาไบต์ (1,024 เทราไบต์) ระบบ Symmetrix DMX-3 รุ่นใหม่นับเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการครั้งสำคัญสำหรับอีเอ็มซี โดยระบบรุ่นใหม่นี้ใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรม Direct Matrix Architecture เพื่อนำเสนอฟังก์ชั่นการทำงาน ประสิทธิภาพ และขีดความสามารถที่เหนือกว่าในด้านการจัดเก็บข้อมูลแบบแบ่งระดับชั้นในระบบเดียว เพื่อรองรับแนวทางการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล (Information Lifecycle Management – ILM)
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการขยายบริการด้านการให้คำปรึกษา (Consulting Service) ในธุรกิจบริการระดับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลกในด้านการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล (Information Lifecycle Management – ILM) โดยในปัจจุบันอีเอ็มซีนำเสนอบริการที่หลากหลายด้านการให้คำปรึกษา ซึ่งรวมเข้าไว้ด้วยกันภายใต้แบรนด์ EMC Consulting
Symmetrix DMX-3 — -ขยายขยายนวัตกรรมและความเป็นผู้นำระดับไฮเอนด์
ระบบ Symmetrix DMX-3 พัฒนาต่อยอดจากระบบ Symmetrix DMX-2 Series ซึ่งเป็นผู้นำตลาดสตอเรจระดับไฮเอนด์ในปัจจุบัน ระบบ Symmetrix DMX-3 ประกอบสร้างขึ้นจากความสำเร็จของ Symmetrix DMX-2 Series ที่มีอยู่โดยจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นและนำเสนอประสิทธิภาพที่เหนือกว่าสำหรับลูกค้าที่ต้องการผนวกรวมข้อมูลไว้บนแพลตฟอร์มระดับไฮเอนด์ ระบบ Symmetrix DMX-3 มีขีดความสามารถเหนือกว่าระบบที่มีอยู่ โดยให้พลังการประมวลผลที่สูงกว่า รวมทั้งแบนด์วิดธ์ภายในที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีหน่วยความจำแบบใหม่ และการสนับสนุนดิสก์ไดรฟ์ราคาประหยัด ระบบ Symmetrix DMX-3 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถแทนที่แพลตฟอร์มสตอเรจที่มีอยู่หลายแพลตฟอร์มด้วยระบบสตอเรจเพียงเครื่องเดียว และค่อยๆ ขยายขนาดตามปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น สตอเรจแอเรย์รุ่นใหม่นี้รองรับดิสก์ไดรฟ์สูงสุด 960 ตัวในปัจจุบัน และภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 ระบบดังกล่าวจะสามารถรองรับดิสก์ไดรฟ์ได้มากถึง 1,920 ตัว และเพิ่มเป็นกว่า 2,000 ตัวภายในสิ้นปีหน้า
ดร. ธัชพล โปษยานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยบริษัท อีเอ็มซี กล่าวว่า “สถาปัตยกรรม Symmetrix DMX ของอีเอ็มซี พร้อมด้วยขีดความสามารถในการขยายความจุและประสิทธิภาพ ยังคงช่วยให้อีเอ็มซีมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง คู่แข่งของเรายังไม่สามารถพัฒนาระบบที่มีคุณสมบัติเทียบเท่า Symmetrix DMX-2 ทั้งในแง่ของการปรับระดับประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นการทำงาน และสำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้ เราได้ยกระดับมาตรฐานใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้เราได้เปิดตัวฟังก์ชั่นซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ในระดับไฮเอนด์เมื่อปีที่แล้ว และระบบรุ่นใหม่นี้จะใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ก้าวล้ำ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมทั้งบริการบำรุงรักษา และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหารจัดการ กล่าวโดยสรุปก็คือ เราช่วยให้ลูกค้าทำงานต่างๆ ได้มากขึ้น โดยใช้ฮาร์ดแวร์น้อยลง ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบ”
ระบบ Symmetrix DMX-3 ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และเสถียรภาพสูง ซึ่งจำเป็นสำหรับการรองรับการใช้งานระดับไฮเอนด์หลากหลายรูปแบบภายในแอเรย์เดียว สถาปัตยกรรม DMX ช่วยให้ Symmetrix DMX-3 สามารถปรับระดับประสิทธิภาพ เมื่อมีการติดตั้งตัวควบคุมแชนเนล, ตัวควบคุมหน่วยความจำ และตัวควบคุมดิสก์เพิ่มเติมในระบบ ทั้งนี้ Symmetrix DMX-3 เป็นสตอเรจแอเรย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยแบนด์วิดธ์ภายในที่เพิ่มขึ้น 2 เท่า พลังในการประมวลผล และตัวควบคุมหน่วยความจำที่มีการคัดลอกอย่างสมบูรณ์ โดยอาศัยเทคโนโลยีหน่วยความจำ DDR (Dual Data Rate) SDRAM Symmetrix DMX-3 รุ่นใหม่ ประกอบด้วยระบบส่วนกลาง (System Bay) และส่วนแยกสำหรับสตอเรจ (Storage Bay) แต่ละส่วนจะได้รับพลังงานไฟฟ้าโดยอิสระ และมีระบบการจ่ายพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่สำรองที่มีความยืดหยุ่น เพื่อรองรับอุปกรณ์ประกอบภายในแต่ละส่วน นอกจากนี้ สามารถเพิ่มความจุโดยไม่หยุดระบบ โดยเพิ่ม Storage Bay หรือเพิ่มดิสก์ไดรฟ์ในพื้นที่ว่าที่มีอยู่ ในทำนองเดียวกัน สามารถเพิ่มพลังการประมวลผลโดยติดตั้งบอร์ดตัวควบคุมเพิ่มเติมในขณะที่ระบบกำลังออนไลน์ Symmetrix DMX-3 สามารถทำงานร่วมกับฟังก์ชันและซอฟต์แวร์ระดับไฮเอนด์ทั้งหมดของอีเอ็มซี
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในตระกูล Symmetrix DMX Series รวมถึงระบบรุ่นใหม่ Symmetrix DMX-3 จะสนับสนุนดิสก์ไดรฟ์แบบไฟเบอร์แชนเนลราคาประหยัด (low-cost Fibre Channel หรือ LC-FC) เทคโนโลยีดิสก์ไดรฟ์รุ่นใหม่นี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2549 จะรองรับระบบสตอเรจแบบแบ่งระดับชั้นในลักษณะ “ครบวงจร” กล่าวคือ ลูกค้าจะสามารถติดตั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหลายระดับชั้น รวมไว้ในระบบ Symmetrix DMX เพียงเครื่องเดียว โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล (ILM)
อีเอ็มซีขยายบริการให้คำปรึกษา
บริการ EMC Consulting จะใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านบริการและเทคโนโลยี รวมถึงจากคู่ค้าและพันธมิตรจำนวนมาก ทั้งนี้ EMC Consulting ได้ปรับปรุงบริการต่างๆ และเพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของข้อมูล กฎระเบียบที่เพิ่มมากขึ้น และความจำเป็นในการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการและคุ้มครองข้อมูล โดยบริการใหม่ที่อีเอ็มซีนำเสนอจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากแนวทาง ILM ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการย้ายข้อมูล การใช้ประโยชน์จากพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และการลดความเสี่ยง อีเอ็มซีได้พัฒนาบริการและความสามารถในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้:
• บริการจัดแยกประเภทและกำหนดนโยบายการจัดการข้อมูล (EMC Classification and Policy Services) นับเป็นพื้นฐานสำหรับ ILM และการปฏิบัติตามข้อบังคับ โดยการผนวกรวมความสามารถด้านการจัดการข้อมูลตามนโยบาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับระบบอัตโนมัติ บริการเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพไปยังสตอเรจในระดับต่างๆ เมื่อความต้องการด้านบริการสำหรับข้อมูลนั้นๆ เปลี่ยนไปตามอายุการใช้งานของข้อมูล
• บริการด้านโครงสร้างและการควบรวมการจัดการข้อมูล (EMC Architecture and Consolidation Services) ประกอบด้วยแนวทางการวางแผนอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้สอดคล้องกับความต้องการทางด้านธุรกิจ อีเอ็มซีมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการจัดแยกประเภทของข้อมูล การปรับเปลี่ยนแอพพลิเคชั่น และการย้ายข้อมูล ดังนั้นจึงสามารถช่วยเหลือลูกค้าในการผนวกรวมระบบเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ และเปลี่ยนย้ายสถานที่สำหรับติดตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ โดยลดความยุ่งยากซับซ้อน ความเสี่ยง และค่าใช้จ่าย
• บริการปรับปรุงการจัดการสตอเรจของอีเอ็มซี (EMC Storage Management Optimization Services) ประกอบด้วยกรอบโครงสร้างสำหรับ Information Technology Infrastructure Library (ITIL) และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมสำหรับการจัดการสตอเรจของอีเอ็มซี กรอบโครงสร้างดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าสามารถวิเคราะห์สถานะของการจัดการสตอเรจ ระบุการปรับปรุงที่ได้ดำเนินการไป และผนวกรวมบุคลากร นโยบาย และระบบงาน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล
• บริการคุ้มครองข้อมูลของอีเอ็มซี (EMC Information Protection Services) นำเสนอแนวทาง ระบบงาน และแผนงานอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการในด้านการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงาน รวมถึงการกู้คืนระบบ นอกจากนี้ อีเอ็มซียังได้เพิ่มเติมการประเมินแนวทางด้านการสำรอง กู้คืน และจัดเก็บข้อมูลถาวร เพื่อช่วยให้ลูกค้าลดความเสี่ยงต่อธุรกิจ
ดร. ธัชพล กล่าวว่า “การขยายบริการด้านการให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่องนับเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลและทรัพยากรสตอเรจที่มีอยู่ ทั้งยังช่วยเร่งการเติบโตในธุรกิจบริการ ILM เราได้สร้างและขยายทีมงานด้านการให้คำปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกสามารถปรับใช้เทคโนโลยีและระบบงานที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ปรับปรุงขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยี และเพิ่มคุณประโยชน์ของข้อมูล”
อีเอ็มซีนำเสนอบริการที่หลากหลายสำหรับการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูล ทั้งยังทำงานร่วมกับคู่ค้าระดับชั้นนำในอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผน ออกแบบ และปรับใช้แนวทางที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจ อีเอ็มซีสามารถปรับขนาดและปรับแต่งบริการที่แยกเป็นโมดูลย่อย เพื่อรองรับแต่ละโครงการหรือแก้ไขปัญหาท้าทายของลูกค้าอย่างครบวงจร นอกจากนั้น อีเอ็มซียังช่วยขยายขีดความสามารถด้านไอทีทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ลูกค้า EMC Consulting จะทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนทรัพยากรในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของอีเอ็มซี เช่น บริการให้คำปรึกษาด้านโซลูชั่นข้อมูล, โกลบอล โซลูชั่น รวมทั้งผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่างๆ ให้มีลักษณะสอดคล้องกัน EMC Consulting เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มธุรกิจโซลูชั่นทางด้านเทคโนโลยีของอีเอ็มซี โดยมีพนักงานกว่า 4,000 คนทั่วโลก และมีประสบการณ์ที่หลากหลายด้านการจัดเก็บและการจัดการข้อมูลโดยมุ่งเน้นธุรกิจ จึงสามารถนำเสนอบริการระดับผู้เชี่ยวชาญ
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี เป็นผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการบริหารระบบเครือข่ายข้อมูลเพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกสามารถดึง และปรับใช้ข้อมูล
ต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละส่วนของวงจรข้อมูลนั้นๆ ได้ในระดับสูงสุดโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com
