ทริสให้คะแนนกำกับดูแลกิจการกสิกรไทยอยู่ในระดับ “ดีมาก”

ทริสยกย่องกสิกรไทยยอด ให้คะแนนกำกับดูแลกิจการ 8.89 สูงที่สุดเท่าที่เคยจัดมาในประเทศ สะท้อนให้เห็นเป็นองค์กรที่เข้มข้นเรื่อง ธรรมาภิบาล

บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส จำกัด (ทริส) ประกาศผลการทบทวนการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการของธนาคารกสิกรไทยสำหรับปี 2548 โดยให้อันดับคะแนนของธนาคารที่ 8.89 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งอยู่ในระดับดีมาก เพิ่มจากปี 2547 ที่ได้ 8.80 นับเป็นองค์กรที่ได้ระดับคะแนนด้านการกำกับดูแลกิจการที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่ทริสเป็นผู้จัดอันดับให้

สำหรับการพิจารณาให้คะแนนเพื่อจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการของทริสแบ่งเป็น 4 ด้าน คือ ด้านสิทธิของผู้ถือหุ้น (จากน้ำหนักคะแนน 20%) ธนาคารกสิกรไทยได้ 8.94 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ด้านองค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร (40%) ได้ 8.39 คะแนน ด้านการเปิดเผยข้อมูล (25%) ได้ 9.43 คะแนน และในด้านวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการ (15%) ได้ 9.25 คะแนน

ทั้งนี้ ในด้านสิทธิของผู้ถือหุ้น โครงสร้างการถือหุ้นระหว่างธนาคาร บริษัทย่อย และบริษัทร่วม มีความชัดเจน ไม่มีการถือหุ้นไขว้กัน (Cross Holding) แต่มีการถือหุ้นในลักษณะที่มีผู้ถือหุ้นร่วมกัน (Common Share) กับบริษัทที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นมูลค่าการถือหุ้นที่ไม่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับขนาดของกิจการและไม่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ธนาคารกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ว่าการอนุมัติรายการที่เกี่ยวโยงกันเป็นไปด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยพบว่าธนาคารได้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ จริง นอกจากนี้ธนาคารยังมีกลไกเพื่อป้องกันและตรวจสอบการใช้ข้อมูลภายในและรายการขัดแย้งทางผลประโยชน์อีกด้วย

ด้านองค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและผู้บริหาร มีองค์ประกอบที่ดี มีจำนวนที่พอเหมาะกับขนาดของธนาคาร มีความหลากหลายและล้วนเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน คณะกรรมการมีการถ่วงดุลเป็นอย่างดี เนื่องจากมีกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหาร และกรรมการอิสระเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ บทบาทและอำนาจหน้าที่ของประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการแยกจากกันอย่างชัดเจน

ด้านการเปิดเผยข้อมูล ธนาคารยังคงรักษาคุณภาพของบทรายงานและวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร (MD&A) ไว้ได้อย่างดี มีรายละเอียดค่อนข้างมากแต่ก็จัดหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน จึงเข้าใจง่าย นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงิน (Non-Financial) ธนาคารก็มีการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจน

ด้านวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการ ธนาคารมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อยเป็นจำนวนมาก และไม่ปรากฏว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดมีสิทธิในการออกเสียงมากจนสามารถควบคุมการบริหารงานของธนาคารได้ เป็นผลให้บรรยากาศการกำกับดูแลกิจการในระดับผู้ถือหุ้นอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ส่วนบรรยากาศภายในองค์กรนั้น ทริสพบว่าส่วนใหญ่พนักงานและผู้บริหารเข้าใจหลักการการกำกับดูแลกิจการและปฏิบัติตามคู่มือดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในส่วนของผู้บริหารมีความรู้ในรายละเอียดเกี่ยวกับข้อพึงปฏิบัติในการซื้อขายหลักทรัพย์ของธนาคารและลูกค้าของธนาคาร

ทั้งนี้ จากคะแนนที่ธนาคารได้รับสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารสามารถรักษาวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายในธนาคารได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ปรับปรุงและพัฒนาการปฎิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการปรับปรุงกลไกการติดตาม ตรวจสอบ ถ่วงดุลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและการอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้มากขึ้น อีกทั้งพนักงานและผู้บริหารก็มีความเข้าใจในหลักการกำกับดูแลกิจการต่างๆ เป็นอย่างดี