กสิกรไทย เร่งสร้างแบรนด์ เคแบงก์ ชัวร์เพย์ บริการรับชำระเงิน โอนเงินสมบูรณ์แบบ 6 ช่องทาง ล่าสุดจับมือ กฟน. รับชำระค่าไฟฟ้าผ่านอินเทอร์เน็ต เผยแต่ละปีมีผู้ใช้บริการกว่า 50 ล้านรายการ สร้างรายได้มากกว่า 1 พันล้านบาท
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2548 ที่ห้องจินดาธร ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ได้มีพิธีลงนามในความร่วมมือรับชำระค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ผ่านทางช่องทาง e-Internet Banking ของบริการเคแบงก์ ชัวร์เปย์ (KBank SurePay) ของธนาคารกสิกรไทย โดยมีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนายชลิต เรืองวิเศษ ผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง ร่วมลงนาม
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การให้บริการชำระค่าไฟฟ้านครหลวงผ่านทางช่องทาง e-Internet Banking จะเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจเทคโนโลยีทันสมัย และต้องการความสะดวกสบายในการชำระเงิน โดยผู้ใช้ไฟฟ้ าของการไฟฟ้านครหลวงสามารถทำรายการชำระเงินจากที่บ้านหรือที่ทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ซึ่งสามารถกำหนดวัน และจำนวนเงินที่จะชำระได้ล่วงหน้า หรือสามารถสั่งระบบให้ชำระเงินทันทีก็ได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาชำระที่สำนักงานการไฟฟ้า หรือสาขาของธนาคาร
นอกจากนั้นตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ผู้ใช้ไฟฟ้าของการ กฟน.ที ่เป็นลูกค้าของธนาคารยังสามารถสมัครใช้บริการชำระค่าไฟฟ้าโดยระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit) ผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยได้ทุกเครื่องอีกด้วย
ปัจจุบันลูกค้าธนาคารกสิกรไทยสามารถชำระค่าไฟฟ้าของ กฟน. ผ่านทางเครื่องเอทีเอ็ม (e-ATM) บริการธนาคารทางโทรศัพท์ (e-Phone) เคาน์เตอร์สาขาของธนาคาร (Counter Pay-in) บัญชีบัตรเครดิต และระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit) ประมาณ 85,000 รายการต่อเดือน ดังนั้นการเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านทางอินเทอร์เน็ต จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของธนาคารและกฟน.มากขึ้น
ขณะนี้มีธนาคารมีผู้ใช้บริการ e-Internet Banking ประมาณ 40,000 ราย และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 100,000 รายในปี 2549 ขณะที่มีผู้ใช้ไฟฟ้าของ กฟน.ในเขตกทม.และปริมณฑลประมาณ 2.5 ล้านราย
ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดบริการ KBank SurePay ให้บริการชำระเงินค่าสินค้า บริการ สาธารณูปโภค และการโอนเงินผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร ซึ่งในแต่ละปีจะมีลูกค้ามาใช้บริการดังกล่าวประมาณ 50 ล้านรายการ ทำให้ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากการบริการปีละ 1,200-1,300 ล้านบาท