บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ประกาศทำสงครามกับอะไหล่ปลอม

กรุงเทพฯ, วันที่ 10 ตุลาคม 2548 — ผู้แทนของเดมส์เลอร์ไครสเลอร์ เอจี และพล.ต.อ. สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญายงยุทธ ศรีสัตยาชนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ผนึกกำลังร่วมกับเจ็นเนอรัล มอเตอร์ส์ในการนำกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ากวาดล้างธุรกิจผลิตอะไหล่ปลอมซึ่งมีมูลค่ามหาศาลที่จังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ที่ผ่านมา

ติลลิกี แอนด์ กิบบินส์ สำนักงานทนายความผู้รับมอบอำนาจของเดมส์เลอร์ไครสเลอร์ เอจีและเจนเนอรัล มอเตอร์ส์ คาดการณ์ว่าในการเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ได้เป็นจำนวนมากจากโรงงานและคลังสินค้า นอกจากนี้ยังพบสินค้าปลอมยี่ห้ออื่นๆ ได้แก่ โอเปิล เชฟโรเล็ต แซ็ทเทิร์น และบีเอ็มดับบลิว

ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการเข้าตรวจค้นจับกุมที่โชว์รูมสินค้าของผู้ผลิตสินค้าปลอมในกรุงเทพฯ อันเป็นผลให้มีการยึดสินค้าต่างๆ เพิ่มเติม มูลค่าของกลางที่ยึดได้ในครั้งนี้คาดกันว่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และจากข้อมูลที่ได้รับจากชุดปฏิบัติการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ การจับกุมครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการทลายหนึ่งในโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ปลอมรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย อะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ปลอมดังกล่าวผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

การเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการเจรจากรอบการค้าเสรีไทย-สหรัฐที่เมืองฮาวายซึ่งได้มีการหยิบยกประเด็นเรื่องการบังคับสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาขึ้นมาหารือในการเจรจาดังกล่าว นับได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีส่วนช่วยสนับสนุนความน่าเชื่อถือของคณะผู้แทนเจรจาที่ได้สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะดำเนินมาตรการอย่างจริงจังเพื่อปราบปรามการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในราชอาณาจักรไทย

นอกจากนี้การเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าวยังประจวบเหมาะกับการที่เดมส์เลอร์ไครสเลอร์ เอจี. มีแผนรณรงค์แก้ไขการใช้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน “Mercedes Benz”,“Benz” ของเดมส์เลอร์ไครสเลอร์ เอจี. โดยละเมิดสิทธิของดีลเลอร์และตัวแทนจำหน่ายที่มิได้รับอนุญาตในระดับการค้าปลีก เนื่องจากมีลูกค้าจำนวนมากได้ร้องเรียนถึงความสับสนในภาคการค้าปลีกที่เกิดขึ้นเพราะมีผู้ค้าปลีกและศูนย์บริการที่มิได้รับอนุญาตอ้างตัวว่าได้รับการสนับสนุนหรือรับรองจากเดมส์เลอร์ไครสเลอร์ โดยมีการใช้อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่มีรูปโลโก้และเครื่องหมายการค้าของเดมส์เลอร์ไครสเลอร์ทั้งๆ ที่ผู้ค้าปลีกและศูนย์บริการดังกล่าวไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับเดมส์เลอร์ไครสเลอร์แต่อย่างใด

การเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้เริ่มจากการสืบสวนในเบื้องต้นของบริษัท ควอนติโก้ คอนซัลติ้ง จำกัด สำนักงานนักสืบเอกชนเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ออโต้ทริม อินเตอร์เนชั่นแนล ทรานส์แซคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยและมีผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ เริ่มจากผู้บริโภคได้ร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้าที่มีการวางขายโดยเปิดเผยที่โชว์รูมของบริษัทดังกล่าวในเขตกรุงเทพฯ หลังจากมีพยานหลักฐานมากพอว่าบริษัทดังกล่าวได้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ปลอมยี่ห้อดังจำนวนมาก ควอนติโก้ได้ขอความร่วมมือไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อวางแผนเข้าตรวจค้นจับกุมในนามของลูกความ เมื่อได้รับข้อร้องเรียนดังกล่าวผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาและทีมงานผู้เชี่ยวชาญจึงได้วางแผนเข้าตรวจค้นจับกุมโดยได้มอบหมายและประสานงานกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทนายความ และนักสืบเอกชนรวมกว่า 50 คนและได้มีการขอหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจนกระทั่งชุดกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าตรวจค้นจับกุมได้ลงมือปฏิบัติการตามวันที่นัดหมายและพบสินค้าปลอมจำนวนมากดังกล่าว

ขณะนี้สินค้าปลอมทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเป็นหลักฐานในการฟ้องคดีแพ่งและ/หรือคดีอาญากับผู้ต้องหาต่อไป โดยในเบื้องต้นได้มีการตั้งข้อหากรรมการและเจ้าของโรงงานดังกล่าวว่าละเมิดเครื่องหมายการค้าอันเป็นความผิดทางอาญาซึ่งมีโทษปรับและจำคุก ซึ่งยังไม่รวมการต้องรับผิดจ่ายค่าทดแทนความเสียหายทางแพ่งให้แก่เจ้าของตราสินค้า นอกจากนี้กรรมการชาวต่างประเทศของบริษัทดังกล่าวอาจต้องรับโทษทางอาญาเพิ่มในส่วนการตรวจคนเข้าเมือง แรงงาน การหลบเลี่ยงภาษี และ ฯลฯ

เดมส์เลอร์ไครสเลอร์ เอจี. และจีเอ็มยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนกรมสอบสวนคดีพิเศษและกระทรวงยุติธรรมอย่างต่อเนื่องในการดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การปฏิบัติการในครั้งนี้ช่วยกอบกู้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและเป็นการปกป้องผู้บริโภคให้ปลอดจากอันตรายที่อาจเกิดจากการที่สินค้าที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐานออกวางจำหน่ายในท้องตลาด นอกจากนี้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายยังต้องการลบภาพเมืองไทยในฐานะสวรรค์ของผู้ผลิตสินค้าปลอมให้หมดไปเนื่องจากภาพลักษณ์ทางลบดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ทั้งเดมส์เลอร์ไครสเลอร์ เอจี. และจีเอ็มกล่าวขอบคุณและยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนโครงการรณรงค์ปราบปรามของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษโดยมีเป้าหมายเพื่อกวาดล้างผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย และผู้ค้าปลีกสินค้าปลอมต่อไป

เดมส์เลอร์ไครสเลอร์ยืนยันว่าจะจัดให้มีการสัมมนาอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่เครื่องหมายการค้าเพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมนโยบายของประเทศไทยที่มีเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียตามแผน “ดีทรอยต์ออฟเอเชีย” ของรัฐบาลทักษิณ