ดั๊บเบิ้ล เอ เจาะตลาด Global ด้วย Sport Marketing ลุยจัดแข่งกอล์ฟระดับเอเชียนทัวร์ พร้อมดึงลูกค้าร่วมลุ้นเงินล้าน

ดั๊บเบิ้ล เอ รุกเจาะตลาดต่างประเทศอีกขั้นด้วยกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เป็นเจ้าภาพหลักจัดแข่งขันกอล์ฟระดับเอเชียน ทัวร์ หวังเพิ่มการรู้จักแบรนด์ไปทั่วโลก ปูทางขยายตลาดส่งออก พร้อมดึงกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมก๊วนนักกอล์ฟชื่อดังของเอเชียในการแข่งขันพิเศษ ลุ้นรับรางวัลใหญ่โฮลอินวัน “ เงินสด 1 ล้านบาท” และดั๊บเบิ้ล เอ ทุ่มอีก 1 ล้านเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กในประเทศนั้น

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ – การตลาด ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ใช้กลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง รุกกลุ่มตลาดต่างประเทศควบคู่ไปกับสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองไทยเพื่อชูความเป็นโกลบอล แบรนด์ อีกครั้ง โดยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟในระดับ เอเชีย คือ ดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชันแนล โอเพ่น (Double A International Open) ระหว่างวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2548 ณ สนามกอล์ฟ เซ้นต์ แอนดรูส์ ฮิล (2000) จังหวัดระยอง ชิงเงินรางวัลกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งจะมีนักกอล์ฟชื่อดังในระดับเอเชียมาเข้าร่วมหลายราย อาทิ ธงชัย ใจดี และคุณถาวร วิรัตน์จันทร์ ที่จะมาชิงความเป็น 1 ในการแข่งขันครั้งนี้อย่างแน่นอน

“การจัดการแข่งขันกอล์ฟในระดับเอเชียนี้ ถือเป็นการสนับสนุนกีฬาในระดับสากลที่เป็นไปตามคอนเซ็ปท์ของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ คือ No Jam No Stress และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในการสร้างโกลบอล แบรนด์ คือการสร้างแบรนด์ไทยสู่สากล โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ประสบความสำเร็จในการทำตลาดเป็นอย่างมาก ดังเช่นในมาเลเซีย ขณะนี้จากการสำรวจในแต่ละประเทศมีผู้รู้จัก แบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ในตลาดแล้วเกือบ 100% คือ สิงคโปร์ประมาณ 97 % ฮ่องกงประมาณ 95 % ไต้หวันประมาณ 94 % เกาหลีประมาณ 88 % และออสเตรเลียประมาณ 71 % ซึ่งขณะนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ มีการสร้างแบรนด์ในต่างประเทศแล้วถึง 8 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลี จีน ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งส่งออกไปจำหน่ายแล้วกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และเราคาดหวังว่าผลจากการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการเผยแพร่การแข่งขันดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล

โอเพ่น ในหลายๆ ประเทศว่าจะทำให้นานาประเทศรู้จักดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะประเทศผู้ผลิตกระดาษคุณภาพสูงจากไทยที่ร่วมรักษาธรรมชาติ ด้วยการใช้ไม้ปลูกของเกษตรกรไทยเป็นวัตถุดิบ และทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถเติบโตในตลาดประเทศต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในปีหน้านี้ ดั๊บเบิ้ล เอ มีแผนที่จะขยายการทำตลาดไปสู่ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ด้วย” นายชาญวิทย์ กล่าว

โดยก่อนการแข่งขันระหว่างนักกอล์ฟอาชีพจากทั่วโลกในวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดกิจกรรมพิเศษขึ้นอีกหลายกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าของดั๊บเบิ้ล เอคือ “ดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น อเมเจอร์ทัวร์นาเมนท์” ซึ่งจะเป็นการแข่งขันกอล์ฟสำหรับลูกค้าดั๊บเบิ้ล เอ ในประเทศไทย ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 19 ต.ค. นี้ เพื่อคัดเลือกตัวแทนนักกอล์ฟสมัครเล่นของไทยเข้าไปร่วมก๊วนกับนักกอล์ฟอาชีพชื่อดังจากทั่วโลก แข่งขันกับนักกอล์ฟสมัครเล่นที่เป็นลูกค้าของดั๊บเบิ้ล เอ ในประเทศต่างๆ อาทิ เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย ในการแข่งขัน “ดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น โปร-แอมทัวร์นาเมนท์” วันที่ 1 พ.ย.นี้ พร้อมกันนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ทุ่มงบเพิ่มสำหรับรางวัลพิเศษ คือ “ดั๊บเบิ้ล เอ วัน ช็อต ดั๊บเบิ้ล เอ มิลเลียนส์” ให้ลูกค้าได้แข่งลุ้นโฮลอินวัน (Hole – In – One) หลุมที่ 19 เพื่อชิงเงินรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาท พร้อมได้รับทุนการศึกษาสำหรับเยาวชนจากดั๊บเบิ้ล เอ ให้กับประเทศของตัวเองอีก 1 ล้านบาทด้วย

นอกจากนี้ สำหรับกลุ่มลูกค้าทัวไป ดั๊บเบิ้ล เอได้เปิดโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้เพียงซื้อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ผ่านบริการ 1759 ดั๊บเบิ้ล เอ เดลิเวอรี่ ตั้งแต่ 10 รีมขึ้นไป รับบัตรเข้าชมการแข่งขันดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น 3-6 พฤศจิกายน ฟรีทันที 2 ใบ รวมทั้งได้ร่วมกับ 3 คลื่นวิทยุดัง 93 Cool FM , 106 Life FM และ 103.5 FM One จัดกิจกรรมร่วมตอบคำถาม เพื่อลุ้นรับบัตรชมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย

นายชาญวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของภาคการท่องเที่ยวว่า กีฬากอล์ฟถือเป็นกีฬาที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักธุรกิจเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสนามกอล์ฟของไทยอยู่ในทำเลที่ดี มีมาตรฐาน มีบริการและความสะดวกสบายครบครัน มีความท้าทายเป็นพิเศษ ดังนั้นการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวของไทยและช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ การบินไทย สนามกอล์ฟ เซ้นต์ แอนดรูส์ ฮิล (2000) Leading Edge และ I-Golf