กรุงเทพฯ 2 พฤศจิกายน 2548 : ทรู เปิดโซลูชั่นใหม่ให้บริการประชุมทางไกลด้วยภาพและเสียง Video Conference Service by True สามารถติดต่อสื่อสารได้ทุกที่ทุกเวลา เชื่อมต่อการประชุมแบบเรียลไทม์ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 32 จุด ผ่านบรอดแบนด์ระบบ multi-network เบื้องต้นลงทุนเพิ่มอุปกรณ์พัฒนาระบบ multi-equipment มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เอื้อประโยชน์สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และกลุ่มธุรกิจ SME นำร่องเปิดให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจที่ใช้บรอดแบนด์ของทรู กว่า 25,000 ราย
นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการด้าน Corporate Solution, Wholesales & Data บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทรู มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและสรรหาโซลูชั่นใหม่ๆ มาให้บริการแก่ลูกค้า โดยล่าสุดได้สร้างมิติใหม่ ด้วยการเปิดให้บริการ Video Conference by True ให้บริการประชุมทางไกลด้วยภาพและเสียงได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าที่ใช้บรอด์แบนด์ของทรู ทั้งนี้ ทรูจะเริ่มต้นเปิดให้บริการแก่ กลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มลุกค้าธุรกิจ SME ที่ใช้บริการบรอดแบนด์ Business Pack ของทรูจำนวนกว่า 25,000 ราย มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะอำนวยความสะดวกในการติดต่อธุรกิจที่รวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดเวลาการทำงาน และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ให้กับองค์กรธุรกิจได้อย่างชัดเจน
“ ในเบื้องต้นของการพัฒนาระบบบริการ Video Conference by True นั้น ทรู ได้ใช้งบประมาณไปแล้วจำนวนกว่า 20 ล้านบาท โดยซื้ออุปกรณ์ Multipoint Control Unit (MCU) จาก บริษัทโพลีคอม อิงค์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการสื่อสารแบบประสานความร่วมมือที่เพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพด้านการติดตั้งโซลูชั่น วิดีโอ ,เสียง, ข้อมูล และเว็บ เพื่อการประชุมที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล โดยอุปกรณ์นี้จะตั้งอยู่ที่ True Digital Entertainment ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเสมือน Hosting Switch หรือ Server กลาง เพื่อกระจายการให้บริการแก่ลูกค้า ผ่านบรอดแบนด์ซึ่งมีศักยภาพที่จะเปิดการประชุมให้กับลูกค้าแต่ละองค์กรแบบเรียลไทม์ พร้อมกันสูงสุดถึง 32 จุดทั่วโลก ”
นายนพปฎล เดชอุดม ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ด้าน Main-line บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยจุดเด่นของทรู ซึ่งเป็นผู้นำตลาด Broadband และ Data ที่มีโครงข่ายเน็ตเวิร์คของตัวเอง ทำให้มีความพร้อมในการเปิดให้บริการ Video Conference ได้มากกว่า 2 จุดขึ้นไป โดยจะให้คุณภาพของภาพและเสียงที่ดี และนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่เปิดให้บริการ Network Video Conference ผ่าน multi-network และ multi-equipment ที่ทันสมัย โดยเปิดให้ใช้งานเชื่อมต่อกับระบบเน็ตเวิร์กได้หลายแบบทั้ง ADSL, hi-speed Internet, ISDN, Leased Line, Frame Relay โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือโทรศัพท์พื้นฐาน ซึ่งเหมาะกับองค์กรธุรกิจทุกประเภท โดยทรูจะทำหน้าที่เป็นโครงข่าย Multi-Network และจัดเตรียมโซลูชั่นให้ลูกค้าแต่ละ องค์กรเลือกใช้ตามความต้องการ ในเบื้องต้นการใช้บริการ Video Conference by True นั้น จะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์รองรับการทำงานมาตรฐานของ Video Conference ในการรับ-ส่ง สัญญาณภาพและเสียง ในส่วนของการจัดเตรียมอุปกรณ์ปลายทาง สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม อาทิเช่น VDO set-top box ต่อกับ plasma หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ร่วมกับกล้อง webcam เป็นต้น
“สำหรับการใช้งาน Video Conference Service by True จะต้องเข้าไปในเว็บไซต์ของทรู จากนั้นจะได้รับ Username และ Password เพื่อจองวันและเวลาประชุม โดยสามารถเลือกกำหนดวัน, ระยะเวลา และกำหนดผู้ร่วมประชุมได้ด้วยตนเองล่วงหน้า ระบบจะแจ้งนัดหมายไปยัง E-mail ที่ระบุ พร้อมกับแจ้ง Conference ID และ Password เพื่อใช้ต่อเข้ากับการประชุม โดยสามารถรองรับการประชุมพร้อมกันได้สูงสุดถึง 32 จุดทั่วโลก และสามารถใช้งานได้บ่อยครั้งตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ต้องมีการประชุมและสื่อสารเช่น ธนาคารที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ สำหรับค่าใช้จ่ายในการให้บริการนั้นจะคุ้มค่ามาก โดยจะขึ้นอยู่กับ Package ที่เลือกใช้งาน ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครใช้บริการได้ที่ Corporate Call Centerโทรศัพท์หมายเลข (02) 900-9100
การเปิดให้บริการ Video Conference by True ครั้งนี้ จะเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าในการเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้ได้รับผลกำไรที่ดี ในขณะที่ประหยัดเวลาและต้นทุน ทั้งนี้ในช่วงแนะนำจะมีการประชาสัมพันธ์แนะนำและสาธิตการใช้บริการให้ กลุ่มองค์กรและกลุ่มธุรกิจ SME จำนวนกว่า 25,000 รายที่เป็นลูกค้าบริการ hi-speed Internet จากทรู เพื่อให้ได้ทดลองใช้บริการนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น นายทรงธรรมกล่าวสรุปในที่สุด