บอมบาร์เดียร์เปิดตัวเครื่องบินประเภทธุรกิจข้ามทวีปรุ่น Challenger 605 ในงาน NBAA 2005

บริษัทบอมบาร์เดียร์ แอโรสเปซ แถลงเกี่ยวกับ
– อุปกรณ์อิเลคทรอนิกด้านการบินที่ทันสมัยชุดใหม่
– ภายในของเครื่องบินที่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
– ความสามารถในการยืดหยุ่นด้านน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น

บริษัทบอมบาร์เดียร์ แอโรสเปซ ได้เปิดตัวเครื่องบินรุ่น Bombardier Challenger 605 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญอีกขั้นหนึ่งในการพัฒนาเครื่องประเภทธุรกิจในรุ่น Challenger ที่สำคัญของทางบริษัท ในการประชุมประจำปีของสมาคมการบินประเภทธุรกิจแห่งชาติ (NBAA) ครั้งที่ 58

เครื่องบิน Challenger 605 รุ่นใหม่ดังกล่าว ได้อาศัยความมีชื่อเสียงของเครื่องบิน Challenger 604 ซึ่งเป็นเครื่องบินประเภทธุรกิจขนาดใหญ่ที่ขายดีที่สุดในโลก โดยมีห้องนักบินที่มีความทันสมัยมากที่สุดแบบหนึ่งในปัจจุบันนี้ และภายในตัวเครื่องบินที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีพื้นที่มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง น้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นเป็น 200 ปอนด์ (91 กิโลกรัม) จะทำให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นในการเลือกว่าจะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารอีก 1 คน หรือเชื้อเพลิงอีก 200 ปอนด์ (91 กิโลกรัม) ขณะที่ยังคงคุณสมบัติดั้งเดิม, ความสะดวกสบายและมูลค่าที่คาดหวังจากเครื่องบินในตระกูล Challenger แบบจำลองห้องโดยสารขนาดเท่าของจริงได้มีการจัดแสดงที่ส่วนจัดแสดงของบอมบาร์เดียร์ที่สนามบิน Orlando Executive Airport

นายปิแอร์ โบดวง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบอมบาร์เดียร์ แอโรสเปซกล่าวว่า “เครื่องบิน Challenger ดั้งเดิมนั้นได้มีการสร้างเพื่อรองรับความต้องการของบรรดาผู้นำในภาครัฐบาลและภาคธุรกิจที่มีศักยภาพ และได้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของฝูงบินระดับองค์กรที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยเครื่องบิน Challenger 605 รุ่นใหม่นี้ บอมบาร์เดียจะยังคงสานต่อพันธะสัญญาที่ต่อเนื่องในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะผสมผสานโครงสร้างที่ได้รับการยอมรับและความสามารถไว้วางใจได้ของเครื่องบินรุ่นก่อน เข้ากับเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุงและความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น การนำเสนอคุณค่าที่ดีที่สุดในเครื่องบินประเภทธุรกิจขนาดใหญ่ดังกล่าวนับว่าดีขึ้นอย่างมาก”

ระบบอุปกรณ์อิเลคทรอนิกด้านการบินที่ทันสมัยสู่ห้องนักบินที่ปราศจากข้อมูลเอกสาร
ห้องนักบินของเครื่องบินรุ่น Challenger 605 จะประกอบไปด้วยกลุ่มอุปกรณ์อิเลคทรอนิกด้านการบิน Rockwell Collins Pro Line 21 ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเต็มที่ และจะทำให้นักบินสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการบินที่สำคัญได้อย่างฉับพลัน กลุ่มอุปกรณ์อิเลคทรอนิกด้านการบินแบบเบ็ดเสร็จดังกล่าวจะรวมถึงจอภาพแอลซีดียุคหน้าในแนวตั้งขนาด 10 x 12 นิ้ว (25.4 x 30.5 เซ็นติเมตร) จำนวน 4 จอ ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่จอภาพขึ้น 55% เมื่อเทียบกับห้องนักบินในปัจจุบัน และจะมีการปรับปรุงในด้านสีและความคมชัดของภาพขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวยังมีระบบข้อมูลการบินรวม Rockwell Collins Integrated Flight Information System (IFIS) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย คุณสมบัติที่มีความทันสมัยของระบบ Rockwell Collins IFIS จะทำให้สามารถใช้แผนที่อิเลคทรอนิกได้ ซึ่งจะทำให้นักบินสามารถเรียกดูแผนที่ระยะใกล้, แผนผังและระเบียบปฏิบัติของสนามบิน เช่น การเดินทางขาออกที่ใช้เครื่องมือมาตรฐานและเส้นทางขาเข้าตามเทอร์มินัลที่มีมาตรฐาน ผ่านทางจอภาพหลายฟังก์ชั่นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ดังนั้น จึงเป็นการขจัดความจำเป็นในการใช้แผนที่ที่เป็นกระดาษ ระบบดังกล่าวยังจะทำให้ตำแหน่งของเครื่องบินปรากฏอยู่บนแผนที่นำทางได้ด้วย ซึ่งจะส่งผลให้มีกาารปรับปรุงขึ้นอย่างมากในด้านการทราบตำแหน่งที่ตั้ง

ห้องนักบินยังมีการติดตั้งอุปกรณ์จอภาพแบบสัมผัสที่ด้านข้างของผู้ช่วยนักบิน ซึ่งจะเป็นจอภาพที่ 2 ของแผนที่อิเลคทรอนิก เพื่อที่จะสามารถดำเนินปฏิบัติการ “ปราศจากข้อมูลที่เป็นกระดาษ” ได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากระบบอิเลคทรอนิกในห้องโดยสาร ก็จะมีการจัดหาการสื่อสารทางระบบห้องโดยสารและการสนับสนุนการควบคุมส่วนกลางสำหรับระบบห้องโดยสาร

ภายในเครื่องบินที่ได้รับการออกแบบใหม่ ด้วยพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น
ภายในของเครื่องบินจะมีคุณลักษณะที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นที่สำคัญหลายประการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้ความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร โดยห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเครื่องบินประเภทเดียวกันจะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นไปอีกในปัจจุบันนี้ ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มขึ้น และยังรวมถึงความสว่างจากหลอด LED ทั่วทั้งห้องโดยสารด้วย หน้าต่างในห้องโดยสารก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ และหน้าต่างรุ่นใหม่นึ้จะแสดงถึงการออแบบที่เพิ่มปริมาณแสงจากธรรมชาติและการเพิ่มขึ้นอย่างมากของมุมในการมองเห็น ห้องโดยสารใหม่จะทำให้ผู้โดยสารมีพื้นที่เก็บสัมภาระและการใช้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งพื้นที่การทำงานที่กว้างขวางขึ้นที่จะใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

ระบบการจัดการห้องโดยสารแบบดิจิตอลที่อิงกับระบบอีเทอร์เน็ต จะทำให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับระดับใหม่ของการควบคุมและความสามารถในการยืดหยุ่นของห้องโดยสาร ระบบดังกล่าวได้รวมถึงการควบคุมผ่านจอแบบสัมผัสทั้งในที่นั่งส่วนตัวและและในส่วนรับรองวีไอพี ซึ่งจะมีคุณลักษณะใหม่ ๆ เช่น ออดิโอ/วิดีโอตามต้องการ และการซัพพอร์ทการเชื่อมต่อแบบความเร็วสูงในด้านอี-เมล์และการค้นหาเว็บ

ช่วงน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น
การประกอบกันของวัสดุและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นห้องนักบินแบบใหม่ที่มีน้ำหนักเบาขึ้นนั้น จะส่งผลให้น้ำหนักรวมของเครื่องบินรุ่น Challenger 605 ลดลง 200 ปอนด์ (91 กิโลกรัม) เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่น Challenger 604 ในปัจจุบัน ซึ่งจะหมายความถึงความสามารถในการยืดหยุ่นของน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น เครื่องบินรุ่น Challenger 605 จะมีขนาดความยาวเหมือนกับรุ่นก่อน แต่จะมีผู้โดยสารบนเครื่องได้เพิ่มขึ้นอีก 1 คน

เที่ยวบินแรกของเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมีกำหนดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 และคาดว่าจะได้รับใบรับรองด้านการคมนาคมจากแคนาดาในไตรมาส 4 ปีเดียวกัน โดยเครื่องบินลำแรกของรุ่น Challenger 605 จะให้บริการในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2550 และราคาของเครื่อง Challenger 605 รุ่นใหม่จะอยู่ที่ 26.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เกี่ยวกับบอมบาร์เดียร์
บอมบาร์เดียร์ อิงค์ เป็นบริษัทผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นการขนส่งที่ก้าวล้ำ นับตั้งแต่เครื่องบินระดับภูมิภาคและเครื่องบินประเภทธุรกิจ ไปจนถึงอุปกรณ์การขนส่งทางรถไฟ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในแคนาดา รายได้ของบริษัทสำหรับปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ม.ค.2548 อยู่ที่ 1.58 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นของบริษัทมีการซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้นโตรอนโต (BBD) สำหรับข่าวและข้อมูล สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ www.bombardier.com