7 ธันวาคม 2548 – สถานการณ์ผู้ป่วยโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังในเมืองไทยกำลังก้าวไปสู่ยุครุนแรงกว่าอดีต โดยตัวเลขล่าสุดจากเครือข่ายคลินิกโรคหืดเผยว่า มีผู้ป่วยที่เข้าข่ายเป็นโรคนี้ประมาณ 6 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งนับเป็นเรื่องใกล้ตัวคนไทยทุกคนอย่างยิ่ง !
ที่ผ่านมา ทั้งแพทย์และบุคคลทั่วไปต่างรับรู้ว่า “โรคหืดรักษาไม่หาย” แต่ในที่สุดวิวัฒนาการในการรักษาโรคหืดในไทย ได้ก้าวไปสู่แนวคิดใหม่จากเครือข่ายคลินิกโรคหืดและCOPD ที่ว่า “โรคหืดรักษาได้” โดยผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะสามารถใช้ชีวิตได้เช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป และประเทศไทยยังก้าวสู่อันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีมาตรฐานสูงในการรักษาโรคหอบหืดอย่างได้ผล
ล่าสุด เครือข่ายคลินิกโรคหืดและCOPD (EACC) ประกาศสร้างการรักษาเชิงรุกสู่ปี 2549 ในโอกาสที่ได้รับมอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค 50 เครื่องจาก บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีเอสเค ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร ทั่วประเทศ ในการดูแลรักษาโรคหืด โดยได้มีการมอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เมื่อเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ในพิธีมอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค ผศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานและผู้ก่อตั้งเครือข่ายคลินิกโรคหืดและ COPD (Easy Asthma Clinic and COPD – EACC) ได้ประกาศนำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับไปกระจายสู่โรงพยาบาลในเครือข่ายทั่วประเทศ ผ่านการประกวด EACC Excellence Awards 2005 ในงานประชุมใหญ่ประจำปีของเครือข่าย ในวันที่ 14 ธันวาคม ศกนี้ โดย คลินิกโรคหืดและ COPD 50 แห่งแรกที่ส่งผลงานหรือโครงการของคลินิกเข้าร่วมประกวด จะได้รับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค พร้อมการติดตั้งโปรแกรมการเก็บข้อมูลและประเมินผลการรักษากลับไปเสริมประสิทธิภาพคลินิกรับปี 2549 ทันที
“เราจะเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้กับทีมแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรมากยิ่งขึ้น ด้วยการลงโปรแกรมการบันทึกข้อมูลผู้ป่วยและการประเมินผลการรักษาในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คทั้งหมดนี้ อันจะทำให้ทีมรักษาผู้ป่วยโรคหืดสามารถทำงานได้อย่างสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น และทำได้ทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งการเข้าสู่อินเตอร์เน็ทเพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่แหล่งข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คนี้ ซึ่งทำให้การดำเนินการสมบูรณ์มากขึ้น เครือข่ายคลินิกโรคหืดและCOPD ขอขอบคุณจีเอสเค ที่ให้การสนับสนุน เราจะนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการรักษาผู้ป่วยโรคหืดและ COPDในประเทศไทย” ผศ.นพ.วัชรา กล่าว
ผศ.นพ. วัชรา กล่าวอีกด้วยว่า “โรคหืดสามารถรักษาได้ ผู้ป่วยจะสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและดำเนินชีวิตได้เหมือนคนปกติธรรมดา ขอเพียงเข้าใจแนวทางในการรักษาและดูแลตัวเอง ซึ่งการประชุมใหญ่ในวันที่ 14 ธันวาคม ศกนี้ เปิดโอกาสให้คลินิกในเครือข่ายคลินิกโรคหืดและCOPD ทั่วประเทศ ส่งแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร มาร่วมงานเพื่อเรียนรู้ถึงแนวทางการรักษาใหม่ ๆ ไปพร้อมกับแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางการรักษาระหว่างคลินิก อันจะช่วยให้พัฒนาการด้านการรักษาโรคหอบหืดและCOPDของไทยก้าวรุดหน้าไปยิ่งขึ้น ผมใคร่ขอเชิญชวนให้แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร จากโรงพยาบาลในเครือข่ายคลินิกโรคหืดและ COPD ทั่วประเทศได้เข้าร่วมงานกันให้มาก ๆ เพื่อสร้างก้าวสำคัญอีกครั้งให้กับการรักษาโรคหืดในไทยครับ นอกจากนี้แล้วผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวด EACC Excellence Award 2005 ยังจะได้รับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คกลับไปเสริมประสิทธิภาพให้กับโรงพยาบาล อีกด้วย”
ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหืดไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน และผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ปัจจัยที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรค นอกจากกรรมพันธุ์ สิ่งกระตุ้นต่างๆ และสภาวะแวดล้อมแล้ว บุหรี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้สูบบุหรี่เอง รวมทั้งผู้ใกล้ชิด (secondhand smoker) เกิดอาการได้ และที่สำคัญ บุหรี่ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง Chronic Obstructive Pulmonary Disease (COPD) ซึ่งเป็นโรคที่กำลังก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของสาเหตุการเสียชีวิตของคนทั่วโลก !
ทั้งนี้ โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย สามารถยื่นความจำนงขอเข้าร่วมโครงการนี้ได้โดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยติดต่อไปที่เครือข่ายคลินิกโรคหืดและCOPD หรือที่เว็บไซด์ http://eac.mykku.net