รายงานฉบับใหม่ของสมาคมนิวเคลียร์โลก (WNA) ซึ่งจะเปิดเผยการศึกษาวิจัยอิสระเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้สรุปว่าพลังงานนิวเคลียร์ได้กลายเป็นวิธีที่้ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดในการผลิตกระแสไฟฟ้้าตามโรงงานผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่จำนวนมาก รายงานของ WNA ในหัวข้อ “เศรษฐศาสตร์ใหม่ของพลังงานนิวเคลียร์” ที่จัดเตรียมโดยทีมผู้เชี่ยวชาญภาคอุตสาหกรรมระหว่างประเทศนั้น ได้ให้ความสนใจกับต้นทุนทางเศรษฐกิจ และไม่ได้ให้น้ำหนักกับประเด็นอื่นอื่น ๆ เกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์แต่อย่างใด
นายจอห์น ริทช์ ผู้อำนวยการทั่วไปของ WNA กล่าวว่า “ในช่วงนี้ของการขยายตัวด้านนิวเคลียร์ นี่เป็นการวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับต้นทุนของการก่อสร้่างและดำเนินงานโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ในศตวรรษที่ 21 พลัีงงานนิวเคลียร์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางสำหรับคุณประโยชน์ในการลดมลภาวะจากฟอสซิืล, การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับใกล้เคียง 0%, ความมีเสถียรภาพด้านราคา และความมั่นคงด้านปริมาณพลังงาน ความคืบหน้าครั้งใหม่ที่น่าประทับใจก็คือในขณะนี้่คุณประโยชน์ดังกล่าวนับเป็นประโยชน์ที่ได้โดยไม่ต้องเสียค่่าใช้จ่าย เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์ได้กลายเป็นวิธีการผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีราคาถูกที่สุดในโลก”
“ความโดดเด่นของพลังงานนิวเคลียร์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านสิ่งแวดล้อมมีส่วนสำคัญ 2 ประการสำหรับนโยบายของรัฐบาล ประการแรก รัฐบาลควรจะสร้างความมั่นใจว่าการให้ใบอนุญาตด้านนิวเคลียร์และการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยไม่เพียงแต่เข้มงวดเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในการเอื้อประโยชน์ในการดำเนินการเตาปฏิกรณ์พลังงานที่ก้าวหน้าได้ในเวลาที่เหมาะสม ประการที่ 2 รัฐบาลควรกล้าที่จะกระตุ้นการปรับเปลี่ยนไปสู่ประเทศที่ใช้พลังงานที่สะอาด ซึ่งในกรณีของพลังงานนิวเคลียร์นั้น การตระหนักถึงแรงกระตุ้นระยะสั้นดังกล่าว จะเร่งการเปลี่ยนแปลงอันพึงประสงค์ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มในระยะยาว” นายริทช์กล่่าว
รายงานของ WNA ประกอบไปด้วยรายงานการศึกษาวิจัยล่าสุดขององค์กรที่ได้รับความเชื่อถือ เช่น สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์, สถาบัน Royal Academy of Engineering ของสหราชอาณาจักร, สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA), สำนักงานพลังงานนิวเคลียร์ของ OECD (NEA)
รายงานของ WNA ระบุว่า ศักยภาพในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของพลังงานนิวเคลียร์เป็นผลของการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในทุกด้านของเศรษฐกิจที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งก็คือ การก่อสร้าง การระดมทุน การดำเนินงาน และการจัดการของเสียและการรื้อถอน ปัจจัยที่ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงได้แก่การพัฒนาไปสู๋การออกแบบเตาปฏิกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ระยะเวลาการก่อสร้างที่ลดลง เทคนิคใหม่ในการสนับสนุนด้านเงินทุน เทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อัตราการใช้ประโยชน์จากเตาปฏิกรณ์มากขึ้น (เช่นปัจจัยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น) และอายุการใช้งานที่นานขึ้นของโรงงาน
รายงานของ WNA ตอกย้ำและยืนยันการเปรียบเทียบของ IEA-NEA ที่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่มีการรวบรวมก่อนการปรับตัวสูงขึ้นของราคาเชื้อเพลิงในช่วงที่่ผ่านมา ต้นทุนไฟฟ้าทั้งหมดสำหรับการสร้างและการดำเนินโรงไฟฟ้ามีการคำนวณที่อัตราดอกเบี้ย 2 ระดับ คือที่อัตราดอกเบี้ย 10% ต้นทุนช่วงกลางของการผลิตต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงคือนิวเคลียร์ที่ 4.0 เซนต์, ถ่านหินที่ 4.7 เซนต์ และก๊าซธรรมชาติที่ 5.1 เซนต์ ส่วนที่อัตราดอกเบี้ย 5% ต้นทุนช่วงกลางต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงจะลดลงเหลือนิวเคลียร์ 2.6 เซนต์, ถ่านหิน 3.7 เซนต์และก๊าซธรรมชาติ 4.3 เซนต์ ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทำให้สถานการณ์ดังกล่าวเอื้อหนุนให้มีการใช้ไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ต่อไป
สมาคมนิวเคลียร์โลกเป็นองค์กรระดับโลกที่ประกอบด้วยองค์กรต่างๆที่อยู่ในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ สำหรับรายงาน WNA มีการเปิดเผยในรูปแบบการพิมพ์และสามารถดาวน์โหลดได้จาก www.world-nuclear.org/economics.pdf สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ WNA ที่ +44 (0) 207 451 1520 สตีเฟ่น คิดด์ ([email protected]) หรือ เซิร์จ กอร์ลิน ([email protected])