Gold Decadence Fine Dine “The Divine Feast”

ด้วยเมนูอาหารที่คัดสรรและนำเข้ามาจากแหล่งสำคัญของโลก 3 ทวีป ทั้งทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และทวีปยุโรป เป็นเมนูที่สร้างสรรค์จากส่วนผสมที่หาได้เฉพาะฤดูกาลนี้เท่านั้น จากความพิเศษที่ไม่ใช่แค่รสชาติแต่เกิดขึ้นจากความพิถีพิถันตั้งแต่วิธีการคัดสรรวัตถุดิบด้วยความประณีตของกระบวนการเลือกสรรจนถึงกระบวนการปรุงรสจากเชฟฝีมือเยี่ยมที่มีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวเพื่อให้เป็นเมนูอาหารชั้นเลิศตอบรับไลฟ์สไตล์แห่งความหรูหราได้อย่างไม่มีที่ติ

สถานที่ : ร้าน Le VenDome, All season Place M Thai Tower

วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548

ONE, TWO…THREE BITES

***

เริ่มต้นWelcome Drink กันด้วยเครื่องดื่มสร้างความสดชื่นชื่อว่า “Golden dream” ด้วยรสชาติอันนุ่มนวลของโกลด์ เลเบิ้ล ผสมผสานกับ Cr?me de Cacao และไลม์ เรียกความสดชื่นก่อนเข้าสู่เมนูอาหารชั้นเลิศได้เป็นอย่างดี

เริ่มต้นเมนูอาหารกันด้วย

หอยเชล “โอตาเตะ” เสิร์ฟกับถั่วแมคคาเดเมียบด และเห็ดทรัฟเฟิล ราดด้วยซอสดอกหญ้าฝรั่งจากอิหร่านและมันฝรั่ง ตามด้วยเครื่องดื่มชื่อว่า “Golden Cream” ผสมผสานด้วยโกลด์ เลเบิ้ลแบบเย็นจัดกับ Cr?me de Cacao ให้รสชาตินุ่มอมหวานบวกรสครีม เสิร์ฟในแก้วแชมเปญพร้อมน้ำแข็งเย็นจัด

หอยเชล “โอตาเตะ” ส่งตรงมาจากเกาะฮ็อคไกโด ในทางเหนือของประเทศญี่ปุ่น ในเกาะฮ็อคไกโดซึ่งมีทะเลที่ที่สามารถให้ผลผลิตอาหารทะเลเปี่ยมด้วยคุณภาพ การจับหอยเชลนี้จะสามารถจับได้ระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมเท่านั้น หอยเชลโอตาเตะไม่ได้ใช้วิธีการจับโดยหว่านแหแต่มีวิธีการที่พิเศษโดยชาวประมงจะดำน้ำลงไปที่มหาสมุทรอันเยือกเย็นเมื่อถึงจุดที่น้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศา เขาก็จะเก็บหอยเชลนี้ทีละตัวเพื่อป้องกันไม่ให้เปลือกของมันแตกออก

“พีทูน่า” สุดยอดปราเทราทจากทะเลแทสมาเนียน ปลาเทราทพีทูน่า จากทะเลแทสมาเนียน ทำให้สุกในอุณหภูมิ 42 องศา เสิร์ฟพร้อมกับคาเนโรนีไส้บลูร็อบสเตอร์และผักชีราดด้วยซอสบีทรูท

เสิร์ฟตามด้วยเครื่องดื่มรสชาติเข้มข้น ซาบซ่า ชื่อว่า “Golden Leaf” ผสมผสานจากโกลด์ เลเบิ้ล ใบโหระพา และจิงเจอร์ เอล
ปลาเทราทพีทูน่าเป็นปลาจากฟาร์มพีทูน่าซึ่งเป็นฟาร์มปลาฟาร์มเดียวในออสเตรเลียที่เลี้ยงปลาเทราทได้ตลอด 12 เดือน และเป็นศูนย์เพาะพันธุ์ปลาและจำหน่ายอาหารทะเลที่หลากหลายและใหญ่ที่สุดในเมืองแทสมาเนียเพราะมีพื้นที่ตั้งอยู่ในระดับสูงและมีภูมิอากาศที่เย็น มีพื้นน้ำที่ตื้นที่แม้แต่ปลาเทราทที่ตัวใหญ่ขนาดน้ำหนัก 8 ปอนด์ยังว่ายอยู่ในพื้นน้ำบริเวณนั้น โดยวิธีการตกปลาเทราทที่นี่จะตกในบริเวณน้ำที่นิ่งและตื้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ไม่เหมือนกับที่อื่นๆ อย่าง อเมริกา เป็นต้น นักตกปลามักจะพากันมาตกปลาในบริเวณนี้โดยแล่นเรือไปแถบแม่น้ำที่ตื้น โดยมีเทคนิคการตกปลาประจำท้องถิ่นที่เรียกว่า “polaroiding” สำหรับนักตกปลาจะต้องไม่ทำให้ปลาตกใจก่อนที่จะทำการตกด้วยความแม่นยำ เนื้อของปลาเทราทจากทะเลแทสมาเนียนมีรสชาติใกล้เคียงกับปลาแซลมอนแต่ค่อนข้างที่จะมีความนุ่มกว่า

อาหารจานหลัก

“ซี่โครงแกะรมควัน” ราดซอสใบกระวานและมะนาวเสิร์ฟกับมะเขือยาวและซอสกระเทียมหวาน ตามด้วยเครื่องดื่มสุดแฟชั่นสุดฮิตยุคเก่าชื่อว่า “Gold Classic” ด้วยรสชาติคลาสสิคที่เกิดจากการผสมผสานโกลด์ เลเบิ้ล และน้ำตาลผงเข้าด้วยกัน ให้รสชาติเข้ากันอย่างกลมกลืนกับเมนูอาหารจานหลักแกะมาจากทางเหนือของบริททานี่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์โดยมีพื้นที่ล้อมรอบด้วยทะเลแอตแลนติคและภูเขา ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงสัตวจำนวนมากที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งทางเหนือ โดยฟาร์มนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยสาหร่าย แกะที่นี่จะถูกเลี้ยงด้วยสาหร่าย ดังนั้นเนื้อของพวกมันจึงมีรสชาติเค็มอย่างธรรมชาติมากกว่าการนำเนื้อมาหมักกับซอสหรือเกลือทั่วไป

“ช็อคโกแลตทาร์ต” แต่งด้วยใบไม้สีทองเสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมไวท์ทรัฟเฟิล

ช็อคโกแลตทาร์ต ทำจาก Valrhona Guanaja เป็นช็อคโกแลตชั้นดีนำมาจากประเทศฝรั่งเศส Valrhona เป็นดาร์คช็อกโกแลต ซึ่ง 70%ของส่วนผสมทำจาก South American Criollo ซึ่งมีกลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ และถั่ว Trinatario cacao ซึ่งมีกลิ่นหอมสามารถนำมาผสมเข้าด้วยกันทำให้มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เป็นช็อคโกแลตที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆของไวน์และให้รสอร่อย ชื่อของมันเป็นชื่อเกาะ Guanaja ซึ่งโคลัมบัสค้นพบในการเดินทางไปอเมริกาของเขาเป็นครั้งที่ 4 เป็นช็อคโกแลตที่ทำจากถั่วที่เติบโตอยู่บนเกาะมีรสชาติกลมกล่อมของถั่ว กาแฟ และกลิ่นหอมของดอกไม้