ภาพยนตร์ เรื่อง “ผีเสื้อสมุทร” เรื่องราวของตำนานในวรรณคดีกับมุมมองของคนรุ่นใหม่ ที่นำเอา “ผีเสื้อสมุทร” มาสร้างในแนวแฟนตาซีที่ยืนบนพื้นฐานของหนังไทย โดยนำเอาเทคนิคด้าน CG (Computer Graphic) เข้ามาเติมแต่งจินตนาการที่คิดไว้ ให้ตื่นเต้นน่าสนใจขึ้น โดยได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง ต้น – ชานนท์ สมฤทธิ์ โดยมี ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล นั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ ได้นักแสดงพระเอก – นางเอกสาวจอมอึด อย่าง ธันญ์ ธนากร และ ต้อง – ศุภัชญา รื่นเริง ทั้งคู่ต้องเจองานที่โหดที่สุดในชีวิตการแสดง เพราะทั้งฝึกว่ายน้ำ ดำน้ำลึก ตัวเปล่า แทบไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ แถมยังต้องแสดงแอ็คชั่น การแสดงใต้น้ำ, ลืมตาใต้น้ำ แบบนี้ไม่ยากจะเรียกว่าอะไรดี
ในโจทย์ของเรื่องนี้คือ ผีเสื้อสมุทร ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดถึงทะเล ฉากหรือสถานที่ถ่ายทำ จึงถูกกำหนดให้เป็นท้องทะเลที่มีภูมิทัศน์แปลกตา ที่คนส่วนใหญ่จะไม่เคยเห็นมาก่อน ทีมงานจึงต้องออกสำรวจท้องทะเลไทย ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน จนพบเกาะแห่งหนึ่งกลางอ่าวไทย ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั่นคือ เกาะพลวง เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในหมู่เกาะอ่างทอง ที่ถูกใช้เป็นฉากสำคัญของเรื่องนี้ แต่ปัญหาของการทำงานภาพยนตร์เรื่องนี้คือ เกาะที่เลือกใช้ ไม่มีที่พักอาศัย แถมอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ทำให้การถ่ายทำ ตลอด 1 เดือนของฉากนี้ ยากที่สุดงานหนึ่งที่ทีมงานประสบมาเลยทีเดียว
ทีมงานและนักแสดงทุกคน จะต้องพักบนฝั่ง ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง ดังนั้น ทุกคนจึงถูกเรียกกองฯ ตอนตี 3 เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปยังเกาะพลวง และใช้เวลาถ่ายทำตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นเท่านั้น หากทีมงานเผลอตัวเผลอใจสนุกไปกับงานจนเลยเวลา ก็จะต้องพบกับพายุแบบภาพยนตร์เรื่อง Perfect Storm ที่พัดหอบเอาคลื่นยักษ์ลูกมหึมา มาสร้างความสะพรึงให้กับทีมงานและนักแสดง จนสามารถพูดได้ว่า “เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน”
ต้น – ชานนท์ ผู้กำกับฯ เล่าถึงการทำงานสุดโหดในครั้งนี้ว่า “ในฉากเกาะผีเสื้อ ที่เราใช้เกาะพลวย เป็นสถานที่ถ่ายทำ เพราะเกาะนี้มีมุมภาพที่สวยงามและแปลกตามาก มีก้อนหินตั้งอยู่กลางน้ำ มองไปไกลๆ จะเห็นหมู่เกาะอยู่ลิบๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม สมกับที่เราบุกตะลุยกันมาถึงเกาะกลางทะเล เราก็ต้องลงทุนไปฝังเสาตั้งแพลทฟอร์มสำหรับตั้งเครนและกล้องถ่ายกันในทะเล ซึ่งมันยากลำบากกว่าการทำบนพื้นธรรมดามากๆ เพราะทีมงานต้องขนเหล็กทั้งหมดลงไปฝังใต้ทะเล แล้วต้องฝังลงไปลึกมากๆ เราต้องการเซฟความปลอดภัยสุดๆ เพราะเราต้องไปใช้ชีวิตอยู่บนนั้นไม่ใช่วันเดียวแต่เป็นตลอดการถ่ายทำฉากกลางทะเลร่วม 1 เดือน แล้วเหตุการณ์โหดๆ ของการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะเราต้องเดินทางระหว่างหมู่เกาะอ่างทองกับฝั่งสุราษฏร์ธานีทุกวัน เพราะบนเกาะไม่มีที่พัก มีอยู่คืนหนึ่งถ่ายทำกันเสร็จดึกกว่าปกติ ขณะอยู่บนเรือลอยอยู่กลางทะเล ลำพังแต่ไฟจาก สปี๊ดโบ๊ทมันมองอะไรไม่ค่อยจะเห็นอยู่แล้ว พายุก็กำลังจะมา แล้วใบพัดเรือเจ้ากรรมก็ดันมาขาด คือหลุดออกไปจากตัวเรือเลย เราก็เลยไปไหนไม่ได้ ติดอยู่กลางหมู่เกาะอ่างทองกัน 4 ชั่วโมงเรือจอดแน่นิ่งไปไหนไม่ได้ ทุกคนเงียบกริบไม่มีใครพูดกับใครเลย เพราะเสียงพายุดังมาก ซึ่งพี่เชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองเรา จึงเกิดเห็นการณ์นี้ขึ้น ถ้าหากว่าเรือเราไม่มีปัญหาแล้วออกไป หวิดตายเลยนะ เพราะข้างนอกนี้พายุพัดกระหน่ำเลย พอพายุสงบลงเราถึงวิทยุไปเรียกเรือจากชายฝั่งให้มาลากเรือของทีมงานและนักแสดงกลับไป ยอมรับว่าการทำงานเรื่องนี้เราทุ่มเทมากถึงกับต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงกันขนาดนี้เลย และพระ-นางของเรา ธันญ์กับต้องอึดมากๆ ยกนิ้วให้เลย”
ขณะนี้ “ผีเสื้อสมุทร” ภาพยนตร์คุณภาพ จากอาร์.เอส.ฟิล์ม กำลังอยู่ในระหว่างการตัดต่อ และพร้อมฉายทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 2 กุมภาพันธ์ นี้