โรงแรมบุราส่าหรี ป่าตอง ตอกย้ำความสำเร็จสูงสุดจากการฟื้นตัว หลังประสบภัยสึนามิ ด้วยการเพิ่มเงินลงทุนอีกกว่า 350 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการขยายพื้นที่การให้บริการในส่วนของโรงแรมบุราส่าหรี ป่าตอง ซึ่งเป็นโครงการเดิม ให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ที่จะหลั่งไหลเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตในปี 49 พร้อมรุกตลาดโรงแรม รูปแบบใหม่ ย่านใจกลางเยาวราชศูนย์กลางพานิชย์เก่าแก่ที่มีมีศักยภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
จากการเปิดเผยของนางสาวลิลลี่ อุดมคุณธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัทภูเก็ต รีสอร์ท คลับ จำกัด ผู้บริหารงานโรงแรมบุราส่าหรี ป่าตอง ถึงการขยายการลงทุนในช่วงต้นปี 49 ว่า “ หลังจากที่โรงแรมได้ปรับพื้นที่ให้สามารถเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็วหลังประสบภัยสึนามิ และนับเป็นรายแรกที่ร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวต่าง ๆ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เริ่มทะยอยกลับมาเที่ยวในแถบทะเลอันดามันอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้พื้นที่ในการให้บริการที่โรงแรมมีอยู่ไม่เพียงพอ อีกทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาพัก ให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดตาม Concept ของโรงแรม ที่เน้นให้การบริการแก่ลูกค้าเสมือนเป็นบ้านแห่งที่ 2 ที่ให้ความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยบริษัทใช้งบในการปรับขยายพื้นที่ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2.5 ไร่ และตกแต่งในส่วนของโรงแรมบุราส่าหรี ป่าตองทั้งสิ้นประมาณ 300 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี นอกจากการขยายพื้นที่ในครั้งนี้ จะทำให้โรงแรมได้ห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 97 ห้องจากเดิม 90 ห้อง รวมเป็น 187 ห้องแล้ว โรงแรมยังได้จัดพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในส่วนต่างๆ เพิ่มเติมขึ้นอีก อาทิ พื้นที่สีเขียวที่ให้ความร่มรื่นตั้งแต่หน้าโรงแรมในบรรยากาศ Walking Street พื้นที่การให้บริการพักผ่อนในบรรยากาศของสปาที่เป็นส่วนตัว ห้องประชุมย่อย และส่วนของภัคตาคารที่ได้ลิขสิทธ์ชื่อจาก“ Keith Floyd ” เชฟชื่อดังชาวอังกฤษ เจ้าของรายการทีวีเกี่ยวกับการสอนทำอาหารที่มีเรตติ้งสูงสุดถึง 23 รายการ จากผู้ชมกว่า 4 ล้านคน ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลกและเป็นเจ้าของหนังสือสอนทำอาหารขายดีติดอันดับโลกถึง 26 เล่มด้วยกัน และนับเป็นภัคตาคารที่ได้ลิขสิทธิ์เมนูอาหารและชื่อ “Floyd” มาเปิดให้บริการเป็นแห่งแรกในเอเซียด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ บริษัทจะเริ่มทะยอยปรับพื้นที่ตั้งแต่เดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ครบทุกส่วนทันช่วงเทศกาลการท่องเที่ยวในเดือนเมษายนของปี 2549”
นอกจากนี้คุณลิลลี่ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงโครงการ “หอมหมื่นลี้” ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 50 ล้านบาทไม่รวมราคาที่ดิน ที่พร้อมจะเริ่มเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการได้ในเร็ว ๆ นี้ว่า “โครงการหอมหมื่นลี้ นับเป็นโครงการที่บริษัทได้พื้นที่ ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนถนนเยาวราช หรือ China Town เมืองไทย ในลักษณะอาคารสูง 6 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอยประมาณ ..6,000.00…ตร.เมตร โดยจัดวางรูปแบบของโรงแรมเป็นโรงแรมแบบประยุกต์ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การจัดวางตำแหน่งการใช้พื้นที่ใช้สอยในส่วนต่าง ๆ กับการบริการ ให้สอดคล้องกับรูปแบบการตกแต่งของตัวอาคาร ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ที่ให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ของศิลปะ วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ในเขตการค้า การพาณิชย์ที่เก่าแก่ ของคนจีนร่วมสมัย ผสมผสานกับการตกแต่งภายในอาคารในรูปแบบจีนเซี่ยงไฮ้ สมัยใหม่ โดยจัดแบ่งพื้นที่เป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้ คือ
ส่วนของ ซุปเปอร์มาร์เก็ตในบริเวณชั้น 1 ซึ่งเราได้ TOP Supermarket เข้ามาบริหารพื้นที่ ส่วนชั้น 2 และ 3 นั้น นอกจากจะประกอบไปด้วย ภัคตาคารอาหารชั้นนำ 4 แห่งมาเปิดให้บริการในโครงการ อาทิ อาหารสไตล์ Shabu Shabu โดยครัวเจ๊ง้อ ,ห้องอาหารญี่ปุ่นTohkai สุกี้เห็ดฮ่องเต้ และติ่มซำ โดยร้านทั้งหมดจะ นำรูปแบบอาหาร และการให้บริการในแบบฉบับเฉพาะตัว มารวมไว้ตามแนวคิดแบบ “สุดยอดอาหารชั้นเซียน” แล้ว เรายังจัดมุมเพื่อสุขภาพที่นำการบริการนวดในแบบฉบับของเมือง “กวางเจา” จากเมืองจีนมาให้บริการด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ ”
นอกจากนี้ ในส่วนของโรงแรม Shanghai Inn ที่อยู่ในบริเวณชั้น 4 และ 5 จำนวน 55 ห้อง ในราคาเฉลี่ยประมาณ 1800 บาท ต่อคืน นั้น คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่เข้ามาติดต่อค้าขายในเยาวราชเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันมียอดจองแล้วประมาณ 65 % และจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ พร้อมกับพื้นที่เพื่อสุขภาพหรือ Fitness Center ในบริเวณชั้น 6 ในราวปลายเดือนมกราคม 49 นี้ ” คุณลิลลี่กล่าวสรุป
สำหรับ “โครงการหอมหมื่นลี้” ที่กลุ่มผู้บริหารโรงแรมบุราส่าหรีเข้ามาลงทุน และบริหารงานในครั้งนี้ นับเป็นโครงการแรกในกรุงเทพ ของกลุ่ม และคาดว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้น การท่องเที่ยวในเขตเมืองเก่า และรอบเกาะรัตนโกสินทร์ รวมถึงการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาทิวทัศน์ของอาคารพาณิชย์ เพื่อการค้าบนถนนเยาวราช หรือที่เรียกกันว่าร“ถนนสายทองคำ” ให้มีความสวยงาม และพัฒนาอย่างมีศักยภาพเพิ่มขึ้นต่อไปด้วย-5095