นางสาวอัจฉรา สุทธิศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายในการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการจัดสรรเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร มีความมั่นคง และมีความเสี่ยงต่ำ ลูกค้าไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนเกิน โดยในช่วงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2549 บริษัทได้เสนอขายหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร 7 คุ้มครองเงินต้น (MAX PPB7) จำนวนเงินทุน 1,000 ล้านบาท มูลค่าต่อหน่วย 10 บาท ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ระยะเวลาการลงทุนประมาณ 1 ปี นับจากวันที่จดทะเบียนทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม ซึ่งบริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเป็นรายไตรมาส โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบก่อนวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติไม่น้อยกว่า 7 วันทำการ และเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจะดำเนินการคืนเงินลงทุนพร้อมผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนโดยหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อคืนเงินที่เหลือให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนจำนวนหน่วยลงทุนที่ถือต่อจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
สำหรับนโยบายในการลงทุนของกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร 7 คุ้มครองเงินต้น จะเลือกลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออกหรือผู้ค้ำประกัน สัดส่วนการลงทุนเฉลี่ยรอบระยะเวลาบัญชีตลอดอายุโครงการไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ตราสารแห่งหนี้ที่รัฐวิสาหกิจ ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสาขาของธนาคารต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใน 4 อันดับแรก จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ/หรือธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) ซึ่งเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทฯ จะดำเนินการคืนเงินลงทุนพร้อมผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยกำไรที่ได้ไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดา
ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บมจ. นครหลวงไทย