She’s The Ma

วิโอล่า ฮาสติ้งส์ (อแมนด้า ไบน์ส) ตัดสินใจที่จะพิสูจน์ว่าเธอมีความสามารถในการสร้างทีมฟุตบอลชายของโรงเรียนไฮสคูล เธอปลอมตัวเป็นน้องชายของตัวเอง ที่ชื่อ เซบาสเตียน (เจมส์ เคิร์ก) และเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมแห่งใหม่ของเขา ในผลงานตลกร่วมสมัยโดยรับอิทธิพลจากผลงานตลกตลอดกาลของเช็คสเปียร์ส ที่ชื่อ Twelfth Night

วิโอล่า ฮาสติ้งส์ (อแมนด้า) นักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนไฮสคูล ทราบข่าวว่าทีมนักเรียนหญิงได้ถูกยุบ เธอไม่สามารถทำให้โค้ชทีมนักเรียนชาย หรือเพื่อนนักนักบอลชายของเธอ (โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน) เชื่อได้ว่าเธอมีดีพอที่จะเข้าร่วมทีมนักเรียนชายได้ เมื่อน้องชายฝาแฝดของเธอที่ชื่อ เซบาสเตียน (เจมส์ เคิร์ก) โทรจากลอนดอนเพื่อบอกว่าเขาไม่สามารถกลับมาทันเปิดเทอมโรงเรียนของเขาที่ชื่อ Illyria Prep ได้ วิโอล่าจึงตัดสินใจว่านี่คือโอกาสของเธอเพื่อร่วมทีมนักเรียนชาย ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนช่างศิลป์ (โจนาธาน ซาดาวสกี้) เธอเปลี่ยนตัวเองเป็นเซบาสเตียน มุ่งหน้าไปยังโรงเรียนของเขาเพื่อเข้าร่วมทีมฟุตบอล แต่การปลอมเป็นผู้ชายกลับยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าที่วิโอล่าคาดคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเริ่มมีความรู้สึกกับเพื่อนร่วมห้อง ที่ชื่อ ดุ๊ค (แชนนิ่ง ทาทัม) ซึ่งแอบปิ๊งสาวสวยที่ชื่อ โอลิเวีย (ลอร่า รัมซี่ย์) มานานแต่กลับกลายเป็นว่า โอลิเวียสนใจในตัวเด็กใหม่ นามว่า เซบาสเตียน ทันทีที่เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้ใกล้สาวความลับของวิโอล่า เซบาสเตียนตัวจริงก็เดินทางมาถึง โดยการสร้างฉากไคลแม็กซ์สุดขำของเรื่องนี้ โดยได้อิทธิพลจากผลงานตลกตลอดกาลของเช็คสเปียร์ส เรื่อง Twelfth Night

อแมนด้า ไบน์ส (What A Girl Want, ผลงานทีวี เรื่อง What I Like About You) ซึ่งรับบท วิโอล่า นำทีมนักแสดงซึ่งรวมถึง แชนนิ่ง ทาทัม (Coach Carter) ลอร่า รัมซี่ย์ (Lords Of Dogtown) โจนาธาน ซาดาวสกี้ (ผลงานทีวี เรื่อง American Dreams) โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน (You Got Served, รายการของเอ็มทีวี ที่ชื่อ Wild ‘N Out) เจมส์ สไนเดอร์ (Pretty Persuasion) อเล็กซ์ เบรกเค่นริดจ์ (Romy & Michele: In The Beginning) อแมนด้า ครูว์ (Final Destination 3) เจสซิก้า ลูคัส (ผลงานทีวี เรื่อง Life As We Know It) เจมส์ เคิร์ก (X2: X-Men United) และเอมิลี่ เพอร์กิ้นส์ (ผลงานภาคต่อ Ginger Snaps) นอกจากนั้น ยังได้แก่ นักแสดงที่ผันตัวเองมาจากนักฟุตบอล อย่าง วินนี่ย์ โจนส์ (Swordfish, Gone In Sixty Seconds) โรเบิร์ต ทอร์ติ (ผลงานของโชว์ไทม์ เรื่อง Reefer Madness: The Movie Musical) จูลี่ ฮาเกอร์ตี้ (Just Friends, Airplane) และเดวิด ครอส (Eternal Sunshine Of The Spotless Mind, ผลงานซีรีส์เรื่อง Arrested Development)

ผลงานตลกร่วมสมัยเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของวิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ที่ชื่อ Twelfth Night ซึ่งกำกับโดย แอนดี้ ฟิคแมน (ผลงานของโชว์ไทม์ เรื่อง Reefer Madness: The Movie Musical) อำนวยการสร้างโดย ลอเรน ชูเลอร์ ดอนเนอร์ (ผลงานภาคต่อ X-Men) และอีวาน เลสลี่ บทภาพยนตร์เขียนโดย อีวาน เลสลี่, คาเรน แม็คคัลล่าห์ และคริสเต็น สมิธ (Legally Blonde, 10 Things I Hate About You) จากเรื่องราวของ เลสลี่ ส่วนทอม โรเซ็นเบิร์ก, แกรี่ ลุคเชสซี่ และมาร์ตี้ อีวิงทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร

ทีมงานผู้ร่วมงานกับฟิคแมนเบื้องหลังฉาก ได้แก่ ผู้กำกับภาพ เกรกอรี่ การ์ดิเนอร์ (Herbie: Fully Loaded, Elf) เดวิด เจ บอมบา ทำหน้าที่โปรดักชั่น ดีไซน์เนอร์ (Walk The Line, Secondhand Lions) ไมเคิล จาโบล ทำหน้าที่ตัดต่อ (Old School, 61) ออกแบบเสื้อผ้า โดย คาเทีย สตาโน่ (We Don’t Live Here Anymore) และคนแต่งเพลงประกอบ นาธาน แวง (Reefer Madness: The Movie Musical)

จัดจำหน่ายในอเมริกาโดย ดรีมเวิร์คส และทั่วโลก โดย เลคชอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งร่วมสร้างโดย ดรีม เวิร์คส พิคเจอร์ส และเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์

เกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์

เกมเริ่มต้น

พูดได้ว่าเช็คสเปียร์ไม่เคยนึกมาก่อนว่าผลงานละครตลกของเขาที่ชื่อ Twelfth Night จะถูกจัดให้อยู่ในบรรยากาศของกีฬาฟุตบอลในไฮสคูล แต่นักเขียน-ผู้อำนวยการสร้าง อีวาน เลสลี่ ซึ่งเป็นแฟนคนหนึ่งของเช็คสเปียร์ ได้บอกเล่าเรื่องราวรักสามเส้า ซึ่งเกี่ยวกับการปลอมตัวจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเรื่อง She’s The Man เขาเล่าให้ฟังว่า “ผมอยู่ที่ลอนดอนเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว และได้ดูผลงานของแซม เมนเดส เรื่อง Twelfth Night ผมเคยอ่านบทละครและได้ดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์ แต่เมื่อได้ดูผลงานของแซมแล้ว มันก็เลยก่อให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ผมเคยดูหนังสำหรับผู้ชมปัจจุบัน อย่างเช่น Clueless และ 10 Things I Hate About You ดูเหมือนว่าเรื่องราวเหล่านั้นได้ถูกส่งผ่านกาลเวลา เรื่องราวหลักยังคงมีอยู่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือเกิดขึ้นที่ไหน สิ่งที่พวกเราทำกันจะเกี่ยวกับรักสามเส้าระหว่างวิโอล่า ดุ๊ค และโอลิเวีย และจับเข้ามาใส่ในไฮสคูลของอเมริกาสมัยปัจจุบัน”

เขายังอธิบายต่อว่า “เหตุผลหลักที่ผมเลือกให้เรื่องราวเกิดในไฮสคูล เพราะผมคิดว่าเป็นช่วงที่ดูยากว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง คุณรู้อะไรไหม ไม่ใช่เด็กผู้ชายทุกคนที่โกนหนวดเมื่ออายุ 16 หรือ 17 ปี” ในที่สุดเลสลี่ก็ได้ร่วมงานกับทีมนักเขียนบท อย่าง คาเรน แม็คคัลล่าห์ และคริสเต็น สมิธ เพื่อให้ได้สคริปต์ชิ้นสุดท้าย เขาบอกว่า “คาเรนและคริสเต็นเคยเขียนบทเรื่อง 10 Things I Hate About You ซึ่งนำเค้าโครงมาจากผลงานของเช็คสเปียร์ ที่ชื่อ The Taming Of The Shrew พวกเธอยังเคยเขียนบทให้เรื่อง Legally Blonde พวกเราก็เลยรู้ว่าพวกเธอต้องทำได้” เลสลี่ซึ่งเป็นประธานฝ่ายโปรดักชั่นในบริษัทของดอนเนอร์ ได้มอบสคริปต์ให้กับผู้อำนวยการสร้างลอเรน ชูเลอร์ ดอนเนอร์ พร้อมกับข่าวดีที่ว่า อแมนด้า ไบน์ส ดาราวัยรุ่นที่ฮอตสุดๆ สนใจที่จะรับบทนำ ชูเลอร์ ดอนเนอร์ย้อนให้ฟังว่า “เขาเอาสคริปต์ไปให้อแมนด้าด้วยตัวเอง แล้วเธอก็เซ็นสัญญา ฉันก็ว่าพูดว่า เยี่ยมเลย เราลุยกันเลย มันช่างเป็นโปรเจกต์ที่ง่ายที่สุดที่ฉันเคยทำงานมา”

ชูเลอร์บอกว่าได้เจอะเจอผู้กำกับหลายราย แต่แอนดี้ ฟิคแมนกลายเป็นตัวเลือกที่ชัดเจน “แอนดี้ทำให้ทุกคนในห้องประทับใจ อันดับแรก ผลงานของเขาที่ชื่อ Reefer Madness สร้างได้ยอดเยี่ยม เขายังเป็นคนสนุก ฉลาด และมีแนวคิดเจ๋งในการสร้างหนัง เขาไม่ใช่มีแค่ส่วนประกอบที่ดี แต่ยังมองเห็นจุดที่จะดึงดูดใจทั้งหญิงและชายได้ด้วย” ฟิคแมนได้เสนอว่า “ผมตอบรับสคริปต์ทันที เพราะมันทำให้ผมหัวเราะออกมา และเรื่อง Twelfth Night ก็เป็นหนึ่งในผลงานของเช็คสเปียร์ที่ผมชื่นชอบ นอกจากนั้น ผมยังชอบหนังหลายเรื่อง เช่น Tootsie, Mrs.Doubtfire และ Victor/Victoria นี่แหละเป็นโอกาสที่ผมจะสนุกกับหนังแนวนี้”

ผู้กำกับยังเสริมอีกว่าการรู้ว่าอแมนด้า ไบน์สได้รับเลือกให้รับบท วิโอล่า ถือเป็นข้อดีอีกข้อหนึ่ง “ผมมีลูกชายวัย 8 ขวบ ผมก็เลยได้ดูอแมนด้าทางช่องนิคเคลโลเดี้ยน และได้กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเธอ เมื่อผมได้พบเธอในตอนต้น พวกเราก็เข้ากันได้ในทันที”

ทีมผู้เล่น

อแมนด้า ไบน์สเข้าร่วมในหนัง She’s The Man ตั้งแต่ต้น เธอมองเห็นแก่นของเรื่องและตัวละครต่างๆ เธอกล่าวว่า “ฉันชอบความคิดที่จะสร้างเวอร์ชั่นสมัยใหม่ของ Twelfth Night โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับบทบาทตัวละคร 2 ตัว โดยที่ตัวหนึ่งต้องเป็นเด็กผู้ชาย ค่อนข้างจะไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้ทำอย่างนั้น จริงๆแล้ว เรื่อง Tootsie เป็นหนึ่งในหนังโปรดของฉัน แม้แต่สุนัขยังตั้งชื่อว่า Tootsie ดังนั้นโอกาสที่จะได้แสดงบทบาทนั้นๆ ก็เลยน่าตื่นเต้น บทเขียนไว้อย่างดี และฉันก็ชอบแอนดี้ ฟิคแมน ฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้” ชูเลอร์ ดอนเนอร์เล่าให้ฟังว่า “อแมนด้าเป็นนักแสดงที่เก่ง และมีพรสวรรค์ในด้านตลก คุณจะเชื่อว่าเธอเป็น ไม่ว่าเธอจะรับบทไหน เธอแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม เธอช่างน่าทึ่งจริงๆ”

เมื่อได้ไบน์สรับบทวิโอล่า ทีมผู้สร้างหนังได้นำนักแสดงหน้าใหม่หลายคนเข้ามาร่วมงาน พวกเขาได้ค้นพบ แชนนิ่ง ทาทัม นักแสดงหนุ่มซึ่งอาชีพกำลังรุ่ง ทาทัมรับบทเป็นคนรักของวิโอล่า ที่ชื่อ ดุ๊ค ออสิโน่ ทาทัมบอกว่าบทบาทนักกีฬาเป็นตัวดึงให้เขาเข้าร่วมในหนัง “ผมชอบบทบาทที่ต้องออกกำลัง เพราะมันช่วยให้คุณได้ทำในสิ่งที่นอกเหนือจากสคริปต์ ช่วยให้ได้สวมเป็นตัวละคร” ชูเลอร์ ดอนเนอร์ยังเสริมอีกว่า “มีบางอย่างที่เหนือความคาดคิดในตัวแชนนิ่ง ซึ่งสมบูรณ์แบบสำหรับบทดุ๊ค เพราะเขาเป็นคนที่ดูแข็งแรง แต่ค่อนข้างอารมณ์อ่อนไหว” ในฐานะเด็กหญิงที่ปลอมเป็นเด็กชาย วิโอล่าถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถเห็นด้านอ่อนไหวของตัวดุ๊ค เมื่อเธอได้อยู่ห้องเดียวกับเขา ดุ๊คคิดว่ากำลังเล่าความลับให้เซบาสเตียนฟัง เขาก็เลยเปิดเผยความรู้สึกที่เขามีต่อโอลิเวีย ปัญหาก็คือว่า ยิ่งดุ๊คพูดถึงโอลิเวีย วิโอล่าก็ยิ่งรู้สึกตัวว่าเธอตกหลุมรักดุ๊คเข้าแล้ว

อแมนด้ายอมรับว่าการตกหลุมรักแชนนิ่งที่รับบทดุ๊คช่างเป็นการแสดงที่ท้าทาย เธอเล่าอย่างยิ้มๆว่า “มันเป็นเรื่องยากที่ต้องแกล้งทำเป็นชอบแชนนิ่ง เขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่หวานสุดๆ เขาเป็นคนที่ทำงานสนุกและน่าอยู่ใกล้ มันก็เลยง่ายที่จะแกล้งทำเป็นว่าปิ๊งเขา ฉันรู้ว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนกันอีกนาน” ทาทัมเล่าบ้าง “ผมชอบอแมนด้ามากๆ เธอเป็นสิ่งที่น่าบูชาที่สุดที่คุณนึกได้ สนุกสนานมากที่ได้อยู่ในฉากกับเธอ”

ดุ๊ดขอให้วิโอล่า ที่ถูกคิดว่าเป็นเซบาสเตียน ช่วยเหลือเขาเพื่อให้ได้ออกเดทกับโอลิเวีย ซึ่งเป็นเรื่องที่วิโอล่าอยากจะทำเป็นสิ่งสุดท้าย ยิ่งเซบาสเตียน หรือวิโอล่า คุยกับโอลิเวียเกี่ยวกับดุ๊คโอลิเวียก็ยิ่งกลับชอบ เซบาสเตียนมากขึ้นซึ่งเธอคิดว่าเป็นคนแรกที่เธอจะจริงจังด้วย ลอร่า รัมซีย์ ซึ่งรับบทโอลิเวีย กล่าวว่า “เซบาสเตียนและโอลิเวียได้ติดต่อกัน โอลิเวียก็เลยตกหลุมรักเซบาสเตียน แต่จริงๆแล้ววิโอล่าปลอมตัวเป็นพี่ชายของเธอ ฉันอยากจะบอกว่า อแมนด้าดูดีในบทผู้ชาย ฉันมองออกว่าทำไมโอลิเวียถึงชอบเธอ ฉันหมายถึงเขา” เลสลี่พูดบ้างว่า “บทโอลิเวียเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักในการคัดนักแสดง เพราะเธออยู่อีกด้านของรักสามเส้า คุณต้องเชื่อว่าดุ๊คหลงใหลหญิงคนนี้ และเธอสามารถตกหลุมรักวิโอล่าในบทผู้ชาย ลอร่า รัมซีย์เป็นคนที่เหมาะสม เพราะเธอสวย และเข้ากันได้ดีกับอแมนด้า พวกเราต้องการใครก็ได้ที่ช่วยให้อแมนด้ารับบทเด็กผู้ชายได้อย่างน่าเชื่อถือ

”เซบาสเตียนตัวจริงรับบทโดย เจมส์ เคิร์ก ซึ่งบอกว่าตัวละครที่เขาแสดงกับวิโอล่ามีอะไรเหมือนกันมากกว่าแค่วันเกิด”วิโอล่า และเซบาสเตียนคิดตรงข้ามกันหลายๆเรื่อง แต่เขาและเธอมีแรงปรารถนาในสิ่งที่ต้องการเหมือนๆกัน เขาและเธอจะทำตามฝันไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน สำหรับวิโอล่า ก็คือ ฟุตบอล สำหรับเซบาสเตียน ก็คือดนตรี เขาจึงตัดสินใจไปลอนดอนเพื่อสานฝันของเขา” วิโอล่าตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเล่นฟุตบอล เมื่อโรงเรียนของเธอเองตัดทีมนักฟุตบอลหญิงทิ้ง และโค้ชทีมนักเรียนชายปฏิเสธให้เธอเข้าร่วมทีมของเขา เธอเลยวางแผนที่จะสวมรอยเซบาสเตียน และช่วยให้ทีมโรงเรียน Illyria ของพวกเขาเอาชนะโรงเรียนคู่แข่งที่ชื่อ Cornwall ได้ สำหรับวิโอล่า มันเป็นเรื่องความภาคภูมิใจ

โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมนซึ่งรับบทจัสติน แฟนเก่าของวิโอล่า อธิบายให้ฟังว่า “จัสตินบอกกับวิโอล่าว่าเธอเก่งกว่าผู้ชายในทีมของเขา แต่เมื่อเธอประจัญหน้ากับเขาต่อหน้าเพื่อนร่วมทีม จัสตินไม่ค่อยมั่นใจ เขาหักหลังเธอและปฏิเสธอว่าเคยพูดเช่นนั้น แน่นอนเธอโกรธมาก จัสตินพูดว่า “เด็กผู้หญิงไม่มีทางเล่นกับเด็กผู้ชายได้” แต่จริงๆแล้วเขารู้ว่าเธอเก่ง เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงอยู่เหนือเขา” เพื่อแปลงตัวเองเป็นเซบาสเตียน วิโอล่าขอความช่วยเหลือจาก พอล ซึ่งเป็นช่างผมที่ร้านซาลอน โจนาธาน ซาดาวสกี้กล่าวว่า “พอลเป็นคนที่วิโอล่าต้องไปหา เขาเป็นคนเดียวที่เธอจะขอความช่วยเหลือและคำแนะนำ” อุปสรรคชิ้นใหญ่ในการที่วิโอล่าจะสวมรอยเป็นเซบาสเตียน คือ โมนิค เธอเป็นแฟนของเซบาสเตียน ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าเขาอยู่ในลอนดอนกับวงดนตรีของเขา เลยทำให้พี่น้องฝาแฝดปลอมตัวเป็นเขา ความรักยังไม่สูญเสียไปไหนระหว่างวิโอล่า และโมนิค ซึ่งรับบทโดย อเล็กซ์ เบร็คเคนริดจ์ เธอให้ความเห็นไว้ว่า “ไม่มีใครชอบโมนิค เธอคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเธอ ทุกๆคนต้องสยบแท้เท้าเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซบาสเตียน ฉันคิดว่าเธอไปเที่ยวกับเขาเพราะเขาน่ารักและอยู่ในวงดนตรี และเธอสามารถใช้เขาได้ ช่างเป็นตัวละครที่เล่นได้สนุก เพราะเธอเป็นตัวละครที่ตรงข้ามกับตัวฉันเองโดยสิ้นเชิง”

นักแสดงวัยรุ่นคนอื่นๆ ได้แก่ เจมส์ สไนเดอร์ ในบทมัลคอล์ม ซึ่งก็ชอบโอลิเวีย, อแมนด้า ครูว์ และเจสซิก้า ลูกัส ซึ่งรับบทเป็นเพื่อนของวิโอล่าที่ชื่อ เกีย และยวอนนี่, คลิฟตัน เมอร์เรย์ และแบรนดอน เจย์ แม็คลาเรน ซึ่งรับบทเป็นเพื่อนร่วมทีมของดุ๊ค และเอมิลี่ เพอร์กิ้นส์ ซึ่งเกือบทำให้แฟนๆของเธอจากเรื่อง Ginger Snaps จำไม่ได้ โดยรับบทยูนีซ เลสลี่กล่าวว่า “พวกเราเป็นแฟนประจำของซีรีส์ Arrested Development และ Mr.Snow พวกเราเลยรู้สึกตื่นเต้นที่เดวิดต้องการรับบท ครูใหญ่โกล์ด เขาไม่ใช่แค่แสดงตามบท แต่เป็นเพราะการเล่นสดของเขาช่วยยกระดับตัวละครไปสู่อีกขั้น”

ฟิคแมนกล่าวเสริมอีกว่า “เดวิดเป็นคนที่เคารพบทภาพยนตร์ เขาจึงต้องแสดงเทคแรกตามบท จากนั้นเขาจะมอบการแสดงที่แตกต่างไปในแต่ละเทค ผมชอบวิธีของเขานะ พวกเรายังเป็นแฟนตัวยงของจูลี่ ฮาเกอร์ตี้ หนังเรื่อง Lost In America และ Airplance เป็นหนังตลก 2 เรื่องในบรรดาหนังตลกตลอดกาลของผม พวกเด็กๆเทิดทูนการได้ร่วมงานกับทั้ง 2 คน” โรเบิร์ต ทอร์ติ ซึ่งเคยร่วมงานกับฟิคแมนในเรื่อง Reefer Madness: The Movie Musical ได้รับบทโค้ชพิสตอเน็ก จากโรงเรียนคู่แข่ง ส่วนวินนี่ โจนส์ ได้รับบทโค้ช คิงค์เลจของโรงเรียน Illyria

ฟิคแมนบอกว่าตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญไปถึงหน้าใหม่ และวัยรุ่นจนถึงคนที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 “ผมชอบความจริงที่ว่า สักวันหนี่ง บรรดานักแสดงจะปรากฎตัวแม้จะไม่ใช่ฉากของพวกเขา นักแสดงเหล่านี้มีโอกาสมากมายที่จะไปเที่ยวเล่นเวลาที่ไม่ต้องเข้าฉาก แต่เมื่อผมมองไปรอบๆทุกๆวัน ผมเห็นพวกเขา เพราะมันเป็นช่วงอาหารเที่ยง…” บรรดาผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงมอบเครดิตทั้งหมดให้กับฟิคแมนในการสร้างบรรยากาศสนุก ครอบครัวในฉาก อีวาน เลสลี่บอกว่า “สิ่งแรกเลย เขามีพลังงานล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นตี 5 หรือช่วงสิ้นสุดของวัน เขาพร้อมที่จะลุย เขาทำให้เกิดฉากในแง่ดี ทุกๆคนเลยรักและเคารพเขา”

ชูเลอร์ ดอนเนอร์เสริมให้ฟังว่า “นี่เป็นหนังที่สนุกที่สุดที่เคยอำนวยการสร้างมา แอนดี้เป็นคนที่สนุกในสิ่งที่ทำ ความสนุกเพลิดเพลินนั้นเลยส่งต่อมาถึงทีมงาน นักแสดงและสมาชิกทุกๆคน” “แอนดี้สุดยอด” อแมนด้า ไบนส์ เสริม “เขาอยู่ที่นั่นเพื่อทุกคน ไม่ใช่ทุกวันที่คุณจะได้เจอผู้กำกับที่อารมณ์ดีตลอดเวลา พวกเราได้สนุกร่วมกัน ฉันไม่อยากให้การถ่ายทำจบลงเลย”

เพื่อนำไปสู่ความสนุก ฟิคแมนให้นักแสดงทุกคนซ้อมกัน 2 อาทิตย์ก่อนหน้าการถ่ายทำ เจมส์ เคิร์ค ย้อนอดีตให้ฟังว่า “พวกเราทั้งหมดมาซ้อม พวกเราก็เลยรู้จักกันก่อนถ่ายทำ ผมว่าเขานำวิธีนี้มาจากประสบการณ์ด้านละครเวที เพราะความสัมพันธ์ของนักแสดงก่อตัวระหว่างการซ้อมบท ขณะที่การถ่ายทำหนัง คุณจะได้แสดงกับคนแปลกหน้า วิธีนี้ พวกเราเหมือนได้อุ่นเครื่องซึ่งทำให้การถ่ายทำเป็นเรื่องง่ายไปเลย” “พวกเราใช้เวลาร่วมกันทั้งในและนอกฉาก เหมือนเป็นครอบครัว” แชนนิ่ง ทาทัมเห็นด้วย “แอนดี้มีวิธีที่จะดึงส่วนนั้นออกมาจากทุกคน มันเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอดเพราะเมื่อได้แสดงกับคนที่เป็นเพื่อนซี้ จินตนาการได้ไม่ยากเลย”

ลงสนาม

นอกเหนือจากการซ้อมบท นักแสดงหลายคนได้เข้าร่วม “แคมป์ฟุตบอล” พวกเขาเลยดูเหมือนนักกีฬา ทีมงานได้พาโค้ชฟุตบอลที่ชื่อ บ็อบ โมลส์ และคนวางเกมฟุตบอลอย่าง แดน เม็ตคาลฟี่มาร่วมงานกับนักแสดงเพื่อให้พวกเขาพร้อมลงสนาม โมลส์รับหน้าที่คัดเลือกนักฟุตบอลในท้องถิ่นเพื่อเป็นสมาชิกในทีมฟุตบอล เมื่อได้ร่วมงานกับฟิคแมน เม็ตคาลฟี่ได้ออกแบบการเล่นบอล และร่วมงานกับนักแสดงอย่างใกล้ชิดเพื่อสอนให้พวกเขาเคลื่อนตัวได้ถูกต้อง ทาทัมเสริมอีกว่า “ผมเคยเล่นฟุตบอลมาก่อน แต่ไม่เคยเล่นได้ถึงขนาดนี้ ตอนแรกนึกว่าตัวเองแข็งแรง พอเริ่มการฝึกฟุตบอลวันแร ผมเกือบตาย” เขาหัวเราะ “พวกเราวิ่งไม่หยุด ผมเลยได้เรียนรู้กลเม็ดที่เจ๋งทีเดียว”

เม็ตคาลฟี่กล่าวว่า “แชนนิ่งเป็นม้าหนุ่ม เขาเป็นนักกรีฑา ผมรู้สึกยินดีที่หานักแสดงที่มีความสามารถทางกีฬา อย่าง โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน พวกเราตัดสินใจให้เขาเป็นผู้รักษาประตู” ไม่เหมือนนักแสดงชายคนอื่น อแมนด้ายยอมรับว่ากีฬาต่างๆไม่ใช่สิ่งที่ดึงเธอให้เข้ามาสู่ She’s The Man “ฉันเล่นกีฬาไม่เก่ง และไม่เคยเล่นฟุตบอลมาก่อนเลยในชีวิต ดังนั้น ไม่ใช่แค่ฉันต้องเล่นกีฬาที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ฉันต้องการแสดงเป็นผู้ชาย ฉันฝึกมากว่า 2 เดือน”

เม็ตคาลฟี่ต้องมั่นใจว่าเธอไม่ได้เลยเป็นตัวเอง “ผมต้องบอกวิธีวิ่งให้เหมือนผู้ชายกับอแมนด้า เพราะเด็กผู้ชายวิ่งไม่เหมือนเด็กผู้หญิง พวกเราพยายามให้เธอก้าวขาโดยไม่ต้องเพิ่มแรงกดที่หัวเข่า และให้วิ่งโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยมากกว่าเด็กหญิงทั่วไป” ไบนส์ บอกว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับบทบาทของเธอ คือ การสวมชุดเพื่อเปลี่ยนให้เธอดูเป็นเด็กผู้ชาย “หนึ่งในส่วนที่ยากที่สุดในการเล่นเป็นผู้ชาย ก็คือ การเสริมเติมแต่ง และกาวที่ช่วยให้ฉันดูแมน”

ช่างผมของไบนส์ ที่ชื่อ นิน่า พาสโควิตซ์ และช่างแต่งหน้า ปีเตอร์ ร็อบ คิง ถูกเรียกตัวเพื่อมาดูแลทั้งไบนส์ ในบท วิโอล่า / เซบาสเตียน และเจมส์ เคิร์ค ในบท เซบาสเตียน นักแสดงทั้งสองต้องทำผมหลากทรง และลองแต่งหน้า ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องความยาวและสไตล์ของวิกผม ก่อนที่จะพบแบบที่ถูกใจ นอกจากเรื่องผม การแต่งหน้า และการเสริมแต่ง ไบนส์ตามฟิคแมนไปห้างและแหล่งพบปะวัยรุ่นหลายแห่งเพื่อสังเกตวิธีที่เด็กผู้ชายปฏิบัติ เพื่อให้ไบนส์เข้าใจศิลปะของการเป็นชาย “มันเป็นเรื่องน่าสนใจที่จะได้เห็นความแตกต่างระหว่างเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง และฉันพยายามสานทั้ง 2 อย่างเข้ากับตัวละครของฉัน”

เกี่ยวกับนักแสดง

อแมนด้า ไบน์ส (วิโอล่า ฮาสติ้งส์)

อแมนด้าเป็นที่รู้จักอย่างดีสำหรับผู้ชมทางทีวีจากการรับบทนำที่ชื่อ ฮอลลี่ ไทเลอร์ ทางซีรีส์ของวอร์เนอร์ เรื่อง What I like About You ทางด้านจอใหญ่ ไม่นานมานี้ เธอแสดงในหนังตลกเบาสมอง เรื่อง What A Girl Wants ซึ่งเธอได้รับรางวัล คิดส์ ช้อยซ์ ในสาขานักแสดงภาพยนตร์หญิงขวัญใจ เป็นครั้งที่ 6

เธอเกิดและเติบโตในแคลิฟอร์เนีย โดยเริ่มต้นทำงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ เธอถูกค้นพบครั้งแรกจากการแสดงในลอส แองเจอลิสโดยผู้อำนวยการสร้าง ไบรอัน ร็อบบินส์ และแดน ชเนเดอร์ โดยพวกเขาได้เพิ่มบทให้กับเธอในผลงานของนิกเคโลเดี้ยน เรื่อง All That ปี 1996 หลังจากผ่านไป 1 ปี เธอได้เข้าชิงรางวัล เคเบิล เอซีอี ในปี 1997 เธองานชุกเพราะผลงานทางทีวีและภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ขณะที่ทำงานในซีรีส์ตลอด 4 ฤดูฉาย พออายุได้ 12 ปี เธอกลายเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่เป็นพิธีกรรายการวาไรตี้ของตัวเองที่ชื่อ The Amanda Show ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 การทำงานในรายการของเธอทำให้เธอได้รับรางวัล คิดส์ ช้อยซ์ สาขานักแสดงโทรทัศน์หญิงขวัญใจถึง 4 ปีซ้อน ในปี 2002 เธอมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก โดยรับบทประกบ แฟรงกี้ มูนิซ ในเรื่อง Big Fat Liar ซึ่งก็ทำให้เธอได้รับรางวัลคิดส์ ช้อยซ์ สาขานักแสดงภาพยนตร์หญิงขวัญใจ นอกจากนั้นเธอยังพากย์เสียงในบท ไพเพอร์ ในหนังการ์ตูนฮิตเรื่อง Robots ผลงานถัดไป เธอจะแสดงในหนังตลกโรแมนติค เรื่อง Lovewrecked ซึ่งกำกับโดย แรนเดล คลีเซอร์

แชนนิ่ง ทาทัม (ดุ๊ค)

แชนนิ่งเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องแรกในผลงานของโธมัส คาร์เตอร์ เรื่อง Coach Carter ซึ่งนำแสดงโดย แซมมวล แอล แจ๊คสัน จากนั้นเขาก็ได้แสดงในเรื่อง Havoc และ Supercross ล่าสุดเขาเพิ่งได้รับการยกย่องจากบทบาทในหนังอินดี้ เรื่อง A Guide To Recognizing Your Saints โดยได้รับรางวัล สเปเชี่ยล จูรี่ ไพรซ์ จากทีมนักแสดงและรางวัลผู้กำกับหนังดราม่าในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2006 ทีมนักแสดงของหนัง ได้แก่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, โรซาริโอ่ ดอว์สัน, เชีย ลาบีออฟ, แชซซ์ พัลมินเทรี่, ไดแอน วีสต์ และอีริค โรเบิร์ตส เขาจะแสดงในผลงานเกี่ยวกับดนตรีที่ยังไม่มีชื่อ โดยวางกำหนดออกฉายช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2006 เป็นเรื่องถัดไป

แชนนิ่งเกิดในเมืองคัลแมน รัฐอลาบาม่า จากนั้นย้ายไปยังมิสซิสซิปปี้ตอนอายุได้ 6 ขวบ ที่ซึ่งครอบครัวของเขาอาศัยอยู่บนลำธาร เขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนายแบบ และได้ถ่ายแบบในโฆษณา ของ Abercrombie & Fitch, Dolce & Gabbana และ Aeropostale จากนั้นเขาก็ได้แสดงในหนังโฆษณาให้กับเป๊ปซี่ และเมาเท้นท์ ดิว บทบาทการแสดงของเขา คือ การรับบทนักแสดงรับเชิญในเรื่อง CSI: Miami

ลอร่า รัมซี่ย์ (โอลิเวีย)

ลอร่าเปิดตัวในหนังใหญ่ของแคเธอรีน ฮาร์ดวิค เรื่อง Lords Of Dogtown ซึ่งเธอรับบทร่วมกับเอมิลี่ เฮิร์ช, ฮีธ เลดเจอร์, นิคกี้ รีด และรีเบคก้า เดอ มอร์เนย์ ไม่นานมานี้ เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายทำในผลงานหนังทริลเลอร์สยองขวัญ เรื่อง The Covenant ซึ่งกำกับโดย เรนนี่ ฮาร์ลิน เธอโบกรถมาจากเมืองโรเซ็นเดล รัฐวิสคอนซิน แล้วเริ่มต้นอาชีพการแสดงทันทีที่จบการศึกษาระดับ
ไฮสคูล จากนั้นย้ายไปยังลอส แองเจอลิส เธอกำลังนั่งรอที่โต๊ะตอนที่เธอถูกค้นพบ และได้รับบทเล็กๆในหนังจากการออดิชั่นบทครั้งแรก ล่าสุดเธอเพิ่งปรากฏตัวในหนังอินดี้สยองขวัญ เรื่อง Venom และ Cruel World ทางด้านทีวี เธอได้รับบทบาทในซีรีส์ประจำของเอบีซี ที่ชื่อ The Days

วินนี่ย์ โจนส์ (โค้ช คิงค์เลจ)

วินนี่ย์มีชื่อเสียงครั้งแรกในฐานะนักบอลระดับโลกในบ้านเกิดที่ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะแจ้งเกิดในหนังของกาย ริตชีย์ เรื่อง Lock, Stock And Two Smoking Barrels โดยเขาได้รับรางวัล เอ็มไพร์ สาขานักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม เขายังได้รับรางวัลเอ็มไพร์เป็นครั้งที่ 2 สาขานักแสดงชายชาวอังกฤษยอดเยี่ยม ในผลงานอีกเรื่องหนึ่งของกาย ริตชีย์ เรื่อง Snatch ซึ่งโจนส์ได้ร่วมแสดงกับ แบรด พิตต์ เขายังเคยได้ร่วมงานกับผู้กำกับ โดมินิค ซีน่า ในหนังเรื่อง Gone In Sixty Seconds ร่วมกับนิโคลัส เคจ และแองเจลีน่า โจลี่ และในเรื่อง Swordfish ร่วมกับจอห์น ทราโวลตร้า และฮัลลี่ เบอร์รี่ เครดิตผลงานเรื่องอื่นๆของเขา ได้แก่ เรื่อง Mean Machine, Night At The Golden Eagle, The Big Bounce, Eurotrip, Blast!, Slipstream และ The Other Half ถัดไปเขาจะร่วมงานกับฮัลลี่ เบอร์รี่, ฮิวจ์ แจ๊คแมน และแพทริค สต็วร์ต ในหนังภาคต่อเรื่อง X-Men 3 โดยที่จะออกฉายเดือนพฤษภาคม ปี 2006 ผลงานที่กำลังจะออกฉายของเขา ยังได้แก่ การรับบทในหนังดราม่า เรื่อง The Filthy War และหนังอินดี้ เรื่อง Played ประชันกับ วัล คิลเมอร์

จูลี่ ฮาเกอร์ตี้ (ดัฟเน่)

จูลี่เริ่มมีชื่อเสียงจากการแสดงในหนังตลกเรื่องฮิตของจิม อับบราฮัม และพี่น้องซัคเกอร์ เรื่อง Airplane และ Airplance II: The Sequel เครดิตผลงานเรื่องต่อๆมา ได้แก่ หนังของวูดี้ อัลเลน เรื่อง A Midsummer Night’s Sex Comedy, หนังของอัลเบิร์ต บรู๊คส์ เรื่อง Lost In America, หนังของโรเบิร์ต อัลต์แมน เรื่อง Beyond Therapy, หนังของแฟรงก์ อ๊อซ เรื่อง What About Bob? ร่วมประกบกับบิล เมอร์เรย์ และริชาร์ด ดรายฟัส, หนังของปีเตอร์ บ็อกดาโนวิช เรื่อง Noises Off…, ร่วมงานกับคารอล เบอร์เน็ตต์ และไมเคิล เคน, หนังของโอลิเวอร์ สโตน เรื่อง U-Turn นำแสดงโดยฌอน เพนน์ และหนังของร็อบ ไรเนอร์ เรื่อง The Story Of Us นำแสดงโดย บรู๊ซ วิลลิส และมิเชลล์ ไฟเฟอร์ ไม่นานมานี้เธอเพิ่งร่วมแสดงในหนังตลกเรื่อง A Guy Thing และ Just Friends ในฐานะนักแสดงละครเวทีระดับรางวัล เธอเคยเข้าชิงรางวัล Outer Critics Circle จากการแสดงในเรื่อง Mornings At Seven ของบรอดเวย์ เธอได้รับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ละคราลอส แองเจอลิส จากบทบาทในเรื่อง Raised In Captivity และได้รับรางวัลละครเวทีโลกสาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากการแสดงในบรอดเวย์ เรื่อง The House Of Blue Leaves

เธอรับเล่นบทเดิมใน The House Of Blue Leaves จากการนำเสนอของ อเมริกัน เพลย์เฮ้าส์ ทางพีบีเอส เธอยังเคยแสดงในผลงานทางทีวี เรื่อง Neil Simon’s London Suite เครดิตผลงานทางทีวีอื่นๆ ได้แก่ การเป็นแขกรับเชิญใน E.R., Everybody Loves Raymond, Malcolm In The Middle และ Law & Orders:SVU

เดวิด ครอส (ครูใหญ่โกลด์)

ไม่นานมานี้ เดวิดเพิ่งแสดงในซีรีส์ตลกที่ได้รับคำชม เรื่อง Arrested Development และร่วมเข้าชิงรางวัลสมาคมนักแสดงกับทีมนักแสดงคนอื่นๆ ปัจจุบันเขากำลังแสดงในผลงานตลก เรื่อง School For Scoundrels ของผู้กำกับท็อดด์ ฟิลลิปส์ และยังได้ยินเสียงเขาในผลงานคลาสสิคของเด็กในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ เรื่อง Curios George เครดิตผลงานเรื่องอื่นๆของเขา ได้แก่ Eternal Sunshine Of Spotless Mind, หนังตลกไซไฟระดับบล็อกบัสเตอร์เรื่อง Men In Black และภาคต่อ เรื่อง Men In Black II, Scary Movie 2, Ghost World, Waiting For Guffman, The Cable Guy และ The Truth About Cats And Dogs

เขาโบกรถมาจากแอตแลนต้า และเริ่มอาชีพตลกเดี่ยวไมโครโฟนในบอสตัน ที่ซึ่งเขาได้สร้างกลุ่มที่ชื่อ ครอส คอมิดี้ โดยเป็นที่รู้จักจากการแสดงตลกสดๆ จากนั้นเขาย้ายไปยังลอส แองเจอลิส และได้รับรางวัลเอ็มมี่จากการเขียนบทในรายการสด ที่ชื่อ The Ben Stiller Show ขณะที่ทำงานในรายการนั้น เขาได้พบกับบ็อบ โอเดนเคิร์ก โดยร่วมกันพัฒนารายการสดมัลติมีเดีย และได้กลายเป็นซีรีส์ของเฮชบีโอที่ชื่อ Mr.Show With Bob And David ระหว่างที่ทำรายการมาถึง 4 ปี เขาได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ 2 ครั้งจากการเขียนบทโดดเด่นให้กับรายการเพลงหรือวาไรตี้ และเข้าชิงครั้งที่สามจากเพลงหรือเนื้อเพลงยอดเยี่ยม นอกจากนั้น เขายังเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์มากมาย และแสดงในรายการของเขาที่ชื่อ HBO Comedy Half-Hour ยิ่งกว่านั้นเขายังออกซีดีตลกอีก 2 แผ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อีกด้วย

โจนาธาน ซาดาวสกี้ (พอล)

โจนาธานเปิดตัวในหนังเรื่องแรกด้วยเรื่อง She’s The Man เขาเกิดและเติบโตในรัฐชิคาโก้ ซึ่งเขาได้เรียนด้านละครเวทีที่มหาวิทยาลัยอิลินอยส์ หลังเรียนจบปริญญาตรีด้านวิจิตรศิลป์ เขาก็ย้ายไปยังลอส แองเจอลิส หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับบทในซีรีส์ของเอ็นบีซี เรื่อง American Dreams เขายังได้รับบทนำในผลงานของฟ็อกซ์เรื่อง Pool Guys และเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์ เรื่อง NCIS, LAX และ The Division นอกจากการแสดง เขายังเป็นนักเขียนบทที่มีพรสวรรค์ ในปี 2005 เขาและเพื่อนได้ขายบทที่ชื่อ This Bill Smith ให้กับโคลัมเบีย และพวกเขายังได้เซ็นสัญญาเขียนบทให้กับสตูดิโอใหญ่อีกแห่งด้วย นอกเหนือจากนั้นเขายังเป็นนักดนตรีและเล่นเปียโนและกีตาร์ด้วย

โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน (จัสติน)

โรเบิร์ตเป็นหนึ่งในดาราของซีรีส์เรื่องฮิตของเอ็มทีวี ที่ชื่อ Wild ‘N Out รายการซึ่งอำนวยการสร้างโดย นิค แคนนอน ฤดูฉายปีที่ 2 จะเริ่มออกอากาศในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อปีที่แล้ว เขาได้แสดงในซีรีส์ตลกของฟ็อกซ์เรื่อง Quintuplets ร่วมกับแอนดี้ ริชเตอร์ นอกจากทักษะด้านการแสดง เขายังเป็นแดนเซอร์และคนออกแบบท่าเต้นที่มีคนต้องการตัว เขาร่วมรับรางวัลออกแบบท่าเต้นของอเมริกาจากหนังเรื่อง You Got Served ซึ่งเขาได้ร่วมแสดงด้วย นอกจากนี้ เขาเคยเต้นในหนัง เช่น Guess Who?, Coach Carter, Pirates Of The Caribbean และ Vanilla Sky ในฐานะแดนเซอร์ เขาเคยร่วมงานกับดารา เช่น Christina Aguilera, Usher, Mya, Marilyn Manson, Britney Spears และ Ricky Martin ซึ่งเขายังเต้นในมิวสิควีดีโออีกด้วย

ฮอฟฟ์แมนเติบโตในฟลอริด้า โดยได้รับแรงบันดาลใจในการเต้นเมื่อเขาได้เห็นวีดีโอเพลง Thriller ของไมเคิล แจ๊คสัน เขาเริ่มต้นเข้าฝึการเต้นขณะเรียนชั้นอนุบาลและต่อไปยังไฮสคูลด้านวิจิตรศิลป์ จากนั้นเขาเข้าร่วมคณะบัลเล่ต์ นำทีมโดยตำนานบัลเล่ต์ชาวอเมริกาที่ชื่อ เวส แช็ปแมน เวลาที่ไม่ได้แสดงหรือเต้น เขาใช้เวลาสร้างหนังสั้นที่เขาบอกว่ามี “อาการไร้ความกลัวตามแบบฉบับของจอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์”

โรเบิร์ต ทอร์ติ (โค้ช พิสโตเน็ค)

ก่อนหน้านี้โรเบิร์ตเคยร่วมงานกับผู้กำกับแอนดี้ ฟิคแมน โดยรับบท พระเยซูในเรื่อง Reefer Madness: The Movie Musical เขาได้สร้างสรรค์บทบาทพระเยซูและแจ๊ค ทั้งในละครเวทีนิวยอร์คและลอส แองเจอลิส ที่ชื่อ Reefer Madness ภายใต้การกำกับของฟิคแมน เขาเคยได้รับเกียรติเข้าชิงรางวัลโทนี่จากการแสดงใน เรื่อง Starlight Express ซึ่งเป็นการแสดงทางบรอดเวย์ครั้งแรก งานการแสดงบนเวทีบรอดเวย์เรื่องอื่นของเขา รวมถึง บทฟาร์โรห์ ในละครเพลง เรื่อง Joseph And The Amazing Technicolor Dreamcoat นอกจากนั้น เขาเคยปรากฎตัวในผลงานที่แสดงในลอนดอนและลอส แองเจอลิส เรื่อง Smokey Joe’s Caf?

ทางด้านภาพยนตร์ เขารับบทนักร้องที่ชื่อ เฟรดดี้ เฟรดิกสันในหนังของทอม แฮงค์ เรื่อง That Thing You Do และยังกลับมารับบทฟาร์โรห์อีกครั้งในผลงานเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของเรื่อง Joseph And The Amazing Technicolor Dreamcoat เครดิตผลงานเรื่องอื่นๆ ได้แก่ หนังของฟิคแมน เรื่อง Who’s Your Daddy, Submerged และหนังที่จะออกฉายเร็วๆนี้ เรื่อง The Legend Of William Tell เขาเป็นนักแสดงประจำในซีรีส์หลายเรื่อง เช่น The Drew Carey Show, Vinnie & Bobby, Generatoins, The Young And The Restless และล่าสุด เรื่อง The Suite Life Of Zack And Cody นอกจากนั้น เขายังเคยเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์อีกหลายเรื่องด้วย

เจมส์ สไนเดอร์ (มัลคอล์ม)

เจมส์เกิดและเติบโตในเมืองซาคราเมนโต้ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเขาเริ่มเรียนการแสดงเมื่ออายุได้ 14 ปี หลังจากได้รับปริญญาด้านศิลปะจากมหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย เขาก็ได้รับบทรับเชิญในซีรีส์ทางทีวี เช่น Gilmore Gilrs, Married To The Kellys, The Suite Of Zack And Cody และ Related เครดิตผลงานภาพยนตร์ของเขา รวมถึง Pretty Persuasion ซึ่งออกฉายครั้งแรกที่งานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนส์ และเรื่อง The Gingerdead Man

นอกจากนั้นเขายังเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ เขาเคยแสดงในผลงานเพลงหลายเรื่องขณะที่เรียนที่มหาวิทยาลัย โดยรวมถึงการรับบท เคอร์ลี่ ใน Oklahoma เขาเคยยแสดงในผลงานเพลงในลอส แองเจอลิส
หลายเรื่อง และทำงานภายใต้การกำกับของแอนดี้ ฟิคแมนในละครเวที เรื่อง Reefer Madness: The Musical พอในปี 2004 เขารับบท แม็ต ใน The Fantasticks ที่โรงละครเพลงซาคราเมนโต้ และยังรับบทลุค สกายวอล์คเกอร์ในผลงานที่ได้รับคำชมอย่างมาก เรื่อง Star Wars Trilogy In 30 Minutes ในลอส แองเจอลิส ปารีส และสก็อตแลนด์ล่าสุดเขากำลังแสดงละครเวที เรื่อง Rock Of Ages ละครเพลงที่ถูกนำเสนอที่ แวนการ์ดในฮอลลีวู้ด นอกเหนือจากการแสดง เขายังเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชิ้น รวมถึง เปียโน กีตาร์ ทรัมเป็ต และดิดเกริโด้อีกด้วย

อเล็กซ์ เบรกเค่นริดจ์ (โมนิค)

ก่อนหน้านี้ อเล็กซ์เคยแสดงในหนังหลายเรื่อง เช่น Wishcraft และ Big Fat Liar เธอยังเคยแสดงในหนังตลกสั้นเรื่อง D.E.B.S. และในวีดีโอเรื่อง Rings ซึ่งทำหน้าที่เสมือนสะพานระหว่างหนังสยองขวัญ 2 เรื่อง คือ The Ring และ The Ring 2 ทางด้านทีวี เธอเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์หลายเรื่อง เช่น C.S.I., Medium, JAG, Buffy The Vampire Slayer, Charmed, Freaks And Geeks และ Dawson’s Creek เธอเคยแสดงในหนังครอบครัวของเอบีซี เรื่อง Romy And Michele: In The Beginning และยังพากย์เสียงในผลงานของฟ็อกซ์ เรื่อง Family Guy และ American Dad

เธอเติบโตในเมืองดาเรียน รัฐคอนเน็ตติกัต และย้ายไปยังแคลิฟอร์เนียตอนอายุ 12 ขวบ พออายุได้ 13 ขวบ เธอค้นพบการหลงใหลการแสดงของตัวเองขณะที่กำลังแสดงในโรงละครที่แคลิฟอร์เนีย จากนั้นเธอก็ย้ายไปยังลอส แองเจอลิสเพื่อสานต่ออาชีพของเขา หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้รับบทนำในผลงานของเอบีซี เรื่อง R.L.Stine’s Ghost Of Fear Street และแล้วเธอก็ได้รับงานประจำในซีรีส์ตลกของวอร์เนอร์ เรื่อง Opposite Sex ล่าสุดเธออาศัยอยู่ในฮอลลีวู้ด ลุงของเธอ ซึ่งเป็นนักแสดงที่ชื่อ ไมเคิล วีเธอร์ลีย์ ในเรื่อง NCIS เป็นแม่แบบคนสำคัญในชีวิตเธอ

อแมนด้า ครูว์ (เคีย)

ล่าสุด อแมนด้าร่วมแสดงในผลงานทริลเลอร์สยองขวัญภาคต่อ เรื่อง Final Destination 3 เธอยังร่วมแสดงกับแคสเปอร์ แวน ดีนในหนังที่ฉายทางทีวีเรื่อง Meltdown ซึ่งจะออกฉายทางช่องไซไฟในปี 2006 เธอโบกรถมาจากบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา โดยจะแสดงในซีรีส์แนวดราม่าของแคนาดาเรื่อง Whistler ซึ่งจะออกฉายช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2006 ก่อนหน้านี้ เธอรับบทประจำในซีรีส์ทางทีวีของแคนาดา เรื่อง 15/Love และเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ เรื่อง Smallville และ Life As We Know It

เจสซิก้า ลูคัส (ยวอนนี่)

เจสซิก้าได้รับความสนใจเป็นครั้งแรกจากการแสดงในซีรีส์ของเอบีซี เรื่อง Life As We Know It หนังเรื่อง She’s The Man ถือเป็นผลงานหนังเรื่องแรกของเธอ ไม่นานมานี้เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายทำผลงานทริลเลอร์สยองขวัญ เรื่อง The Covenant ซึ่งเธอร่วมแสดงกับลอร่า รัมซี่ย์ ภายใต้การกำกับของเรนนี่ ฮาร์ลิน เครดิตก่อนหน้าของเธอ ได้แก่ หนังทางทีวี เรื่อง Damaged Care นำแสดงโดยลอร่า เดิร์น, บทบาทประจำในซีรีส์เรื่อง Edgemont และ 2030 CE เธอยังได้รับเชิญให้ร่วมแสดงในซีรีส์ของโชว์ไทม์ ที่ชื่อ The L Word และซีรีส์ของนิคเคลโลเดี้ยน ที่ชื่อ Romeo เธอมีบ้านอยู่ที่แวนคูเวอร์ บริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา โดยอยู่กับสุนัขชื่อ ไบเล่ย์ ในฐานะนักกรีฑาผู้มีพรสวรรค์ เธอเคยเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมเบสบอลหญิงหลายแห่ง

เจมส์ เคิร์ก (เซบาสเตียน ฮาสติ้งส์)

ไม่นานมานี้ เจมส์แสดงในหนังเรื่อง Two For The Money ร่วมกับอัล ปาชิโน่ และแม็ทธิว แม็คโคนาเฮย์, เรื่อง X2: X-Men United และ Final Destination 2 เขาเคยปรากฏตัวในมินิซีรีส์ที่ได้รับหลายรางวัล ที่ชื่อ Into The West และ Steven Spielberg Presents: Taken เครดิตผลงานทางทีวีของเขา ได้แก่ 5 ฤดูฉายของซีรีส์ที่ได้รับคำชม ที่ชื่อ Edgemont และเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์ เรื่อง Smallville และ Dead Like Me รวมถึงหนังอีกหลายเรื่องที่สร้างเพื่อฉายทางทีวี

เขาเป็นชาวแคนาดา ได้รับความสนใจครั้งแรกตอนที่เขารับบทนำในผลงานละครเพลงของท้องถิ่นเรื่อง Oliver จากนั้นไม่นาน เขาก็ได้แสดงในบทนำในเรื่อง Golf Punks นำแสดงโดย ทอม ฮาร์โนลด์ ตามติดด้วยบทนำในเรื่อง Once Upon A Christmas ประกบกับเคธี่ ไอร์แลนด์

คลิฟตัน เมอร์เรย์ (แอนดรูว์)

คลิฟตันเปิดตัวผลงานภาพยนตร์ด้วยเรื่อง She’s The Man ล่าสุดเขาเพิ่งเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ฮิตของเอบีซี เรื่อง Boston Legal เขามีบ้านอยู่ที่แวนคูเวอร์ บริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ซึ่งเขายังเป็นนักสเก็ตบอร์ด ร้องเพลงและเล่นกีต้าร์อีกด้วย

แบรนดอน เจย์ แม็คลาเรน (โทบี้)

แบรนดอนแจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่อง Scooby Doo 2: Monsters Unleashed เขาเคยแสดงในหนังที่ฉายทางทีวีหลายเรื่อง เช่น Perfect Romance และ D.C.Sniper: 23 Days Of Fear และรับบทนำในซีรีส์ เรื่อง Secret Central นอกจากนั้น เขารับบทประจำในซีรีส์ของเอบีซี เรื่อง The Days และเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ เช่น Reuion, The Collector, Smallville และ The Christ Isaak Show

เขาเกิดที่แวนคูเวอร์ บริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เขาเป็นนักกรีฑาที่มีพรสวรรค์ เคยได้รับทุนการศึกษาด้านฟุตบอลจากมหาวิทยาลัยรัฐนิวยอร์คในอัลบานี่ย์ ซึ่งเขาเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์ โดยวางแผนที่จะเข้าเรียนด้านการแพทย์ แต่เมื่อกลับมายังแคนาดา เขาหันความสนใจสู่การแสดงและเริ่มต้นการแสดงอาชีพในซีรีส์ ที่ชื่อ Just Cause ทุกวันนี้เขายังคงเพลิดเพลินกับการเล่นฟุตบอล วิ่ง และใช้เวลากับแฟนสาวของเขา เขายังกำลังเรียนรู้การเล่นกีต้าร์อีกด้วย

เอมิลี่ เพอร์กิ้นส์ (ยูนิซ)

เอมิลี่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีจากการรับบทบาทในผลงานภาคต่อเรื่อง Ginger Snaps ที่ชื่อ Ginger Snaps, Ginger Snaps: Unleashed และ Ginger Snaps Back: The Beginning งานของเธอในเรื่องนั้นทำให้เธอเป็นที่รู้จักในหลายประเทศ รวมถึงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในสัปดาห์ภาพยนตร์นานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศสเปน เครดิตผลงานเรื่องอื่นๆ ได้แก่ เรื่อง Insomnia นำแสดงโดยอัล ปาชิโน่ และโรบิน วิลเลี่ยมส์ และเรื่อง Prozac Nation นำแสดงโดยคริสติน่า ริกชี่ ในปี 2003 เธอได้รับรางวัลลีโอสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากการรับบทในซีรีส์ของซีบีเอส เรื่อง Da Vinci’s Inquest งานทางด้านทีวีของเธอ ยังรวมถึง การรับบทนำในภาพยนตร์ยาวที่ชื่อ Christy และภาคต่อที่ชื่อ Christy: Choices Of The Heart เธอยังเคยแสดงในซีรีส์เรื่องอื่นอีกหลายตอน เช่น Smallville และ The X-Files

เธอเริ่มต้นการแสดงเมื่ออายุ 8 ขวบ ขณะที่ยังเด็กเธอเคยแสดงในหนังทางทีวี เรื่อง Small Sacrifices ร่วมกับฟาร์ร่าห์ ฟอว์เซ็ตต์ และในเรื่อง It ที่นำเค้าโครงมาจากนิยายของสตีเฟน คิงที่มีชื่อเดียวกัน ในปี 1990 เธอได้รับรางวัลเยาวชนที่ประสบความสำเร็จด้านการแสดงของวายทีวีของประเทศแคนาดา

เกี่ยวกับผู้สร้างภาพยนตร์

แอนดี้ ฟิคแมน (ผู้กำกับ)

แอนดี้เป็นผู้กำกับระดับรางวัลซึ่งเคยได้รับการยกย่องจากผลงานละครเวทีที่ประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์ละครเวทีของลอส แองเจอลิส และเป็นเจ้าของงานสร้างที่เดินสายไปทั่วประเทศอเมริกา ไม่นานมานี้ เขาเพิ่งกำกับผลงานที่ชื่อ Reefer Madness: The Movie Musical ผลงานดัดแปลงจากละครเวทีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตัวหนังออกฉายครั้งแรกที่เทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2005 และยังได้ฉายที่เทศกาลภาพยนตร์ดูวิลล์ ซึ่งได้รับรางวัลพรีเมียร์ และเข้าชิงรางวัลแกรนด์ สเปเชียล ไพรซ์ด้วย หลังจากนั้น เรื่องนี้ถูกฉายทางช่องโชว์ไทม์ และเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ถึง 3 รางวัล ฟิคแมนเคยกำกับละครเพลงเรื่อง Reefer Madness ซึ่งออกแสดงครั้งแรกของโลกที่ลอส แองเจอลิสในปี 1999 ตัวละครตะเวนกวาดรางวัลละครเวทีมากมาย รวมถึง รางวัลโอเวชั่นสาขาละครเพลงยอดเยี่ยม และรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ลอส แองเจอลิสและ รางวัลเวสต์ การ์แลนด์สาขาโปรดักชั่นยอดเยี่ยม นอกจากนั้น เขายังได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากทั้ง 3 สถาบัน Reefer Madness เปิดตัวนอกบรอดเวย์ครั้งแรกในปี 2001 โดยเข้าชิงรางวัล Drama Desk 2 รางวัล

จากนั้นเขาก็ประสบความสำเร็จอีกครั้งกับผลงานตลก เรื่อง Jewtopia ซึ่งเปิดตัวในลอส แองเจอลิสในเดือนพฤษภาคม ปี 2003 และเป็นหนึ่งในละครที่ออกฉายยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ละครเวทีของลอส แองเจอลิส ถือเป็นเรื่องแรกในลอส แองเจอลิสที่ตั๋วทั้งหมด 240 รอบถูกขายหมดเกลี้ยง จากนั้นก็ย้ายไปแสดงที่นิวยอร์ค ซึ่งยังคงขายหมดเกลี้ยงทุกคืน

เครดิตละครเวทีเรื่องอื่นๆ ได้แก่ เรื่อง Sneaux นำแสดงโดยคริสเต็น เบลและโรเบิร์ต ทอร์ติ ซึ่งทำให้ฟิคแมนได้รับรางวัลผู้กำกับตลกยอดเยี่ยมจาก LA Weekly, เรื่อง The Marrieds นำแสดงโดยปีเตอร์ ครอส, เรื่อง The Gift ผลงานการแสดงเรื่องแรกของอลิเซีย วิตต์, เรื่อง We The People ซึ่งแสดงในลอส แองเจอลิสแบบขายหมดเกลี้ยงถึง 2 ปี, เรื่อง There Will Be Penetration, เรื่อง Denying Park Avenue, เรื่อง It’s Wonderful Being A Girl, เรื่อง Fortinbras Gets Drunk และ The Day Room ฟิคแมนยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการบริษัทด้านละครเวทีที่ชื่อ ฟาวเท่นเฮด อันเลี่องชื่อ ซึ่งเคยร่วมงานกับนักแสดง เช่น แอนน์ เฮชช์, มอร์แกน เชพเพิร์ด, รอน ลิฟวิ่งสตัน และมอลลี่ แชนนอน รวมถึงนักเขียนอีกหลายคน เช่น จอห์น ลี แฮนค็อก, จอห์น ซินแมน และแฟรงก์ พูกลีส

ในปี 2005 เขาได้รับเกียรติให้กำกับผลงานเรื่อง Les Girls 4 เพื่อการช่วยเหลือสถาบันมะเร็งทรวงอกแห่งชาติ ทางด้านภาพยนตร์ เขาเคยกำกับหนังตลกอินดี้ที่ชื่อ Who’s Your Daddy? นำแสดงโดย อาลี แลนดรี้, แพ็ตซี่ย์ เค็นซิต, คาเด็ม ฮาร์ดิสัน และเวนย์ นิวตัน ตามด้วยเรื่อง She’s The Man เขายังมีผลงานอีกหลายเรื่องที่อยู่ระหว่างพัฒนาทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์

ก่อนหน้าที่จะเป็นคนเขียนบทและผู้กำกับ เขาเคยทำหน้าที่ผู้บริหารด้านพัฒนา เขาเคยดำรงตำแหน่งรองประธานงานสร้างของมิดเดิล ฟอร์ก โปรดักชั่น, รองประธานออล เกิร์ล โปรดักชั่นของเบ็ตต์ มิดเลอร์ และบอนนี่ย บรัคไฮเมอร์ และรองประธานฝ่ายพัฒนาที่ พัล-เมล โปรดักชั่นของจีน ไวล์เดอร์ เขาเคยทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างในหนังของโคลัมเบีย พิคเจอร์ส เรื่อง Anaconda เขาเริ่มต้นอาชีพด้านบันเทิงที่ Triad Artists Agency

ลอเรน ชูเลอร์ ดอนเนอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง)

ลอเรนเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างที่ประสบความสำเร็จที่สุดในฮอลลีวู้ด ทุกวันนี้ ผลงานของเธอทำงานรวมประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก ล่าสุดเธอกำลังคุมงานหลังการถ่ายทำเรื่อง X-Men 3 ผลงานแอคชั่นไซไฟเรื่องที่สามที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของเธอ โดยจะออกฉายเดือนพฤษภาคม ปี 2006 หนัง X-Men เรื่องแรก กำกับโดยไบรอัน ซิงเกอร์ นำแสดงโดย ฮัลลี่ เบอร์รี่, ฮิวจ์ แจ็คแมน, รีเบคก้า โรมิน และแพทริค สต็วรต์ ออกฉายเมื่อฤดูร้อนปี 2000 และเป็นหนึ่งในหนังที่ทำเงินสูงสุดของปีนั้น 3 ปีให้หลัง ผลงานภาคต่อที่ชื่อ X2:X-Men United ทำลายสถิติการเปิดตัวทั่วโลกพร้อมกันสูงสุด และทำรายได้มากกว่า 200 ล้านเหรียญทั่วโลกในสัปดาห์แรกที่ออกฉาย

เธอเพลิดเพลินกับความสำเร็จในฐานะผู้อำนวยการสร้าง เริ่มต้นด้วยหนังเรื่องแรกของเธอ ซึ่งเป็นหนังตลกฮิต ที่ชื่อ Mr.Mom นำแสดงโดยไมเคิล คีตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบหนังปี 1983 จากนั้นเธออำนวยการสร้างหนังแฟนตาซีโรแมนติค เรื่อง Ladyhawke นำแสดงโดย แม็ทธิว บรอเดอริก, มิเชลล์ ไฟเฟอร์ และรัตเกอร์ เฮาเออร์ ตามติดด้วยผลงานสุดฮิตในยุค 1980 เรื่อง St.Elmo’s Fire ของโจเอล ชูมักเกอร์ และเรื่อง Pretty In Pink ของโฮเวิร์ด ดูตช์ ในปี 1993 เธออำนวยการสร้างหนังสองเรื่องฮิตแห่งปี คือ หนังของอีวาน ไรต์แมน เรื่อง Dave นำแสดงโดย เควิน ไคลน์ และซีกอร์นีย์ วีเวอร์ และหนังครอบครัวที่ได้รับคำชมอย่างกว้างขวาง เรื่อง Free Willy เรื่อง Dave ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ตลกยอดเยี่ยม ขณะที่ผลตอบรับที่มีต่อเรื่อง Free Willy มีผลทำให้ดาราของหนัง เจ้าปลาวาฬ ที่ชื่อ เคโกะ ได้รับการปล่อยให้เป็นอิสระในที่สุด

เครดิตการอำนวยการสร้างเรื่องอื่นๆของเธอ ได้แก่ ภาคต่อเรื่อง Free Willy 2, หนังโรแมนติค คอมิดี้ของนอร่า เอ็ฟรอน เรื่อง You’ve Got Mail นำแสดงโดยทอม แฮงค์ และเม็ก ไรอัน, หนังของโอลิเวอร์ สโตน เรื่อง Any Given Sunday นำแสดงโดย อัล ปาชิโน่, คาเมรอน ดิอาซ, เดนนิส เคว็ด และเจมี่ ฟ็อกซ์, หนังของริชาร์ด ดอนเนอร์ เรื่อง Timeline และหนังเรื่อง Constantine นำแสดงโดย คีอานู รีฟส์ เธอยังอำนวยการสร้างบริหารให้กับหนังของมิค แจ็คสัน เรื่อง Volcano นำแสดงโดย ทอมมี่ ลี โจนส์, หนังของวอร์เรน เบ็ตตี้ เรื่อง Bulworth และหนังโรแมนติดคอมิดี้ เรื่อง Just Married อีกด้วย ผลงานที่กำลังจะออกฉายของเธอยังรวมถึง เรื่อง Unaccompanied Minors ซึ่งเริ่มถ่ายทำเมื่อเดือนมีนาคมภายใต้การกำกับของพอล ฟิค, เรื่อง The Secret Life Of Bees นำเค้าโครงมาจากนิยายขายดี, เรื่อง Wolverine นำแสดงโดยฮิวจ์ แจ็คแมน และเรื่อง Cirque de Freak เขียนบทโดยไบรอัน เฮจแลนด์ ซึ่งเคยได้รับรางวัลออสการ์

นอกจากงานด้านผู้อำนวยการสร้าง เธอยังเข้าร่วมโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมและงานช่วยเหลือคนจนอื่นๆอีกมากมาย เธอและสามีที่ชื่อ ริชาร์ด ดอนเนอร์ได้รับเกียรติจากโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมของ มิคาเอล กอร์บาชอฟ เธอยังได้รับรางวัลผู้อำนวยการสร้างของนิตยสาร Premiere เธอเคยได้รับเกียรติและทำหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การเพื่อสิ่งแวดล้อมที่อยู่ที่ลอส แองเจอลิสอีกด้วย ล่าสุด เธอทำหน้าที่คณะกรรมการของโครงการบ้านเด็ก คณะกรรมการสมาคมผู้อำนวยการสร้าง เธอยังทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้กับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในเมืองซีแอ็ตเทิล และเป็นสมาชิกคณะกรรมการด้านผู้อำนวยการสร้างของรางวัลออสการ์อีกด้วย

อีวาน เลสลี่ (คนเขียนบท/ผู้อำนวยการสร้าง)

อีวานเป็นประธานฝ่ายงานสร้างในบริษัทของดอนเนอร์มากว่า 2 ปี ปัจจุบันเขากำลังพัฒนาภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น เรื่อง Cirque du Freak ดัดแปลงบทโดยนักเขียนบทระดับรางวัลออสการ์ อย่าง ไบรอัน เฮจแลนด์, เรื่อง Hotel For Dogs, The Secret Life Of Bees ซึ่งนำเค้าโครงมาจากนิยายขายดีของ ซู มองค์ คิดด์, เรื่อง Sam & George นำแสดงโดยเมล กิ๊บสัน กำกับโดยริชาร์ด ดอนเนอร์ และเรื่อง Gregoire Moulin นำแสดงโดย ฌอน วิลเลี่ยม สก็อตต์

เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนกฎหมาย Pepperdine ก่อนที่จะทำงานในเอเยนซี่ดาราที่ชื่อ วิลเลี่ยม มอร์ริส จากนั้นเขาก็เลื่อนตัวเองเป็นผู้บริหารของทเว็นตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ โดยทำงานในหนังหลายเรื่อง เช่น Never Been Kissed นำแสดงโดย ดรูว์ แบร์รี่มอร์, เรื่อง Soul Food นำแสดงโดย วาเนสซ่า วิลเลี่ยม และวิวิก้า เอ ฟ็อกซ์ และเรื่อง Best Laid Plans นำแสดงโดย รีส วิทเธอร์สปูน

จากนั้นเขาก็ได้รับตำแหน่งรองประธานงานสร้างให้กับจอห์น เวลส์ โปรดักชั่น ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง เขาได้พัฒนา เรื่อง White Oleander ซี่งนำแสดงโดย มิเชลล์ ไฟเฟอร์, เรเน่ เซลวีเกอร์, โรบิน ไร้ท์ เพนน์ และโนอาห์ ไวล์ แล้วเขาก็กลับไปที่ฟ็อกซ์ 2000 และได้พัฒนาหนังหลายเรื่อง เช่น Fever Pitch, Roll Bounce และเรื่องที่กำลังจะออกฉาย ที่ชื่อ Flicka และ Aquamarine

เรื่อง She’s The Man ถือเป็นหนังเรื่องที่เขาอำนวยการสร้างจากบทของตัวเอง

คาเรน แม็คคัลล่าห์ และ คริสเต็น สมิธ (คนเขียนบท)

ทั้งคู่ร่วมงานกันครั้งแรกในการเขียนบท เรื่อง 10 Things I Hate About You ซึ่งเป็นหนังโรแมนติคคอมิดี้อีกเรื่องที่ดัดแปลงจากบทละครของวิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ที่ชื่อว่า The Taming Of The Shrew และเป็นการเริ่มต้นอาชีพการแสดงของฮีธ เลดเจอร์ และจูเลีย สไตล์ส จากนั้นทั้งคู่เขียนบทหนังตลกเรื่องฮิตที่ชื่อ Legally Blonde ซึ่งนำแสดงโดย รีส วิทเธอร์สปูน ตัวหนังได้เข้าชิง 2 รางวัลลูกโลกทองคำ และได้รับรางวัลเอ็มทีวี มูฟวี่ อีกหลายรางวัล ล่าสุดทั้งคู่ได้ร่วมกันเขียนบทหนังตลกแฟนตาซี เรื่อง Ella Enchanted นำแสดงโดย แอน แฮธาเวย์ และการนำหนังของเรื่อง 9 to 5 กลับมาสร้างใหม่ รวมถึงอีกหลายโปรเจกต์ที่อยู่ในระหว่างพัฒนากับหลายๆสตูดิโอ

นอกจากงานด้านคนเขียนบท ทั้งคู่ยังเป็นนักเขียน คาเรนเคยเขียนนิยาย ที่ชื่อ The Bachelorette Party ที่ถูกตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เซ็นต์ มาร์ติน ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2005 ส่วนหนังกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาที่ทเว็นตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ หนังสือเล่มแรกของคริสเต็น ที่ชื่อ The Geography Of Girlhood จะถูกพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ลิตเติ้ล บราวน์ ในเดือนมีนาคม ปี 2006

ทอม โรเซ็นเบิร์ก (ผู้อำนวยการสร้างบริหาร)

ทอมเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของเลคชอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เขาเคยอำนวยการสร้างหนังเรื่อง Million Dollar Baby ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2005 กำกับโดย คลิ้นต์ อีสต์วู้ด นำแสดงโดยฮิลารี่ สแวงก์ และมอร์แกน ฟรีแมน ตัวหนังยังได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของฮิลารี่ สแวงก์ รวมถึงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมของมอร์แกน ฟรีแมน ล่าสุดเขาเพิ่งอำนวยการสร้างเรื่อง Underworld: Evolution นำแสดงโดย เคต เบคกินเซล และสก็อตต์ สปีดแมน กำกับโดยเลน ไวซ์แมน และเรื่อง The Exorcism Of Emily Rose นำแสดงโดยลอร่า เลนนี่ย์ โดยทั้งสองเรื่องเปิดตัวในบ็อกซ์ ออฟฟิศที่อันดับหนึ่ง

ล่าสุดเขามีหนัง 4 เรื่องที่อยู่ในช่วงขั้นตอนสุดท้ายก่อนฉาย ได้แก่ The Last Kiss นำแสดงโดย แซ็ช บราฟฟ์ และจาซินด้า บาร์เร็ตต์ กำกับโดย โทนี่ โกลด์วิน, เรื่อง Crank นำแสดงโดย เจสัน สเต็ทแธม และเอมี่ สมาร์ท, เรื่อง Blood And Chocolate นำแสดงโดยโอลิเวียร์ มาร์ติเนซ และแองเนส บรัคเนอร์ และเรื่อง The Covenant ซึ่งกำกับโดยเรนนี่ ฮาร์ลิน เครดิตผลงานเรื่องอื่นที่อำนวยการสร้างโดยเลคชอร์ ได้แก่ Wicker Park นำแสดงโดย จอช ฮาร์ทเน็ตต์, Underworld, The Human Stain นำแสดงโดยแอนโธนี่ ฮ็อพกิ้นส์ และนิโคล คิดแมน กำกับโดย โรเบิร์ต เบนตัน, The Gift นำแสดงโดยเคต แบลนเช็ตต์ และคีอานู รีฟส์ กำกับโดย แซม ไรมิ, Autumn In New York นำแสดงโดยริชาร์ เกียร์ และวิโนน่า ไรเดอร์ กำกับโดยโจแอน เช็น, Passion Of Mind นำแสดงโดยเดมี่ มัวร์, สเตลแลน สการ์สการ์ และวิลเลี่ยม ฟิชต์เนอร์, The Mothman Prophesies นำแสดงโดยริชาร์ด เกียร์, Runaway Bride นำแสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ตส และริชาร์ด เกียร์ กำกับโดยแกร์รี่ มาร์แชล, Arlington Road นำแสดงโดยเจฟฟ์ บริดเจส, ทิม ร็อบบิ้นส์ และโจแอน คูแซ็ค และเรื่อง 200 Cigarettes นำแสดงโดยเบน อัฟเฟล็ค, ค็อตนี่ย์ เลิฟ และคริสติน่า ริกชี่

เครดิตหนังก่อนหน้านี้ของเขา รวมถึง เรื่อง Kids In The Hall: Brain Candy, Til There Was You, Box Of Moonlight, The Real Blonde และ Going All The Way

แกรี่ ลุคเชสซี่ (ผู้อำนวยการสร้างบริหาร)

ปัจจุบันแกรี่เป็นประธานของเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ บริษัทผลิตภาพยนตร์อิสระในลอส แองเจอลิส ในปี 2004 เขาทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหารให้กับหนังภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ของคลิ้นต์ อีสต์วู้ด เรื่อง Million Dollar Baby นำแสดงโดยอีสต์วู้ด ฮิลารี่ สแวงก์และมอร์แกน ฟรีแมน ล่าสุดเขาเพิ่งอำนวยการสร้างหนังฮิตเรื่อง The Exorcism Of Emily Rose, Aeon Flux นำแสดงโดยชาร์ลีซ ธีรอน และเรื่องที่เพิ่งจะออกฉายที่ชื่อ Underworld: Evolution นำแสดงโดย เคต เบคกินเซล หนังเรื่องที่กำลังจะออกฉายของเขา ได้แก่ หนังของโทนี่ โกล์ดวิน เรื่อง The Last Kiss นำแสดงโดยแซ็ช บราฟฟ์ และจาซินด้า บาร์เร็ตต์ ซึ่งจะออกฉายประมาณช่วงฤดูใบไม้ร่วง, เรื่อง Piece Of My Heart นำแสดงโดยเรเน่ เซลวีเกอร์นักแสดงรางวัลออสการ์ ในบทเจ้าของตำนานอย่างเจนิส จอปลิน และหนังของฟิลลิป นอยซ์ เรื่อง American Pastoral

ในปี 2003 เขาอำนวยการสร้างเรื่อง The Human Stain ซึ่งนำเค้าโครงมาจากนิยายของฟิลลิป ร็อธ นำแสดงโดยแอนโธนี่ ฮ็อพกิ้นส์ และนิโคล คิดแมน กำกับโดย โรเบิร์ต เบนตัน เครดิตเรื่องอื่นที่ผลิตภายใต้สังกัดเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้แก่ The Cave, Undiscovered, Suspect Zero, Wicker Park, Underworld, The Mothman Prophesies, Autumn In New York, The Gift, Passion Of Mind, The Next Best Thing และ Runaway Bride ซึ่งเป็นการร่วมตัวอีกครั้งของทีมงานเรื่อง Pretty Woman อย่างจูเลีย โรเบิร์ตส ริชาร์ด เกียร์ และผู้กำกับแกร์รี่ มาร์แชล ก่อนหน้านี้เขาเป็นประธานแกรี่ ลุคเชสซี่ โปรดักชั่น ซึ่งได้อำนวยการสร้างหนังทริลเลอร์ขึ้นโรงขึ้นศาลที่ได้เข้าชิงออสการ์ เรื่อง Primal Fear นำแสดงโดยริชาร์ด เกียร์, ลอร่า ลินนี่ย์ และเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน เขายังได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี่จากการสร้างหนังที่ฉายทางทีวีให้กับเฮชบีโอ เรื่อง Gotti นำแสดงโดยอาร์แมนด์ แอสแซนตี้ เครดิตเรื่องอื่นๆของเขา ได้แก่ The Wishes, Virtuosity และ Jennifer Eight, หนังที่ฉายทางเฮชบีโอ เรื่อง Breast Men และ Vendetta และหนังรางวัลเอ็มมี่ที่ฉายทางช่องโชว์ไทม์ เรื่อง Wild Iris

ก่อนที่จะเป็นผู้อำนวยการสร้างอิสระ เขาเคยเป็นประธานฝ่ายโปรดักชั่นของพาราเม้าท์ โดยเขาได้ดูแลผลงานที่ประสบความสำเร็จทางบ็อกซ์ ออฟฟิศหลายเรื่อง เช่น Ghost, Indiana Jones And The Last Crusade, Fatal Attraction, The Hunt For Red October, Coming To America, The Naked Gun, The Untouchables, The Godfather: Part III, Days Of Thunder, Another 48 Hrs., Scrooged, Major League, Star trek V และ VI และ Black Rain ก่อนที่จะมาทำงานที่พาราเม้าท์ เขาเคยทำงานที่ไทร สตาร์ พิคเจอร์ส ถึง 4 ปีในฐานะรองประธานและรองประธานอาวุโสด้านโปรดักชั่น เขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นเอเยนต์ที่วิลเลี่ยม มอร์ริส ซึ่งเขาดูแลดารา อย่าง เควิน คอสเนอร์, มิเชลล์ ไฟเฟอร์, ซูซาน ซาแรนดอน และจอห์น มัลโควิช

มาร์ตี้ อีวิง (ผู้อำนวยการสร้างบริหาร)

ไม่นานมานี้เขาเพิ่งอำนวยการสร้างผลงานดราม่า เรื่อง The Prize Winner Of Defiance, Ohio นำแสดงโดยจูเลียน มัวร์, หนังตลกเรื่อง Man Of The House นำแสดงโดยทอมมี่ ลี โจนส์ และหนังดราม่า เรื่อง Ladder 49 นำแสดงโดยโจควิน ฟีนิกซ์ และจอห์น ทราโวลต้า ก่อนหน้านี้เขาเคยอำนวยการสร้างบริหารในหนังที่ได้รับคำชมอย่าง Holes และ My Dogs Skip เครดิตอำนวยการสร้างยังรวมถึง การร่วมอำนวยการสร้างในหนังเรื่อง Stealing Harvard และ Sweet November, Almost Famous และ The Haunting

นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่ผู้จัดการโปรดักชั่นในหนังหลายเรื่อง เช่น The X-Files, Face/Off, 2 Days In The Valley และ Jumanji เขาเคยร่วมงานกับโรเบิร์ต ซีเม็คคิส ในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับในเรื่อง Death Becomes Her และ Who Framed Roger Rabbit เขายังเคยทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับให้กับหนังอีกหลายเรื่อง ได้แก่ The Flintstones, Other People’s Money, Class Action, Tango & Cash, Nobody’s Fool, Perfect, Terms Of Endearment, Flashdance, Fast Times At Ridgemont High และ Urban Cowboy

เกรกอรี่ การ์ดิเนอร์ (ผู้กำกับภาพ)

ไม่นานมานี้ เขาเพิ่งถ่ายทำหนังตลกครอบครัวเรื่อง Herbie: Fully Loaded นำแสดงโดยลินด์เซย์ โลฮาน, ไมเคิล คีตัน และแม็ต ดิลลอน เครดิตล่าสุดของเขาได้แก่ หนังของแบร์รี่ ซอนเน็นเฟล เรื่อง Men In Black II, หนังตลกเรื่อง Elf ของผู้กำกับ จอน แฟ็ฟโรว์ และหนังตลกของฝาแฝดโอลเซ็น เรื่อง New York Minute ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้รับรางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยมในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 1993 และได้เข้าชิงรางวัลอินดิเพนเด้นท์ สปิริต จากหนังเรื่อง Suture เครดิตผลงานเรื่องอื่นๆ รวมถึง หนังอิสระเรื่อง Big Trouble, Orange County, To End All Wars, Where’s Marlowe? และ Homegrown นอกจากนั้น เขายังทำงานในโปรเจกต์ทางทีวีหลายเรื่อง เช่น The Flash, The Sentinel และ Viper

เดวิด เจ บอมบา (โปรดักชั่น ดีไซน์เนอร์)

เดวิดเคยทำหน้าที่โปรดักชั่น ดีไซน์เนอร์ให้กับหนังฮิตเมื่อปีที่แล้ว เรื่อง Walk The Line นำแสดงโดยโจควิน ฟีนิกซ์ และรีส วิทเธอร์สปูน กำกับโดย เจมส์ แมนโกลด์ เครดิตผลงานล่าสุดของเขา ได้แก่ The Wendell Baker Story กำกับและแสดงโดย ลุค วิลสัน, หนังของทิม แม็คแคนไล เรื่อง Secondhand Lions นำแสดงโดย โรเบิร์ต ดูวัล,ไมเคิล เคน และฮาลี่ย์ โจเอล ออสเม้นต์, หนังของคัลลี่ย์ คูรี่ เรื่อง Divine Secrets Of The Ya-Ya Sisterhood นำแสดงโดย ซานดร้า บูลล็อค และเอลเลน เบิร์นสตีน และหนังของเจย์ รัสเซล เรื่อง My Dog Skip

นอกจากนั้น เขายังเคยทำงานในฐานะผู้กำกับศิลป์ในหนังหลายเรื่อง เช่น หนังของสตีเว่น เซลเลี่ยน เรื่อง A Civil Action, หนังของโรเบิร์ต เบนตัน เรื่อง Twilight, หนังของแอนดรูว์ เดวิส เรื่อง Chain Reaction, หนังของจอห์น เชลซิงเกอร์ เรื่อง Eye For An Eye, หนังของรอน โฮเวิร์ด เรื่อง Apollo 13, หนังของบรู๊ซ เบเรสฟอร์ด เรื่อง Silent Fall และหนังของจอห์น วอเตอร์ส เรื่อง Serial Mom

ไมเคิล บาร์โลว์ (คนตัดต่อ)

ไมเคิลเคยเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่จากหนังที่ได้รับคำชมของเฮชบีโอเรื่อง 61* กำกับโดย บิลลี่ คริสตัล เขายังเข้าชิงรางวัลเอ็ดดี้จากเรื่องนี้อีกด้วย ทางด้านจอภาพยนตร์ ล่าสุดเขาเพิ่งตัดต่อหนังตลกเรื่อง Beauty Shop และ Old School เครดิตผลงานเรื่องอื่นๆ รวมถึง The Last Castle, The Contender, Can’t Hardly Wait, Homegrown, Commandments, Muppet Treasure Island, Little Big League, The Muppet Christmas Carol, The Marrying Man, The Naked Gun, Throw Momma From The Train และ Modern Problems

เขาเคยตัดต่อผลงานทางทีวี เช่น Breast Men, Christmas In Connecticut, Family Of Spies, Conspiracy: The Trial Of The Chicago 8, When The Bough Breaks, Acceptable Risks และ Copacabana

คาเทีย สตาโน่ (คนออกแบบเสื้อผ้า)

คาเทียเคยออกแบบเสื้อผ้าให้กับหนังและผลงานทางทีวีมากมาย เครดิตหนังของเธอ ได้แก่ Deepwater นำแสดงโดยลูคัส แบล็ค, The Deal นำแสดงโดยคริสเตียน สเลเตอร์ และเซลม่า แบลร์ และเรื่อง We Don’t Live Here Anymore นำแสดงโดยนาโอมิ วัตต์, มาร์ค รัฟฟาโล่, ลอร่า เดิร์น และปีเตอร์ดครอส ทางด้านทีวี เขาเพิ่งเสร็จสิ้นงานออกแบบให้กับ เรื่อง Blade ซึ่งอำนวยการสร้างโดย เดวิด โกเยอร์ เธอยังเคยทำงานให้หนังยาว เช่น Amber Frey: Witness For The Prosecution นำแสดงโดย จาเนล โมโลเนย์

เธอเกิดที่ประเทศปราก โดยเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าด้วยผลงานของเธอที่ชื่อว่า Noir จากนั้นเธอก็ย้ายมาทำงานด้านภาพยนตร์โดยหวังที่จะช่วยสร้างตัวละครและร่วมงานกับทีมนักสร้างภาพยนตร์หลายๆคน ปัจจุบันเธอต้องแบ่งเวลาไปมาระหว่างลอส แองเจอลิส และแวนคูเวอร์

นาธาน แวง (คนประพันธ์เพลงประกอบ)

ก่อนหน้านี้ นาธานเคยร่วมงานกับแอนดี้ ฟิคแมน ในเรื่อง Reefer Madness: The Movie Musical และในหนังตลกเรื่อง Who’s Your Daddy? เขาอาจเป็นที่รู้จักอย่างดีในผลงานของผู้กำกับชาวฮ่องกง สแตนลี่ย์ ตอง และตำนานแอคชั่นอย่าง แจคกี้ ชาน เขาแต่งเพลงประกอบในหนังของตองหลายเรื่อง เช่น Rumble In The Bronx, Jackie Chan’s First Strike, Jackie Chan’s Who Am I?, และ The Myth โดยทุกเรื่องแสดงโดยชาน

นอกจากนี้ เขายังแต่งเพลงให้กับหนังสารคดีอีกหลายเรื่อง รวมถึง หนังสารคดีรางวัลออสการ์ของผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้าง เจมส์ มอล เขาร่วมงานกับมอลเป็นครั้งแรกในหนังเรื่อง The Lost Children Of Berlin ในปี 1997 ปีถัดมา เขาทำหน้าที่นักแต่งเพลงในหนังของมอล เรื่อง The Last Days ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ตั้งแต่นั้นมา เขาก็แต่งเพลงให้กับหนังสารคดีของมอลอีกหลายเรื่อง เช่น Price For Peace, Burma Bridge Busters และ The Four Chaplains: Sacrifice At Sea ล่าสุดเขาเพิ่งแต่งเพลงให้กับหนังสารคดีเรื่อง One Six Right

เครดิตของแวงรวมถึงผลงานการ์ตูน หนังวีดีโอ และซีรีส์อีกมากมาย เขายังแต่งเพลงให้กับซีรีส์เรื่อง American Family ซึ่งนำแสดงโดยเอ็ดเวิร์ด เจมส์ ออลมอส และโซเนีย บราก้า, เรื่อง That’s Life นำแสดงโดย เดบี้ มาซาร์, เอลเลน เบิร์นสตีน และพอล ซอร์วีโน่, เรื่อง Tales From The Crypt, Cops และ China Beach