“อัตลักษณ์คือชะตาชีวิต : Identity is Destiny”
จิตรกรรมนามธรรมของคนสองคน
ศิลปิน : ทวีศักดิ์ อุชุคตานนท์ และ อนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี
โดย หอศิลป์ตาดู, ยนตรกิจกรุ๊ป และ สีนิปปอนเพนต์
นิทรรศการตั้งแต่ วันที่ 4 – 31 พฤษภาคม 2549
เปิดนิทรรศการวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2549 เวลา 18.00 น. ณ หอศิลป์ตาดู
ถ้าชีวิตคือการเรียนรู้และคนเรานั้นต้องเรียนรู้ไปจนตลอดชีวิต เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรกับทางอันมืดมนข้างหน้า ที่มักจะไม่มีใครบอกกล่าวไว้เป็นสูตรสำเร็จ หากจะมีสูตรสำเร็จที่ว่านั้น มันก็มักจะเย้ยความท้าทายที่มีอยู่ในตัวเราซะจนเรามองมันแค่ปรายตา
พิจารณาผลงานในงานนิทรรศการครั้งนี้ ทวีศักดิ์ อุชุคตานนท์ นำผลงานที่แสดงถึง ศิลปะภาวะ ที่เกิดขึ้นกับศิลปินและสิ่งนั้นเป็นเรื่องสำคัญ มาจากการปฏิบัตินั่นคือการ “การคิดได้” อันเป็นการคิดได้จากการปฏิบัติตนจากการทำงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง จากการสั่งสมที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับตัวตนเอง ชุดงานของทวีศักดิ์นั้นได้อธิบายถึงการคลายตัว การหลุดออก และการไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดแต่ต้น แต่กระนั้นงานอีกชุดของเขาดูเหมือนจะเป็นการชี้เฉพาะถึงตัวตนของตัวเองว่า ในศิลปินนั้นมีงานศิลปะและเช่นเดียวกันที่เราเห็นงานศิลปะมีศิลปินเป็นรูปร่าง เราจึงเห็น ตัวตนของรูปร่าง ตัวตนของรูปเขียน ตัวตนของความคิด ตัวตน…ของศิลปิน
ส่วน อนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี นั้นมุ่งมั่นค้นหาตัวตนและมีความสุขกับการเดินทางของตนทุกๆ ก้าว แม้นว่าเขาจะเดินทางมาได้ในระยะทางหนึ่งแล้ว แต่เขากลับเงยหน้าและสายตาได้สร้าง ทาง ให้เกิดขึ้นอีก ยาวไกลขึ้นอีก เพราะเมื่อได้เริ่มเดินทาง เขาก็เริ่มมีความสุขและเริ่มค้นพบสิ่งต่างๆ และได้พบปะกับตัวตน ได้รับรู้ถึงศักยภาพตน จึงเห็นว่างานวาดภาพสีน้ำในชุดปัจจุบันมีความต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้น แจ่มชัดขึ้น บางครั้งเราเห็นเรื่องราว บางคราวเราเห็นเพียงม่านบังตาบางๆ ไม่รู้จบ อนุพันธุ์ยังคงเดินอยู่ในม่านที่สลับซับซ้อนไปไม่สิ้นสุดตราบที่เมื่อไหร่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง และใช้สายตาก่อสร้างหนทางในการเดินทางในแบบอื่นๆ เมื่อนั้น ตัวตนแห่งฝุ่นสี ตัวตนแห่งรอยเปื้อนและการเคลื่อนตัว อาจจะแปรเปลี่ยนไปตามทาง
นอกเหนือจากนิทรรศการแล้ว ในวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2549 ทางหอศิลป์ตาดู, สีนิปปอนเพนท์ ได้จัดกิจกรรม “จิตรกรรมสีน้ำเพื่อความสุขสงบ (Painting for Meditation)” เพื่อพัฒนาจิตวิญญาณ โดยการใช้การวาด (painting) สำหรับบุคคลผู้สนใจศิลปะ ซึ่งศิลปินทั้งสองเป็นผู้สอนด้วยตัวเอง ตั้งแต่เวลา 9.00 – 15.00 น. ณ หอศิลป์ตาดู สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หอศิลป์ตาดู รับจำนวนจำกัด!!!