ในภาพ (จากซ้าย) ชี้ค อาเหม็ด บิน ซาอิด อัล มัคตุม ประธานและผู้อำนวยการ สายการบินเอมิเรตส์ กรุ๊ป และ โจเซฟ เอส แบลทเทอร์ ผู้อำนวยการฟีฟ่า ร่วมชูถ้วยรางัลฟีฟ่า โดยมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการิบรเอมิเรตส์ร่วมถ่ายภาพ
สายการบินเอมิเรตส์ กายการบินนานาชาติที่มีการเติบโตเร็วที่สุดของโลก ได้ลงนามสัญญา มูลค่า 195 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 7.38 พันล้านบาท) ในการเป็นผู้สนับสนุนฟีฟ่า ระหว่างปี พ.ศ. 2550-2557 ซึ่งเป็นปีที่สายการบินฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้เป็น 2 เท่าของปัจจุบัน
ในฐานะหุ้นส่วนของฟีฟ่า 2549 ที่รปะเทศเยอรมัน และการเป็นผู้ให้การสนับสนุนผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ สายการบินเอมิเรตส์จึงได้รับสิทธิ์ในทุกรายการแข่งขันของฟีฟ่า รวมไปถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก ฟีฟ่าเวิลด์คัพ 2553 และ 2557 ซึ่งเป็นการสนับสนุนการสร้างการรับรู้ต่อสื่อมวลชนทั่วโลก และต่อรายการแข่งขันพิเศษต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟีฟ่า รวมถึงความคิดริเริ่มในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ
ในปัจจุบัน สายการบินเอมิเรตส์ เป็นผู้ให้การสนับสนุนหลักการแข่งขันฟุตบอลโลกฟีฟ่าเวิลด์คัพ 2549 ที่ประเทศเยอรมัน และความสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้ทำให้ตำแหน่งของสายการบินฯ นั้นกลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกีฬาฟุตบอลนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก
หลักข้อตกลงให้การสนับสนุน ซึ่งจัดเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่สายบินนานาชาติประจำดูไบนี้ได้ให้ความร่วมมือ ได้รับการลงนามโดย ชี้ค อาเหม็ด บิน ซาอิด อัล มัคตุม ประธานสายการบินเอมิเรตส์ และ มร. โจเซฟ เอส. แบลทเทอร์ ประธานฟีฟ่า ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท ดูไบ
ชี้ค อาเหม็ด กล่าวเกี่ยวกับข้อตกลงว่า “การที่ได้เป็นหนึ่งในสนับสนุนหลักการแข่งขันฟุตบอลโลกฟีฟ่าเวิลด์คัพ 2006 นั้น เอมิเรตส์ต้องการที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสายการบินและการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางที่สุดในโบก โดยการสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนงานของ เอมิเรตส์ในการสร้างแบรนด์ระดับโลกสร้างชื่อในท้องถิ่น และสร้างการเชื่อมโยงในรายการแข่งขันที่มีชื่อเสียงก้องโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะทำให้สายการบินฯ สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้”
“สายการบินฯ เชื่อว่ากีฬาเป็นสื่อกลางที่ดีที่สุดในการสื่อสารกับผู้โดยสาร และฟุตบอลนับเป็นพื้นฐานอันสมบูรณ์แบบสำหรับการร่วมแบ่งปันและร่วมเพลิดเพลินในสิ่งที่ลูกค้าของเราชื่นชอบการเป็นผู้สนับสนุนครั้งนี้ทำให้เราสามารถสร้างการรับรู้ในแบรนด์ของสายการบินในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลทั่วทุกมุมโลก รวมถึงในดูไบอีกด้วย”
“ทั้งนี้ อีกหนึ่งความตั้งใจของสายการบินฯ คือการได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่ง่ขันฟีฟ่าบีซซ็อคเกอร์เวิลด์คัพ ซึ่งเป็ฯการแข่งขันแรกที่จะจัดขึ้นในตะวันออกกลาง ดังนั้น การที่เอมิเรตส์เป็นผู้สนับสนุนให้กับฟีฟ่า นับเป็นสิ่งที่ดีต่อทั้งดูไบและภูมิภาคตะวันออกกลาง” ชี้ค อาเหม็ด กล่าว
การได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก เป็นสิ่งหนึ่งที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทำได้อย่างดีเยี่ยม และการแข่งขันของฟีฟ่าทั้ง 2 รายการนี้ จะนำนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกสู่ดูไบทั้งยังเป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพความสามารถ และสาธารณูปโภคสำหรับการจัดรายการแข่งขันระดับโลก รวมถึง โรงแรมชั้นเยี่ยม ชายหาดอันงดงาม เครื่องอำนวยความสะดวกที่เหมาะต่อการพักผ่อน และภูมิอากาศที่ดี
มร. โจเซฟ เอส. แบลทเทอร์ ผู้อำนวยการฟีฟ่า กล่าวถึงข้อตกลงนี้ว่า “ผมมีความภาคภูมิใจเป็นอย่งยิ่งที่สายการบินอันทรงเกียรติและประและประสบความสำเร็จ ในขณะนี้ได้แสดงความเชื่อมั่นร่วมกับฟีฟ่าในระดับที่สูงขึ้น และยินดีให้ความร่วมมือในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ฟีฟ่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานร่วมกับหุ้นส่วนที่มีอุดมคติและภารกิจเดียวกัน เพื่อรวมกันพัฒนาและสร้างการรับรู้ในการแข่งขันฟุตบอลให้มั่นคงยิ่งขึ้นต่อไป”
ทั้งนี้ ผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์จากทั่วโลกยังจะได้รับประโยชน์ต่างๆ จากการทำสัญญาครั้งนี้เช่นกันโดยสายการบินฯ ได้รับสิทธิ์ให้ออกอากาศการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี พ.ศ. 2553 และปีพ.ศ. 2557 ทั้งแพร่ภาพสดและออกอากาศซ้ำ ในระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์บนเครื่องบิน
นอกจากนั้น แบรนด์ของสายการบินเอมิเรตส์ยังจะปรากฎสู่สายตาของผู้ชมการแข่งขันฟุตบอล ในทุกการแข่งขันที่จัดขึ้นโดยสโมสรฟีฟ่าตลอด 8 ปีตามข้อตกลง ซึ่งรวมแล้วประมาณ 44 รายการแข่งขัน และ 952 รอบการแข่งขัน รวมถึงบนของที่ระลึกจากฟีฟ่า และเว็บไซต์ ซึ่งจะได้รับการติดตามจากแฟนบอลหลายพันล้านคนทั่วโลก ในช่วงที่สายการบินฯ เป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย
ทั้งนี้ ในโอกาสที่สายการบินฯ เป็นผู้ให้การสนับสนุนเพียงรายเดียวจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ฟีฟ่าจึงได้ให้ความสำคัญในสถานะของกายการบินเอมิเรตส์เป็นอันดับแรก และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการเดินทางของ ทีม/กลุ่ม ไปยังจุดหมายที่สายการบินฯ ให้บริการ โดยจะทำให้สายการบินสามารถเติบโด และสร้างการรับรู้สู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั่วโลกต่อไป รวมทั้งยังสามารถพัฒนาให้ดูไบเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการบิน และแหล่งท่องเที่ยวอันยอดเยี่ยมของโลกอีกด้วย