ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นบวก

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating (“IDR”)) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (“BAY”) เป็นบวก จากเดิมที่อันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตที่ ‘BB+’ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ได้คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘B’ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ ‘BB’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘D’ และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘3’ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ยังได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาว ของ BAY เป็นบวก จากเดิมที่อันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ ‘A-(tha)’ (A ลบ (tha))

การปรับอันดับเครดิตในวันนี้ สืบเนื่องมาจากการประกาศของคณะกรรมการธนาคารของ BAY ว่าธนาคารกำลังพิจารณาการเสนอซื้อหุ้นสามัญโดย GE Capital Asia Pacific (“GE Capital”) ผ่านการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่เพื่อเสนอขายต่อผู้ลงทุนในลักษณะเฉพาะเจาะจง (“private placement”) การเสนอซื้อดังกล่าวอาจส่งผลให้ GE Capital มีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 25% ของทุนของ BAY คณะกรรมการธนาคารของ BAY ได้มีมติให้ความเห็นชอบในเรื่องราคาหุ้น แต่เงื่อนไขต่างๆในขั้นตอนสุดท้าย มูลค่าของ private placement และสัดส่วนการถือหุ้นโดย GE Capital ยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของธนาคารและการอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (“BOT”) หากการเสนอซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวประสบความสำเร็จ ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม GE จะต้องคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์แก่ BOT ภายใต้นโยบาย One Presence ของแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (“the Financial Sector Master Plan”) ซึ่งอนุญาตให้กลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจทางด้านการเงินสามารถมีสถาบันการเงินที่รับเงินฝากจากประชาชนได้เพียงสถาบันเดียวเท่านั้น ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 17.3 พันล้านบาท ในขณะที่ BAY มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 661 พันล้านบาท

ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 ฟิทช์ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ BAY ซึ่งได้สะท้อนถึงผลกำไรจากการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะยังมีประเด็นเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของระดับการกันสำรองหนี้สูญและระดับความพอเพียงของเงินกองทุน การเพิ่มระดับเงินกองทุนจะช่วยแก้ไขประเด็นดังกล่าว รวมทั้งสนับสนุนเครือข่ายของธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนการดำเนินธุรกิจธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อยของธนาคาร BAY ยังน่าจะได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ GE Capital ในด้านการบริการทางธุรกรรมระดับสากล ด้านเทคโนโลยี และด้านปฏิบัติการ การดำเนินธุรกิจธนาคารที่มุ่งเน้นลูกค้ารายย่อยซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าน่าจะช่วยให้ผลกำไรของธนาคารปรับตัวดีขึ้น ฟิทช์มองว่าการเสนอซื้อหุ้นสามัญโดย GE Capital เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นของ BAY และอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นสำหรับภาคธุรกิจธนาคารของประเทศไทยทั้งหมดด้วย

ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963

หมายเหตุ :
การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้

คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน