องค์การเภสัชกรรม ปลื้มผลตอบรับครีมบำรุงผิวหน้า จีพีโอ เคอร์มิน ดีเกินคาด เตรียมออกผลิตภัณฑ์เจล และโทนเนอร์ เพื่อการบำรุงผิวแบบครบขั้นตอน ชี้จุดเด่นอยู่ที่เหมาะกับสภาพผิวคนไทย และการผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
พลโทนายแพทย์มงคล จิวะสันติการ ผู้อำนวยการ องค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของการนำผลิตภัณฑ์ ครีมบำรุงผิวหน้า จีพีโอ เคอร์มิน (GPO Curmin Cream) ออกจำหน่ายให้กับผู้บริโภคชาวไทยเมื่อปี 2548 ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี โดยมียอดจำหน่ายครีมบำรุงผิวหน้าจำนวนกว่า 50,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าราว 420 ล้านบาทนั้น จึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้น ได้แก่ จีพีโอ เคอร์มิน คลีนซิ่ง เจล (GPO Curmin Cleansing Gel) และ จีพีโอ เคอร์มิน ไฮเดรติ้ง โทนเนอร์ (GPO Curmin Hydrating Toner) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการบำรุงผิวหน้าที่ครบขั้นตอน
“เรามีการค้นคว้า และทำวิจัยอย่างหนัก ในการสรรหาวัตถุดิบจากธรรมชาติที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคนไทย รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ล้ำสมัย เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า “จีพีโอ เคอร์มิน” ที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาผิวพรรณ และยังเหมาะกับสภาพแวดล้อม รวมทั้งสภาพผิวของคนไทยมากที่สุด”
ผลจากการวิจัยขององค์การเภสัชกรรมพบว่า สภาวะแวดล้อมในปัจจุบันที่มีแต่มลภาวะ ฝุ่นควัน และแสงแดด รวมถึงความเครียด ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการทำลายผิว ทำให้ผิวหน้าเกิดความหมองคล้ำ ผิวแห้ง และเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นการใส่ใจดูแลสุขภาพผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งองค์การเภสัชกรรมเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงคิดค้นผลิตภัณฑ์ “จีพีโอ เคอร์มิน” ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อเป็นการเริ่มต้นในการช่วยป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสุขภาพผิวที่ดี ชุ่มชื้นเนียนใส ไร้ริ้วรอย
โดยในปี 2548 ที่ผ่านมา องค์การเภสัชกรรม ได้มีการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ ครีมบำรุงผิวหน้า จีพีโอ เคอร์มิน (GPO Curmin Cream) เป็นครีมเพื่อการบำรุงผิวหน้า และป้องกันการเกิดริ้วรอย เนื้อครีมขาวบริสุทธิ์ด้วยคุณค่าจากสารสกัด THC จากขมิ้นชันผสานกับนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีที่ย่อยขนาดอนุภาคของไลโปโซมให้เล็กในระดับนาโนเมตร จึงสามารถซึมลึกได้ถึงชั้นเซลล์ผิว เพื่อประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยสารสำคัญ D-Panthenol และ Provitamin B5 เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า ทำให้สุขภาพผิวหน้าเนียนใส ไร้ริ้วรอย
จากผลสำเร็จทางด้านยอดขาย และกระแสการตอบรับที่ดีของผู้บริโภคที่มีต่อ ครีมบำรุงผิวหน้า จีพีโอ เคอร์มิน องค์การเภสัชกรรมจึงได้ค้นคิดผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวหน้าได้อย่างครบวงจร ประกอบด้วย จีพีโอ เคอร์มิน ไมลด์ คลีนซิ่ง เจล (GPO Curmin Mild Cleansing Gel) เจล ใสบริสุทธิ์สูตร Non –Ionic สำหรับล้างหน้าที่มีความอ่อนโยน ปราศจากฟอง และสารทำความสะอาดที่เป็นกรดหรือด่าง มี pH 5.5 จึงไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ผ่านการทดสอบการระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ทั้งยังมีสารสกัด THC จากขมิ้นชัน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และ จีพีโอ เคอร์มิน ไฮเดรดติ้ง โทนเนอร์ (GPO Curmin Hydrating Toner) โทนเนอร์ใสบริสุทธิ์ ปราศจากแอลกอฮอลล์ มีค่า pH 5.5 ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ผ่านการทดสอบการระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย สามารถเช็ดทำความสะอาด และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี พร้อมสารสกัด THC จากขมิ้นชัน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวหน้าจากการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
นายแพทย์มงคล กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมยังได้เตรียมงบประมาณในการดำเนินงานโฆษณา และประชาสัมพันธ์สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า จีพีโอ เคอร์มิน ไว้ราว 25 ล้านบาท โดยจะมีการจัดทำภาพยนตร์โฆษณาความยาว 30 วินาที และคัทดาวน์ 15 วินาที ชื่อชุด “ไม่เปลี่ยนแปลง” จะออกอากาศในวันที่ 20 พฤษภาคมศกนี้ ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับคุณสมบัติของชุดปรนนิบัติผิว 3 ขั้นตอน ที่จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยของสาวไทยแม้เวลาจะเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีการโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
สำหรับแผนการส่งเสริมการขายในช่วงแรกนั้น องค์การเภสัชกรรมได้จัดกิจกรรม โรดโชว์ตระเวนตามอาคารสำนักงานต่าง ๆ มหาวิทยาลัย และห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต, หาดใหญ่, เชียงใหม่, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, นครราชสีมา, นครสวรรค์ และ พัทยา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จัก และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งกิจกรรมโรดโชว์จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนสิงหาคมศกนี้
ส่วนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า จีพีโอ เคอร์มิน นั้น องค์การเภสัชกรรมจะมีการกระจายการจำหน่ายไปยังตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่ อาทิ ห้างสรรพสินค้า และร้านขายยาชั้นนำทั่วประทศให้มากขึ้น ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายทั่วประเทศได้ในราวเดือนพฤษภาคมศกนี้
