“แจว มาแจว จ้ำจิ่ง น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว…แจวมาแจว จ้ำจิ่ง ขอเชิญน้องใหม่ลุกขึ้นมาแจว” เสียงรุ่นพี่ปี 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ดังลั่นเชียร์ให้ “น้องใหม่” ที่ยังดูเขิน ๆ ลุกขึ้นมาเต้นรำกัน
“มิถุนายน” คือฤดูกาลแห่งการรับน้องใหม่ของนักศึกษาแทบทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
… เสียงเพลงประจำสถาบันที่ดังกึกก้อง การบูมเชียร์ต้อนรับน้องใหม่จากรุ่นพี่ การเต้นประกอบเพลงด้วยท่าทางและลีลาอันเป็นเอกลักษณ์ ภาพการรับน้องที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน สะท้อนอิสระทางความคิดและการแสดงออก ทำให้เยาวชนหลายคนใฝ่ฝันที่จะเข้ามาสัมผัสกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
นายเฉลิมพล น้อยอิ่ม น้องใหม่คณะวิทยาศาสตร์ ม.ศิลปากร บอกว่า “รู้สึกดีมากกับการรับร้องน้อง ได้รู้จักสังคมใหม่ เพื่อนใหม่หลากคณะ ได้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องเพื่อนฝูง ได้เรียนรู้ความเป็นผู้นำ การกล้าแสดงออก และการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในหมู่เพื่อน ๆ“
ส่วน นายจักร น้องใหม่ คณะดุริยางค์ศิลป์ ม.ศิลปากร เปิดใจว่า “มาร่วมงานรับน้องทำให้ผมเรียนรู้การเข้าสังคม รู้จักให้ความสนุกกับคนอื่น ได้ออกมาเต้นโชว์เพื่อน ๆ ฝึกความกล้าแสดงออก ผมอยากให้ผู้ใหญ่เปิดรับความคิดของเด็ก ๆ เพิ่มขึ้นครับ”
ขณะที่น้องปุ้ย น้องใหม่หน้าใส คณะอักษรศาสตร์ แย้มความรู้สึกว่า “รู้สึกดีมาก รู้สึกถึงความเป็นอิสระเมื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัย ได้ฝึกความอดทนกับสิ่งที่เราไม่ชอบ ได้ทำความเข้าใจและไม่มีอคติกับสิ่งใหม่ ๆ คิดว่าการรับน้องช่วยลดอุปสรรคช่องว่างในการเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ”
จากการสำรวจงาน “รับน้อง” ในหลายมหาวิทยาลัยพบว่ามีองค์กรเอกชนส่วนหนึ่งได้ “สนับสนุนประเพณีการรับน้องใหม่” ด้วยความเชื่อที่ว่าเยาวชนเหล่านี้ต้องการอิสระและการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้ง วัน-ทู-คอล ! ที่ได้นำ แคมเปญ One-2-Call! Freedom Freshy 2006 เข้าสนับสนุนการรับน้องแนวสร้างสรรค์ และการแสดงออกอย่างเป็นอิสระ
นางสาวมงคลรัตน์ ก้อนเครือ ชั้นปีที่ 3 คณะโบราณคดี กล่าวว่า “รู้สึกดีที่ภาคเอกชนให้ความสำคัญกับกิจกรรมของนักศึกษา เพราะงบประมาณของพวกเราก็มีจำกัด การสนับสนุนของหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้การรับน้องของเรามีสีสันมากขึ้นค่ะ”
“ เราเข้าสนับสนุนงานประเพณี “รับน้องใหม่” ให้กับนักศึกษาในสถาบัน การศึกษาทั่วประเทศ เพราะเราคิดว่า กิจกรรมรับน้องเป็นหนึ่งในที่สุดของกิจกรรมทั้งหมดในชีวิตมหาวิทยาลัยของนักศึกษาทุกคน นอกจากนี้เยาวชนยังไขว่คว้าหา “อิสระ” ในการแสดงออกทุก ๆ ด้าน ซึ่ง
วัน-ทู-คอล ! ได้เข้ามาส่งเสริมตรงจุดนี้ ให้เขาได้แสดงออกอย่างอิสระ ในเชิงสร้างสรรค์และงดงามสำหรับทุก ๆ ฝ่าย ข้อสำคัญคือรักษาความหมายที่แท้จริงของประเพณี “การรับน้อง” ให้คงอยู่ต่อไป” นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าว
งานรับน้องใหม่ ยังสะท้อนถึงความเสียสละและตั้งใจของ “รุ่นพี่” ที่ระดมไอเดีย และระเบิดความคิดโดยหวังให้ กิจกรรมรับน้องใหม่ออกมาดีที่สุด …เพื่อน้องใหม่ทุกคน
นายปรัชชารัตน์ แสงจันทร์ นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร บอกว่า “พวกเราเชื่อว่าการรับน้องเป็นกิจกรรมที่ควรรักษาไว้ เพราะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อน ,
พี่ และน้อง ทำให้ “น้องใหม่” เรียนรู้เรื่องการเสียสละ การช่วยเหลือกัน และสร้างมิตรภาพได้ทันที และจริง ๆ แล้วการรับน้องไม่ได้รุนแรงอย่างที่ผู้ใหญ่คิด”
นายพีท – ฉลองรัฐ นพวิชัย นักศึกษาชั้นปีที่ 2 และนักร้องจาก The Star เปิดใจถึงการรับน้องว่า “พีทคิดว่ามันสำคัญสำหรับชีวิตเฟรชชี่นะ อยากให้น้องได้สัมผัสบรรยากาศ ถึงจะเหนื่อยหรือเต้นอะไรที่ดูประหลาด แต่มันก็ได้อะไรเยอะกว่าที่จะคิดว่ามาเพื่อเต้นแร้งเต้นกา”
สำหรับการรับน้องของ ม.ศิลปากรในครั้งนี้ ดำเนินมาถึงตอนค่ำคืนกับการประกวดหา Freedom Guy และ Freedom Girl โดยนักศึกษาน้องใหม่ได้สะท้อนความคิดเกี่ยวกับคำว่า “อิสระ” อาทิ
“พอจบมัธยมแล้วก็สามารถที่จะเลือกทางเดินของชีวิตของเราเองก็ได้ค่ะ นี่คือความเป็นอิสระสุด ๆ ค่ะ” น.ส. ปาริชาติ สุทธสาร น้องใหม่หน้าใสจากคณะสถาปัตยกรรม ผู้เข้าประกวด Freedom Girl กล่าว
..ในที่สุดงาน”รับน้องใหม่” ก็ได้ปิดท้ายลงอย่างสร้างสรรค์ และงดงามที่สุด ในอีกปีหนึ่ง.